ในโลกของเครื่องสำอางที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์มากมาย การอ่านฉลากและทำความเข้าใจ “ส่วนผสม” คือทักษะสำคัญที่จะช่วยให้คุณ “ป้องกันผิวเสีย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำว่า “สารเคมีในเครื่องสำอาง” อาจฟังดูน่ากลัว แต่ความจริงแล้วเครื่องสำอางทุกชนิดล้วนประกอบขึ้นจากสารเคมีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำ, วิตามิน, หรือสารสกัดจากธรรมชาติ แต่มีสารเคมีบางกลุ่มที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง, การแพ้, หรือส่งผลเสียต่อผิวในระยะยาวได้ บทความนี้จะพาคุณไป “รู้ทัน” ส่วนผสมเหล่านั้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและดีต่อผิวของคุณอย่างแท้จริง
เข้าใจเคมีในเครื่องสำอาง ไม่ใช่ทุกตัวที่น่ากลัว
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าสารเคมีในเครื่องสำอางแบ่งได้เป็นหลายกลุ่ม:
- กลุ่ม “เคมีดี” (Beneficial Chemicals) คือสารออกฤทธิ์ (Active Ingredients) ที่มีงานวิจัยรองรับว่ามีประโยชน์ต่อผิว เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), เปปไทด์ (Peptides)
- กลุ่ม “เคมีที่ต้องจับตา” (The “Watch-List” Chemicals) เป็นสารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในเครื่องสำอางตามกฎหมายในปริมาณที่กำหนด แต่ในบางคนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือมีข้อกังวลด้านอื่นๆ
- กลุ่ม “เคมีอันตราย” (The Dangerous Chemicals) คือสารต้องห้ามที่ผิดกฎหมายในการนำมาใช้ในเครื่องสำอาง เพราะเป็นอันตรายต่อผิวและสุขภาพอย่างร้ายแรง
บทความนี้จะเน้นไปที่กลุ่มที่ 2 และ 3 ที่ผู้บริโภคอย่างเราควรรู้จักและหลีกเลี่ยง
7 กลุ่ม “สารเคมี” ที่ควร “รู้ทัน” เพื่อ “ป้องกันผิวเสีย”
1. กลุ่มสารต้องห้ามเด็ดขาด (ปรอท, สเตียรอยด์, ไฮโดรควิโนน)
- สารปรอท (Mercury) มักลักลอบใส่ในครีมหน้าขาว ทำให้เกิดฝ้าถาวร, ผิวบาง, และเป็นพิษต่อระบบประสาทและไต
- สเตียรอยด์ (Steroids) มักใส่ในครีมรักษาสิวเถื่อน ทำให้สิวยุบไวในตอนแรก แต่ระยะยาวทำให้ผิวติดสาร, บางลง, เห็นเส้นเลือด, และสิวเห่อรุนแรงเมื่อหยุดใช้
- ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เป็นยารักษาฝ้าที่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น หากใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดรอยด่างขาวถาวร
2. กลุ่มน้ำหอม (Fragrance/Parfum)
- ทำไมต้องระวัง? เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิว (Contact Dermatitis) คำว่า “Fragrance” หรือ “Parfum” บนฉลากอาจประกอบด้วยสารเคมีให้กลิ่นหลายสิบชนิด ซึ่งไม่จำเป็นต้องระบุชื่อทั้งหมด
- แนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “Fragrance-Free”
3. แอลกอฮอล์ชนิดที่ทำให้ผิวแห้ง (Drying Alcohols)
Alcohol Denat., SD Alcohol, Isopropyl Alcohol มักใช้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งเร็วและให้ความรู้สึกบางเบา สามารถทำลายเกราะป้องกันผิว, ชะล้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ, และทำให้ผิวแห้งกร้านระคายเคืองได้ในระยะยาว (แตกต่างจาก Fatty Alcohols เช่น Cetyl Alcohol ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ดีและช่วยให้ความชุ่มชื้น)
4. สารกลุ่มซัลเฟต (Sulfates – SLS/SLES)
Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) เป็นสารทำความสะอาดที่ทำให้เกิดฟอง มักพบในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและแชมพู มีประสิทธิภาพในการขจัดความมันสูงมาก จนอาจชะล้างน้ำมันที่ดีตามธรรมชาติของผิวออกไปจนหมด ทำให้ผิวแห้งตึงและเกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง
5. สารกันเสียกลุ่มพาราเบน (Parabens)
เช่น Methylparaben, Propylparaben, Butylparaben เป็นสารกันเสียที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มีข้อกังวลและงานวิจัยบางชิ้นที่ชี้ว่าอาจรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนและยังได้รับอนุญาตให้ใช้ในปริมาณที่ปลอดภัย แต่ผู้บริโภคจำนวนมากก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงโดยมองหาผลิตภัณฑ์ “Paraben-Free”
6. สารกันเสียที่ปลดปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde-Releasers)
เช่น DMDM hydantoin, Quaternium-15, Imidazolidinyl urea สารเหล่านี้จะค่อยๆ ปลดปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ออกมาเพื่อฆ่าเชื้อ ซึ่งฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายและถูกจัดเป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง
7. ซิลิโคนบางชนิด (Certain Silicones)
เช่น Dimethicone มักใช้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นและช่วยเบลอผิว ซิลิโคนโดยทั่วไปมีความปลอดภัยสูงและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันในคนส่วนใหญ่ แต่ในผู้ที่มีผิวมันและอุดตันง่ายมากๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนเนื้อหนักเคลือบผิว อาจเพิ่มโอกาสการอุดตันได้หากทำความสะอาดผิวไม่หมดจด
เคล็ดลับการเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างปลอดภัย
- ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เคาน์เตอร์แบรนด์, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ, หรือเว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรง หลีกเลี่ยงร้านค้าหิ้วที่ไม่น่าไว้ใจหรือร้านค้าออนไลน์ที่ราคาถูกผิดปกติ
- ตรวจสอบเลขที่ใบรับจดแจ้ง (อย.) ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นต้องมีเลข 13 หลักบนฉลากภาษาไทย สามารถนำไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ อย.
- อ่านฉลากส่วนผสมเสมอ พลิกดูด้านหลังผลิตภัณฑ์เพื่อทำความรู้จักกับส่วนผสมและหลีกเลี่ยงสารที่คุณอาจแพ้
- อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง “ขาวใน 3 วัน”, “ฝ้าหายขาด” มักเป็นสัญญาณเตือนของผลิตภัณฑ์อันตราย
- ทดสอบการแพ้ (Patch Test) ทาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริเวณท้องแขนหรือหลังหูทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมงก่อนใช้กับใบหน้า
การ “รู้ทันสารเคมีในเครื่องสำอาง” ไม่ใช่การหวาดกลัวสารทุกชนิด แต่คือการเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาด สามารถแยกแยะได้ว่าส่วนผสมใดมีประโยชน์, ส่วนผสมใดควรระวัง, และส่วนผสมใดคืออันตรายที่ต้องหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด การอ่านฉลาก, การเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ, และการสนับสนุนแบรนด์ที่ใส่ใจในมาตรฐานการผลิต คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดีได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



