ทาน้ำมันบนหน้าใส เคล็ดลับง่ายๆ ผิวสวยเปล่งปลั่ง

น้ำมันทาหน้า

เทรนด์การดูแลผิวด้วย “เฟซออยล์” หรือ “น้ำมันบำรุงผิวหน้า” ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นวิธีที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกและเป็นธรรมชาติ แต่หลายคนยังมีความเชื่อผิดๆ ว่าการทาน้ำมันจะทำให้หน้ามันเยิ้มและอุดตันรูขุมขน ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป หากคุณรู้จักเลือกชนิดของน้ำมันให้เหมาะกับสภาพผิวและใช้อย่างถูกวิธี เฟซออยล์จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรง ชุ่มชื้น เรียบเนียน และดู “ผิวสวยเปล่งปลั่ง” มีออร่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บทความนี้จะมาเผยทุกเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้คุณรักการใช้เฟซออยล์!

ทำไม “เฟซออยล์” ถึงเป็นไอเทมลับสู่ผิวสวยเปล่งปลั่ง?

เฟซออยล์มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการบำรุงผิวหลายประการ

  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) น้ำมันธรรมชาติอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็น (Essential Fatty Acids) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น และปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก
  • ล็อกความชุ่มชื้น (Lock in Moisture) เฟซออยล์ทำหน้าที่เป็นสารเคลือบผิว (Occlusive) ชั้นดี ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นจากผิวและสกินแคร์ตัวอื่นๆ ที่เราทาไปก่อนหน้าระเหยออกไป
  • อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน น้ำมันสกัดจากพืชหลายชนิดเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ วิตามินอี ที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสื่อมของเซลล์และชะลอการเกิดริ้วรอย
  • ปลอบประโลมผิว (Soothing) น้ำมันบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง
  • ปรับสมดุลการผลิตน้ำมัน ในคนผิวมัน การใช้น้ำมันที่เหมาะสมสามารถส่งสัญญาณให้ผิวรู้ว่ามีความชุ่มชื้นเพียงพอแล้ว และลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินลงได้

เลือกออยล์ให้ถูกกับผิว: ผิวมัน-ผิวเป็นสิว ก็ใช้ได้!

นี่คือหัวใจสำคัญที่สุด! การเลือกชนิดของน้ำมันให้เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงของการอุดตัน

 “เฟซออยล์สำหรับคนหน้ามัน” และ “เป็นสิว” (Oily & Acne-Prone Skin)

    • ผู้ที่มีผิวมันหรือเป็นสิวง่ายควรเลือกใช้น้ำมันที่มีเนื้อบางเบา ซึมเร็ว และมีคุณสมบัติ “ไม่อุดตันรูขุมขน” (Non-comedogenic) โดยเน้นน้ำมันที่มีกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) สูง ซึ่งช่วยลดการอุดตันและปรับสมดุลผิว
    • น้ำมันที่แนะนำ
      • น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba Oil) มีโครงสร้างคล้ายน้ำมันตามธรรมชาติของผิวมากที่สุด ช่วยปรับสมดุลความมันได้ดี
      • น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grapeseed Oil) เนื้อบางเบามาก ซึมเร็ว มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
      • น้ำมันโรสฮิป (Rosehip Oil) ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวและริ้วรอย แต่ควรใช้ตอนกลางคืนเพราะอาจไวต่อแสง
      • สควาเลน (Squalane Oil) เป็นน้ำมันที่บางเบาและมีความคงตัวสูง ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทิ้งความมัน
      • น้ำมันเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) ช่วยลดการอักเสบและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

เฟซออยล์สำหรับคนผิวแห้ง (Dry Skin)

    • ผู้ที่มีผิวแห้งต้องการน้ำมันที่เข้มข้นขึ้น สามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึกและยาวนาน โดยเน้นน้ำมันที่มีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) สูง
    • น้ำมันที่แนะนำ
      • น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) อุดมไปด้วยวิตามินอีและกรดไขมัน ช่วยบำรุงผิวและลดริ้วรอย
      • น้ำมันมารูล่า (Marula Oil) ให้ความชุ่มชื้นสูง ซึมซาบได้ดีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
      • น้ำมันสวีทอัลมอนด์ (Sweet Almond Oil) อ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวนุ่มนวล
      • น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil) เนื้อค่อนข้างหนัก แต่ให้ความชุ่มชื้นสูงมาก เหมาะสำหรับผิวที่แห้งมาก

