สารสกัดตัวไหนมาแรง? รวมวัตถุดิบยอดนิยมที่ลูกค้าชอบ!

สารสกัดตัวไหนมาแรง

ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามจากภายในสู่ภายนอกมากขึ้น ส่วนผสมจากธรรมชาติและสารสกัดที่มีงานวิจัยรองรับจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกวัตถุดิบยอดนิยมที่กำลังมาแรงในตลาดเครื่องสำอาง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ

Centella Asiatica (Cica)

สารสกัดจาก Centella Asiatica (Cica)

  • Cica หรือ (ใบบัวบก) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดี
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวเป็นสิว และผิวที่ต้องการการฟื้นฟู

สรรพคุณของ Centella Asiatica (Cica)

  • ปลอบประโลมผิว
    • Cica มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิว เหมาะสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย
    • ช่วยบรรเทาอาการแดงและการอักเสบจากสิว
  • สมานแผล
    • Cica ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งกระบวนการสมานแผล ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงและเรียบเนียน
    • ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น
  • ต้านอนุมูลอิสระ
    • Cica มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากมลภาวะและรังสียูวี
    • ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
  • ให้ความชุ่มชื้น
    • Cica ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น
    • เหมาะสำหรับผิวแห้งและขาดน้ำ

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Cica

ทำไม Cica ถึงเป็นที่นิยม

  • Cica เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว
  • มีสรรพคุณที่หลากหลายและครอบคลุมปัญหาผิวหลายประการ
  • ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
  • คนไทยรู้จักกันในชื่อใบบัวบก ซึ่งคุ้นเคยกันดี

Niacinamide

สารสกัดจาก Niacinamide (วิตามินบี 3)

  • Niacinamide เป็นวิตามินที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดรอยแดง รอยดำ และควบคุมความมันบนใบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย สีผิวไม่สม่ำเสมอ และผิวมัน

Niacinamide หรือวิตามินบี 3 เป็นสารสกัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการสกินแคร์ เพราะมีคุณสมบัติที่หลากหลายและอ่อนโยนต่อผิว นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับสารสกัด Niacinamide

คุณสมบัติและประโยชน์

  • ลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำ
    • Niacinamide ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส
    • ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดง และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ควบคุมความมันและกระชับรูขุมขน
    • ช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันในผิว ทำให้ผิวมีความมันลดลง
    • ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
    • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและลดการสูญเสียความชุ่มชื้น
    • ช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว
  • ลดปัญหาสิว
    • มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยลดการเกิดสิว
    • ช่วยลดรอยแดงจากสิว

ข้อดีของ Niacinamide

  • อ่อนโยนต่อผิว สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่าย
  • มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย
  • สามารถใช้ร่วมกับสารสกัดอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide

สารสกัดจาก Hyaluronic Acid

สารสกัดจาก Hyaluronic Acid

  • Hyaluronic Acid เป็นสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เต่งตึง และลดเลือนริ้วรอย
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ และผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น

Hyaluronic Acid (HA) หรือ กรดไฮยาลูโรนิก เป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยพบมากบริเวณผิวหนัง ข้อต่อ และดวงตา มีคุณสมบัติเด่นคือการอุ้มน้ำได้ดีมาก จึงเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย

คุณสมบัติและประโยชน์

  • เติมความชุ่มชื้น
    • HA มีความสามารถในการกักเก็บน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1,000 เท่า จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก
    • ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ เด้งฟู และดูสุขภาพดี
  • ลดเลือนริ้วรอย
    • เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ริ้วรอยก็จะดูตื้นขึ้น
    • HA ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
    • ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น
    • ช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว
  • ช่วยให้ข้อต่อมีความลื่นไหล
    • ช่วยหล่อลื่นข้อต่อ ลดการเสียดสีและการอักเสบ

ข้อดีของ Hyaluronic Acid

  • มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
  • ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • สามารถใช้ร่วมกับสารสกัดอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid

