ไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเล เล่นกีฬากลางแจ้ง หรือเผลอเดินกลางแดดนานไปหน่อย ปัญหา “ผิวไหม้แดด” ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ สร้างอาการปวดแสบปวดร้อน ผิวแดงลอก และความรู้สึกไม่สบายผิวอย่างมาก แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ หากคุณดูแลผิวอย่างถูกวิธีและทันท่วงที ก็สามารถบรรเทาอาการและช่วยให้ผิวฟื้นตัวกลับมาสวยใสได้เร็วขึ้น บทความนี้ได้รวบรวม 5 สเต็ปง่ายๆ ในการ “ดูแลผิวหลังออกแดด” ที่ไหม้เกรียมให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
“ผิวไหม้แดด” คืออะไร? และมีอาการอย่างไร?
ผิวไหม้แดด คือ ปฏิกิริยาการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดมากเกินไป ทำให้เซลล์ผิวหนังได้รับความเสียหายและเกิดอาการต่างๆ ตามมา:
- ผิวแดงและร้อน เป็นอาการแรกที่สังเกตได้ ผิวจะรู้สึกอุ่นหรือร้อนเมื่อสัมผัส
- อาการปวดแสบหรือเจ็บ ผิวจะมีความไวต่อการสัมผัสมากขึ้น
- ผิวบวม อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ไหม้แดด
- ตุ่มน้ำใส (Blisters) ในกรณีที่ผิวไหม้แดดรุนแรง อาจเกิดตุ่มน้ำใสขึ้น
- ผิวลอก หลังจากผ่านไป 2-3 วัน ผิวหนังชั้นนอกที่เสียหายจะเริ่มลอกออก
- ในกรณีที่รุนแรงมาก อาจมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย
5 สเต็ป “วิธีแก้ผิวไหม้แดด” ฉบับเร่งด่วน ปลอบประโลมและฟื้นฟูผิว
เมื่อรู้ตัวว่าผิวไหม้แดด ควรรีบดูแลผิวตามขั้นตอนต่อไปนี้โดยเร็วที่สุด
1. หลบแดดและลดอุณหภูมิผิวทันที (Get Out of the Sun & Cool Down)
-
- หลบเข้าร่มทันที สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหยุดรับรังสี UV เพิ่มเติมโดยการหลบเข้าร่มหรือเข้าอาคารทันที
- ประคบเย็น (Cool Compress) ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็งโดยตรง) ประคบบริเวณที่ไหม้แดดประมาณ 10-15 นาที ทำซ้ำได้หลายครั้งต่อวันเพื่อช่วยลดความร้อนและบรรเทาอาการปวดแสบ
- อาบน้ำเย็น การอาบน้ำด้วยน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่น) จะช่วยลดอุณหภูมิผิวได้ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่รุนแรงหรือการขัดถูผิว
2. เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยน (Gentle Moisturization)
-
- หัวใจสำคัญคือ “ว่านหางจระเข้” เจล “ว่านหางจระเข้” (Aloe Vera) เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการปลอบประโลมผิวไหม้แดด เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้น และให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว ควรเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ 100% หรือสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ After-Sun ผลิตภัณฑ์ After-Sun มักถูกออกแบบมาเพื่อปลอบประโลมผิวไหม้แดดโดยเฉพาะ โดยอาจมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้, แพนทีนอล (Panthenol), หรือสารสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ที่ช่วยลดการระคายเคือง
- ทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยน หลังจากที่ผิวเย็นลงแล้ว ควรทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว
- สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง (ในช่วงแรก) ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเนื้อหนัก, ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือเนย ในช่วงแรกๆ เพราะอาจเป็นการกักเก็บความร้อนไว้ในผิว และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอและบรรเทาอาการปวด (Hydrate & Relieve Pain)
-
- ดื่มน้ำมากๆ ผิวไหม้แดดจะดึงน้ำจากส่วนอื่นๆ ของร่างกายมาที่ผิว ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปและช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- รับประทานยาแก้ปวด (ถ้าจำเป็น) หากมีอาการปวดแสบมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดลดการอักเสบในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือแอสไพริน (Aspirin) เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ (ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา)
4. ปกป้องผิวที่กำลังอ่อนแอ (Protect the Damaged Skin)
-
- สวมเสื้อผ้าที่หลวมและเนื้อนุ่ม เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าเนื้อนุ่ม โปร่งสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อลดการเสียดสีกับผิวที่กำลังระคายเคือง
- ห้ามเจาะตุ่มน้ำหรือลอกผิวเด็ดขาด!
- ตุ่มน้ำใส (Blisters) ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการติดเชื้อตามธรรมชาติ การเจาะตุ่มน้ำจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อและอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ ควรปล่อยให้ตุ่มน้ำยุบและแห้งไปเอง
- ผิวลอก (Peeling Skin) เมื่อผิวเริ่มลอก อย่าดึงหรือแกะผิวหนังที่กำลังลอกออก เพราะอาจทำให้ผิวชั้นล่างที่ยังอ่อนแออยู่ได้รับความเสียหาย ควรปล่อยให้ผิวลอกออกไปเองตามธรรมชาติ และทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
5. ดูแลผิวหลังการอักเสบลดลง (Post-Inflammation Care)
-
- บำรุงผิวต่อเนื่อง: หลังจากที่อาการแดงและปวดแสบลดลงแล้ว ควรทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ผิวที่กำลังลอกและฟื้นฟูมีความชุ่มชื้น
- ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ยังคงใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและสบู่อาบน้ำสูตรอ่อนโยนต่อไปจนกว่าผิวจะกลับสู่สภาพปกติ
- ป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด ผิวหลังไหม้แดดจะไวต่อแสงมากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และต้องทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวกลับมาไหม้ซ้ำและป้องกันการเกิดรอยดำหลังการอักเสบ
ข้อห้าม! สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเมื่อผิวไหม้แดด
- ห้ามใช้น้ำแข็งประคบโดยตรง เพราะความเย็นจัดอาจทำลายเนื้อเยื่อผิวได้
- ห้ามขัดหรือสครับผิว เพราะจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคืองและอักเสบมากขึ้น
- ห้ามทายาสีฟันหรือเนย เป็นความเชื่อที่ผิดและอาจทำให้อาการแย่ลงหรือติดเชื้อได้
- ห้ามใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือเนื้อผ้าหยาบ เพราะจะยิ่งเสียดสีกับผิว
- ห้ามเจาะตุ่มน้ำใสหรือดึงผิวหนังที่ลอกออก
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้
- ผิวไหม้แดดเป็นบริเวณกว้างมาก
- มีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นจำนวนมากหรือตุ่มมีขนาดใหญ่
- มีไข้สูง หนาวสั่น สับสน หรือปวดศีรษะรุนแรง
- มีอาการของการติดเชื้อ เช่น มีหนองไหลออกจากแผล หรือมีรอยแดงลุกลาม
- มีอาการของการขาดน้ำรุนแรง เช่น ปากแห้ง เวียนศีรษะ ปัสสาวะน้อย
การดูแลผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธีและทันท่วงที จะช่วยลดความเจ็บปวดและช่วยให้ผิวของคุณฟื้นตัวกลับมาสวยใสได้เร็วขึ้น ที่สำคัญที่สุดคืออย่าลืมป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีก