องุ่น ไม่ได้เป็นเพียงผลไม้ที่อร่อยดับกระหาย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวพรรณอย่างมาก สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ในองุ่นนั้นมีสารอาหารที่สำคัญมากมาย เช่น เรสเวราทรอล และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ลดการเหี่ยวย่น นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ขององุ่นต่อผิวพรรณ
- ปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะในองุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และมะเร็งผิวหนัง
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว องุ่นช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์
- ลดการอักเสบ สารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นช่วยลดการอักเสบของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและโรคผิวหนังอักเสบ
- ลดเลือนจุดด่างดำ องุ่นช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดจุดด่างดำและฝ้า ทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้น
- ชะลอการเกิดริ้วรอย เรสเวราทรอลในองุ่นช่วยชะลอการสลายตัวของคอลลาเจน อีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย
วิธีนำองุ่นมาบำรุงผิว
- รับประทานองุ่น การรับประทานองุ่นสดเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวพรรณ แต่ข้อควรระวัง เนื่องจากในองุ่นนั้นมีน้ำตาลที่สูง คนที่เป็นเบาหวาน หรือคนที่น้ำหนักมากควรทานแต่น้อย
- ทำมาส์กหน้าจากองุ่น บดองุ่นให้ละเอียดแล้วนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมขององุ่น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิดที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากองุ่น เช่น ครีม โลชั่น เซรั่ม
- สารสกัดจากองุ่นในรูปแบบอาหารเสริม จะช่วยให้ผิวพรรณได้รับสารอาหารโดยตรงทันทีแต่ควรทานอาหารที่หลากหลาย
สารอาหารสำคัญในองุ่นที่บำรุงผิว
- เรสเวราทรอล สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหาย
- วิตามินซี ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
- วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือดและรักษาบาดแผล
- เบต้าแคโรทีน เพราะในองุ่นเป็นผลไม้ที่มีสีสันที่หลากหลาย สารเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตาและผิวหนัง
เจาะลึกความมหัศจรรย์ “องุ่นบำรุงผิว” ได้อย่างไร?
ความลับขององุ่นอยู่ที่สารประกอบสำคัญทางชีวภาพ (Bioactive Compounds) ที่ซ่อนอยู่ในส่วนต่างๆ ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและทำงานส่งเสริมกันเพื่อดูแลผิวของเรา
1. “เรสเวอราทรอล” (Resveratrol) ในเปลือกองุ่นแดง: สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
เรสเวอราทรอล คือสารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่พบได้มากในเปลือกขององุ่นแดง (และในไวน์แดง) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น รังสี UV และมลภาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยและความเสื่อมของเซลล์
- ชะลอวัย (Anti-Aging) มีงานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ว่าเรสเวอราทรอลสามารถกระตุ้น “ยีนเซอร์ทูอิน” (Sirtuins) หรือที่เรียกว่า “ยีนแห่งความอ่อนเยาว์” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์และยืดอายุของเซลล์ผิว
- ปลอบประโลมผิว มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและรอยแดงของผิว
2. “โปรแอนโธไซยานิดิน” (Proanthocyanidins) ในเมล็ดองุ่น ปกป้องคอลลาเจนและเพิ่มความกระจ่างใส
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grapeseed Extract) อุดมไปด้วยสารกลุ่ม Oligomeric Proanthocyanidin Complexes (OPCs) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
- ปกป้องคอลลาเจนและอีลาสติน OPCs มีความสามารถในการจับตัวและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับคอลลาเจน พร้อมทั้งช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวคงความเต่งตึงและยืดหยุ่น
- ลดเลือนจุดด่างดำ ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไป ทำให้จุดด่างดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอแลดูจางลง
- เพิ่มความกระจ่างใส ช่วยให้ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสและมีสุขภาพดี
3. “น้ำมันเมล็ดองุ่น” (Grapeseed Oil): มอยส์เจอไรเซอร์บางเบา เพื่อผิวแข็งแรง
น้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดองุ่น อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid – Omega 6) และวิตามินอี
- ให้ความชุ่มชื้นและไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นน้ำมันที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) จึงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวมันและผิวเป็นสิว
- เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) กรดไลโนเลอิกเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซราไมด์ในชั้นผิว ช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันสารระคายเคืองจากภายนอกได้ดีขึ้น
4. กรดผลไม้ (AHA) ตามธรรมชาติ ผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใส
ในเนื้อองุ่นมีกรดผลไม้ตามธรรมชาติ เช่น กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) และกรดมาลิก (Malic Acid) ซึ่งเป็นกรดในกลุ่ม AHA
- ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยคลายพันธะระหว่างเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป เผยผิวใหม่ที่ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสยิ่งขึ้น
- ปรับสภาพผิว ช่วยให้ผิวดูสดชื่นและพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
“วิธีนำคุณประโยชน์จากองุ่น” มาใช้เพื่อ “ผิวสวยใสอ่อนเยาว์”
1. การรับประทานเพื่อบำรุงจากภายใน (Eating for Inner Health)
วิธีที่ง่ายและได้ประโยชน์ครบถ้วนที่สุดคือการรับประทานองุ่นสดเป็นประจำ ทั้งองุ่นเขียวและองุ่นแดง (โดยเฉพาะการทานทั้งเปลือกและเมล็ด หากทำได้) เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุไปบำรุงผิวจากภายใน
2. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีสารสกัดจากองุ่น (Choosing Skincare with Grape Extracts)
สำหรับการบำรุงจากภายนอก การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี “สารสกัดจากองุ่น” เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
มองหาส่วนผสมบนฉลาก
- Vitis Vinifera (Grape) Seed Extract สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (อุดมไปด้วย OPCs)
- Vitis Vinifera (Grape) Seed Oil น้ำมันเมล็ดองุ่น
- Resveratrol เรสเวอราทรอล
- Vitis Vinifera (Grape) Juice/Fruit Extract: สารสกัดจากเนื้อหรือน้ำองุ่น (มี AHA)
- ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ มักพบในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Anti-aging และ Brightening เช่น เซรั่ม, เอสเซนส์, ครีมบำรุง, และน้ำมันบำรุงผิวหน้า
องุ่นเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวพรรณอย่างมาก การรับประทานองุ่นเป็นประจำในปริมาณที่พอเหมาะหรือการนำมาใช้ในการบำรุงผิว จะช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่สวยใส สุขภาพดี และอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังมีไวน์องุ่นมีสารเมลาโทนินซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับฮอร์โมนในร่างกายของมนุษย์ ที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ ทำให้ร่างกายได้รับหารพักผ่อนได้อย่างเต็มที่อีกด้วย เป็นผลไม้ที่มีเลิศไม่น้อย ดูแลแบบรอบด้าน หากรู้อย่างนี้แล้วก็ลองหาองุ่นมาลองทานดู