  • เซรั่ม
  • ครีมบำรุงผิว
  • มาส์กหน้า
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับฉีดเติมเต็ม (filler)

สารสกัดจาก Retinol

สารสกัดจาก Retinol

  • Retinol เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียน
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และผิวที่ต้องการการฟื้นฟู

Retinol เป็นสารประกอบในกลุ่ม Retinoids ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการสกินแคร์เนื่องจากมีคุณสมบัติในการดูแลผิวที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติและประโยชน์ของ Retinol

  • กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
    • Retinol ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกไป และเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม
  • ลดเลือนริ้วรอย
    • Retinol กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และความหมองคล้ำ
  • ลดปัญหาสิว
    • ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
    • ลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวแห้งและยุบตัวเร็วขึ้น
  • ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
    • ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดง และความหมองคล้ำ ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น

ข้อควรระวังในการใช้ Retinol

  • การระคายเคือง
    • Retinol อาจทำให้ผิวแห้ง ลอก แดง หรือระคายเคือง โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้งาน
    • ควรเริ่มใช้ในปริมาณน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มความถี่ในการใช้งานเมื่อผิวปรับตัวได้
  • ความไวต่อแสง
    • Retinol ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูงอย่างสม่ำเสมอ
    • ควรใช้ในตอนกลางคืน
  • ไม่เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
    • Retinol อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์และทารกที่ได้รับนมแม่ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

สารสกัดจาก Vitamin C

สารสกัดจาก Vitamin C

  • Vitamin C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ลดเลือนจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และผิวที่ต้องการความกระจ่างใส

วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และมีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างมาก

ประโยชน์ของวิตามินซีต่อผิวพรรณ

  • สารต้านอนุมูลอิสระ
    • วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
    • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
  • ลดเลือนจุดด่างดำ
    • ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้จุดด่างดำ รอยดำจากสิว และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอจางลง
  • เสริมสร้างความกระจ่างใส
    • ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส และมีสุขภาพดี
  • ช่วยสมานแผล
    • วิตามินซีช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น

แหล่งที่พบวิตามินซี

  • อาหาร
    • ผลไม้ตระกูลส้ม (ส้ม, มะนาว, เกรปฟรุต)
    • ฝรั่ง
    • กีวี
    • มะขามป้อม
    • ผักใบเขียว (บรอกโคลี, ผักคะน้า)
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร:
    • มีวิตามินซีในรูปแบบต่างๆ เช่น เม็ด แคปซูล ผง หรือแบบน้ำ

การใช้ผลิตภัณฑ์วิตามินซีสำหรับผิว

  • เซรั่มวิตามินซี
    • เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยม เพราะมีความเข้มข้นสูงและซึมเข้าสู่ผิวได้ดี
  • ครีมบำรุงผิว
    • ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว
  • ผลิตภัณฑ์กันแดด
    • การใช้วิตามินซีคู่กับผลิตภัณฑ์กันแดด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดด

แนวโน้มของสารสกัดในอนาคต

นอกจากสารสกัดที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีสารสกัดอื่น ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เช่น

  • Probiotics: ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและลดการอักเสบ
  • Peptides: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเต่งตึง
  • สารสกัดจากพืชหายาก: เช่น สารสกัดจากเห็ดหลินจือ สารสกัดจากโสม ซึ่งมีสรรพคุณในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

เคล็ดลับในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดยอดนิยม

  • ตรวจสอบส่วนผสม: อ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่ามีสารสกัดที่คุณต้องการหรือไม่
  • เลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ: เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีรีวิวที่ดี
  • ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนใช้: ทดสอบผลิตภัณฑ์บนผิวบริเวณเล็กน้อยก่อนใช้ทั่วใบหน้า เพื่อตรวจสอบว่ามีอาการแพ้หรือไม่

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดยอดนิยมและเหมาะสมกับสภาพผิว จะช่วยให้คุณมีผิวที่สวยสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน

Scroll to Top