“การคอนทัวร์” (Contouring) คือเทคนิคการแต่งหน้าที่เปรียบเสมือนการเล่นกับแสงและเงา เพื่อสร้างมิติและปรับแก้รูปทรงบนใบหน้าให้ดูสมส่วนและโดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีรูปหน้าแบบไหน การรู้เทคนิคคอนทัวร์ที่ถูกต้องจะช่วยเสริมจุดเด่นและอำพรางจุดด้อย ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสวยเป๊ะและได้รูปอย่างน่าทึ่ง บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะสอนให้คุณคอนทัวร์หน้าได้อย่างมืออาชีพ เหมาะสำหรับทุกรูปหน้า
พื้นฐานที่ต้องรู้ก่อนเริ่มคอนทัวร์
ก่อนจะลงมือคอนทัวร์ เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานสำคัญ 3 ข้อกันก่อน
1. คอนทัวร์ (Contour) vs. บรอนเซอร์ (Bronzer) ไม่เหมือนกัน!
- คอนทัวร์ คือการ “สร้างเงา” ให้กับใบหน้า ดังนั้น สีที่ใช้ควรเป็น สีน้ำตาลอมเทา (Cool Tone) ที่ไม่มีชิมเมอร์ เพื่อเลียนแบบเงาตามธรรมชาติ
- บรอนเซอร์ คือการ “เพิ่มความอบอุ่น” ให้ผิวดูเหมือนบ่มแดดมาอย่างสุขภาพดี สีที่ใช้จึงเป็น สีน้ำตาลอมส้มหรืออมทอง (Warm Tone) และอาจมีชิมเมอร์ผสมอยู่
2. การเลือกผลิตภัณฑ์: เนื้อครีม vs. เนื้อฝุ่น
- เนื้อครีม/เนื้อสติ๊ก (Cream/Stick) ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ กลมกลืนไปกับผิว เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และต้องการลุคที่ดูเป็นงานผิว
- เนื้อฝุ่น (Powder) ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ช่วยควบคุมความมันได้ดี เหมาะสำหรับผิวผสมถึงผิวมัน
3. การเลือกสีคอนทัวร์และไฮไลท์
- คอนทัวร์ เลือกสีที่เข้มกว่าสีผิวจริงของคุณประมาณ 1-2 เฉด และต้องเป็นโทนสีน้ำตาลอมเทา
- ไฮไลท์ เลือกสีที่สว่างกว่าสีผิวจริง 1-2 เฉด อาจเป็นเนื้อแมตต์ (สำหรับเพิ่มความสว่าง) หรือเนื้อชิมเมอร์ (สำหรับเพิ่มความโกลว์)
“เทคนิคคอนทัวร์” สำหรับ 5 รูปหน้า ลงตรงไหนให้สวยเป๊ะ?