เฟซออยล์สำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)

    • ควรเลือกน้ำมันที่มีส่วนผสมน้อยที่สุด (Single-ingredient oil) บริสุทธิ์ และมีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมผิว
    • น้ำมันที่แนะนำ: น้ำมันโจโจ้บา, สควาเลน, หรือน้ำมันดอกคาโมมายล์

เคล็ดลับ “วิธีใช้เฟซออยล์” เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

ลำดับและเทคนิคการใช้มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ที่ได้

1. ลำดับการใช้ที่ถูกต้อง “ทาเฟซออยล์ตอนไหน”?

    • โดยทั่วไป เฟซออยล์ควรใช้เป็น “ขั้นตอนสุดท้าย” ของการบำรุงผิวในตอนกลางคืน (หลังจากทาเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์) เพื่อทำหน้าที่ “ล็อก” ความชุ่มชื้นและสารบำรุงทั้งหมดไว้ในผิว
    • ลำดับ คลีนเซอร์ -> โทนเนอร์ -> เซรั่ม -> มอยส์เจอไรเซอร์ -> เฟซออยล์
    • สำหรับตอนเช้า หากต้องการใช้ อาจใช้เพียง 1-2 หยดผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ หรือใช้ก่อนครีมกันแดด โดยรอให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างสมบูรณ์ก่อน

2. ปริมาณที่เหมาะสม น้อยแต่มาก (Less is More)

    • ใช้เพียง 2-3 หยด ก็เพียงพอสำหรับทั่วใบหน้าและลำคอ การใช้มากเกินไปอาจทำให้รู้สึกหนักผิวและสิ้นเปลือง

 3. เทคนิคการวอร์มออยล์และกดซับ (Warm and Press, Don’t Rub)

    • หยดออยล์ลงบนฝ่ามือ ถูฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันเบาๆ เพื่อวอร์มออยล์ให้มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับผิว จะช่วยให้ซึมซาบได้ดีขึ้น
    • จากนั้น ค่อยๆ กดซับฝ่ามือลงบนผิวหน้าเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ หลีกเลี่ยงการถูแรงๆ เพราะอาจเป็นการรบกวนผิวและทำให้เกิดริ้วรอยได้

4. ผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ (Mix with Moisturizer)

    • สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้หรือไม่ชอบความรู้สึกมันวาว สามารถหยดเฟซออยล์ 1-2 หยดผสมกับมอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นและทำให้ใช้ง่ายขึ้น
5. ใช้เป็นน้ำมันนวดหน้า (Use as a Massage Oil)
    • สามารถใช้เฟซออยล์ในการนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและยกกระชับผิวได้ โดยใช้ปริมาณมากกว่าปกติเล็กน้อย แล้วนวดเบาๆ ในทิศทางขึ้น

ไขข้อข้องใจ “เฟซออยล์อุดตันไหม”?

คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันและสภาพผิวของคุณ” หากคุณมีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย แต่เลือกใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกที่มีค่าการอุดตัน (Comedogenic Rating) สูง ก็มีโอกาสที่จะเกิดการอุดตันได้ แต่หากคุณเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น น้ำมันโจโจ้บา หรือน้ำมันเมล็ดองุ่น ที่มีค่าการอุดตันต่ำ โอกาสที่จะเกิดการอุดตันก็น้อยมาก และอาจช่วยปรับสมดุลผิวให้ดีขึ้นได้ด้วย

การเลือกเฟซออยล์คุณภาพ และการ สร้างแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าใจผิว

คุณภาพของน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกน้ำมันที่บริสุทธิ์ สกัดเย็น (Cold-Pressed) และไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีที่ไม่จำเป็น เพื่อคงคุณค่าของสารอาหารไว้ให้ได้มากที่สุด อย่ากลัวที่จะใช้น้ำมันบำรุงผิวหน้า เพียงแค่คุณเลือกให้ถูกประเภทและใช้ให้ถูกวิธี เฟซออยล์จะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มเด็ดที่ช่วยให้คุณมีผิวสวยใส เปล่งปลั่ง และสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน

เกี่ยวกับผู้เขียน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top