การทาลิปแมทติดทนนั้นเป็นเรื่องที่สาวๆหลายคนให้ความสำคัญ เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้ริมฝีปากดูสวยและคมชัดตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเติมลิปสติกอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามลิปแมทเป็นลิปสติกที่มีเนื้อแห้งและไม่มีความมันเงา ทำให้สามารถติดทนนานแต่หากไม่รู้วิธีการเตรียมริมฝีปากและการทาลิปให้ถูกต้อง ลิปแมทที่ทาอาจหลุดเร็วหรือไม่ติดทนนานเท่าที่ควร
เตรียมริมฝีปากให้พร้อมก่อนทาลิปแมท
- การเตรียมริมฝีปากเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้ลิปแมทติดทนนาน หากริมฝีปากแห้งหรือเป็นขุย ลิปแมทที่ทาอาจดูไม่เรียบเนียนและหลุดง่าย ก่อนอื่นควรบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นด้วยลิปบาล์มหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ แล้วปล่อยให้ซึมเข้าสู่ผิวสักพัก หากมีร่องหรือขุยบนริมฝีปาก ควรใช้สครับหรือผ้าชุบน้ำอุ่นถูเบาๆเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป หลังจากนั้นให้ทาลิปบาล์มบางๆอีกครั้งเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ควรใช้กระดาษทิชชูซับเบาๆ เพื่อไม่ให้ลิปบาล์มมากเกินไปจนทำให้ลิปแมทไม่ติด
เทคนิคการทาลิปแมทให้ติดทนนาน
- เมื่อริมฝีปากพร้อมแล้ว การทาลิปแมทก็เป็นขั้นตอนที่ต้องใส่ใจ เริ่มจากการใช้ลิปไลเนอร์เขียนขอบปากให้ชัดเจน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้รูปทรงที่ต้องการแล้วยังช่วยป้องกันไม่ให้ลิปสติกเลอะหรือหลุดง่าย หลังจากนั้นค่อยๆ ทาลิปแมทจากกลางริมฝีปากออกไปยังขอบปาก การทาลิปในลักษณะนี้จะช่วยให้สีของลิปดูสม่ำเสมอและไม่เป็นก้อน หากต้องการให้ลิปแมทติดทนนานยิ่งขึ้น สามารถทาลิปแมทสองชั้น โดยทาชั้นแรกแล้วใช้กระดาษทิชชูซับเบาๆ จากนั้นทาชั้นที่สองซ้ำ เทคนิคนี้จะช่วยล็อกสีลิปให้ติดทนนานยิ่งขึ้น
การบำรุงริมฝีปากหลังทาลิปแมท
- การบำรุงริมฝีปากหลังทาลิปแมทเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ลิปแมทที่แห้งและติดทนแม้ว่าจะทำให้ริมฝีปากดูสวยแต่ก็อาจทำให้ริมฝีปากแห้งและเกิดรอยแตกได้ง่าย ดังนั้นหลังจากกลับถึงบ้านควรเช็ดลิปสติกออกด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ที่อ่อนโยน และบำรุงริมฝีปากด้วยลิปบาล์มหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีหรือน้ำมันธรรมชาติ วิธีนี้จะช่วยให้ริมฝีปากฟื้นตัวและชุ่มชื้นพร้อมสำหรับการทาลิปแมทในครั้งต่อไป
การทาลิปแมทติดทนเป็นเรื่องที่ไม่ยากหากรู้วิธีการเตรียมริมฝีปากและการทาลิปที่ถูกต้อง การดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื้นและเนียนเรียบจะช่วยให้ลิปแมทดูสวยติดทนนานตลอดวัน ทำให้คุณมั่นใจในความสวยงามของริมฝีปากโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมลิปสติกบ่อยๆอีกต่อไป