หัวใจสำคัญคือการเข้าใจรูปหน้าของตัวเองและลงแสงเงาให้ถูกจุด เพื่อสร้างภาพลวงตาให้ใบหน้าดูสมส่วนเหมือน “หน้ารูปไข่” ซึ่งเป็นรูปหน้าที่สมดุลที่สุด
1. หน้ารูปไข่ (Oval Face)
รูปหน้านี้มีความสมดุลอยู่แล้ว จึงคอนทัวร์เพียงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความคมชัด
จุดที่ควรคอนทัวร์
- ใต้โหนกแก้ม ลากเฉียงจากบนใบหูลงมาหากึ่งกลางแก้ม
- ขมับสองข้าง (เล็กน้อย) เพื่อเพิ่มมิติ
จุดที่ควรไฮไลท์
- กลางหน้าผาก
- สันจมูก
- โหนกแก้ม
- ปลายคาง
2. “คอนทัวร์หน้ากลม” (Round Face)
เพิ่มความยาวและสร้างมุมให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
จุดที่ควรคอนทัวร์
- ขมับและข้างแก้ม ลงคอนทัวร์เป็นรูปเลข “3” ตั้งแต่ขมับ, ใต้โหนกแก้ม, ไปจนถึงแนวกราม เพื่อสร้างเงาให้ใบหน้าดูแคบลง
- ข้างสันจมูก เพื่อให้จมูกดูโดดเด่นขึ้น
จุดที่ควรไฮไลท์
- กลางหน้าผาก
- สันจมูก
- ใต้ตา
- ปลายคาง (การไฮไลท์แนวดิ่งจะช่วยเพิ่มความยาวให้ใบหน้า)
3. “คอนทัวร์หน้าเหลี่ยม” (Square Face)
ลดความคมของมุมกรามและหน้าผาก ทำให้ใบหน้าดูซอฟต์และโค้งมนขึ้น
จุดที่ควรคอนทัวร์
- มุมหน้าผากทั้งสองข้าง (บริเวณใกล้ไรผม)
- “มุมกราม” ทั้งสองข้าง (เน้นเป็นพิเศษ) เพื่อลดความเหลี่ยมของใบหน้า
- ใต้โหนกแก้ม
จุดที่ควรไฮไลท์
- กลางหน้าผาก
- สันจมูก
- ปลายคาง (เพื่อดึงความสนใจมาที่กึ่งกลางใบหน้า)
4. หน้าทรงหัวใจ (Heart-Shaped Face)
ลดความกว้างของหน้าผาก และเพิ่มความสมดุลให้คางที่แคบดูเต็มขึ้น
จุดที่ควรคอนทัวร์
- ขมับและข้างหน้าผาก เพื่อลดความกว้างของหน้าผาก
- ใต้โหนกแก้ม (ลงเฉียงในมุมที่สูงกว่าปกติเล็กน้อย)
จุดที่ควรไฮไลท์
- กลางหน้าผาก (ในบริเวณที่ไม่กว้าง)
- สันจมูก
- “ปลายคาง” และ “แนวกราม” เพื่อเพิ่มความสมดุลให้ใบหน้าส่วนล่าง
5. หน้าทรงยาว (Long Face)
ลดความยาวของใบหน้า และเพิ่มความกว้างให้ดูสมส่วนขึ้น
จุดที่ควรคอนทัวร์
- ไรผมด้านบนสุดของหน้าผาก
- ปลายคางด้านล่างสุด (การสร้างเงาที่ด้านบนและล่างจะช่วยหลอกตาให้ใบหน้าดูสั้นลง)
- ใต้โหนกแก้ม (ลากเป็นแนวเกือบขนานกับพื้น ไม่เฉียงลงมากนัก เพื่อเพิ่มความกว้าง)
จุดที่ควรไฮไลท์
- โหนกแก้ม (เน้นลากออกไปทางด้านข้าง)
เคล็ดลับการเบลนด์ (Blending) ให้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ
“การเบลนด์คือทุกสิ่ง!” หลังจากลงคอนทัวร์และไฮไลท์แล้ว ให้ใช้แปรงสะอาดหัวฟูๆ หรือฟองน้ำแต่งหน้าค่อยๆ เกลี่ยและเบลนด์สีให้กลมกลืนกัน ไม่ให้เห็นเป็นเส้นหรือขอบที่ชัดเจน การเบลนด์ที่ดีจะทำให้แสงและเงาบนใบหน้าดูเป็นธรรมชาติที่สุด
การคอนทัวร์หน้าไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณเข้าใจรูปหน้าของตัวเองและรู้ว่าควรจะลงแสงและเงาที่จุดไหน ที่สำคัญที่สุดคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเฉดสีและเนื้อสัมผัสที่ถูกต้อง และใช้เวลาในการเบลนด์ให้ทุกอย่างดูกลมกลืน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสร้างมิติให้ใบหน้าดูสวยเป๊ะได้อย่างมืออาชีพ