ส้มเลือดคืออะไรทำเป็นถึงนิยมใช้ในอาหารเสริมและสกินแคร์

ส้มเลือด

28ส้มเลือด หรือ Blood Orange ไม่ใช่แค่ผลไม้ที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา แต่ยังเป็นสุดยอดซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย จนกลายเป็นที่นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสกินแคร์อย่างแพร่หลาย วันนี้เราจะพาคุณไปไขความลับของส้มเลือด ว่าทำไมถึงได้รับความนิยมขนาดนี้

ส้มเลือดคืออะไร?

ส้มเลือดเป็นส้มสายพันธุ์หนึ่งที่มีเนื้อสีแดงเข้มคล้ายเลือด ซึ่งเกิดจากสารสีที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) นี่คือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดเดียวกับที่พบในผลไม้สีแดงและสีม่วงอื่นๆ เช่น บลูเบอร์รี และราสเบอร์รี

ทำไมส้มเลือดถึงได้รับความนิยม?

  • สารต้านอนุมูลอิสระสูง แอนโทไซยานินในส้มเลือดมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ชะลอความแก่ และลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ
  • ดีต่อผิวพรรณ สารสกัดจากส้มเลือดช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดง ลดรอยดำจากสิว และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
  • บำรุงสายตา แอนโทไซยานินช่วยเสริมสร้างหลอดเลือดฝอยในดวงตา ช่วยป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับตาต่างๆ เช่น ต้อกระจก และต้อหิน
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล สารสกัดจากส้มเลือดมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
  • เพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามินซีในส้มเลือดช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อ

ส้มเลือดในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและสกินแคร์

ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ทำให้ส้มเลือดกลายเป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงามมากมาย เช่น

  • อาหารเสริม สารสกัดจากส้มเลือดมักถูกนำมาเป็นส่วนผสมในอาหารเสริมเพื่อสุขภาพผิว บำรุงสายตา และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • สกินแคร์ สารสกัดจากส้มเลือดถูกนำมาใช้ในครีม โลชั่น เซรั่มโดสผิว ใส/มุก และมาส์กหน้า เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และปกป้องผิวจากมลภาวะ

วิธีรับประทานส้มเลือดให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  1. รับประทานสด การรับประทานส้มเลือดสดๆ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้รับสารอาหารจากธรรมชาติ
  2. น้ำส้มเลือด คั้นส้มเลือดสดๆ เพิ่มน้ำผึ้งเล็กน้อย ก็ได้เครื่องดื่มที่สดชื่นและมีประโยชน์
  3. สลัด หั่นส้มเลือดเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน
  4. เบเกอรี่นำส้มเลือดมาทำเป็นส่วนผสมในเค้ก คุกกี้ หรือขนมปัง
ข้อควรระวังเกี่ยวกับส้มเลือด
  • ส้มเลือดมีปริมาณเส้นใยสูง การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องผูกได้
  • ส้มเลือดมีฤทธิ์เป็นกรด การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเสียดท้อง หรือทำให้อาการกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้นได้
  • สารบางชนิดในส้มเลือดอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต หรือยาละลายลิ่มเลือด ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงหรือเพิ่มขึ้น
  • บางคนอาจแพ้ส้มเลือด อาการแพ้อาจแสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ผื่นคัน บวม หายใจลำบาก
  • ผู้ป่วยโรคบางชนิด เช่น โรคไต โรคเบาหวาน ควรรับประทานส้มเลือดด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากส้มเลือดมีโพแทสเซียมสูง และน้ำตาล

ส้มเลือดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความงามมากมาย การนำส้มเลือดมาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและครีมบำรุงผิวหน้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก

คลิกเพื่อให้คะแนนโพสนี้
รีวิวทั้งหมด: 0 เฉลี่ย: 0 คะแนน
Scroll to Top