น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ แอปเปิ้ลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) นอกจากจะเป็นส่วนผสมสำคัญในครัวแล้ว ยังเป็นที่นิยมนำมาใช้บำรุงผิวพรรณอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทำให้แอปเปิ้ลไซเดอร์กลายเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากมาย และยังสามารถนำมาใช้เองที่บ้านได้อย่างง่ายดาย
ทำไมแอปเปิ้ลไซเดอร์ถึงดีต่อผิว?
- ปรับค่า pH ของผิว แอปเปิ้ลไซเดอร์มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิว ทำให้ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการเกิดสิวและการอักเสบ
- ลดการอักเสบ กรดอะซิติกในแอปเปิ้ลไซเดอร์มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดงและอาการระคายเคืองของผิว
- กระชับรูขุมขน กรดอะซิติกช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ผลัดเซลล์ผิว แอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวดูสดใสและเปล่งปลั่ง
- ลดความมันบนใบหน้า ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ลดการเกิดสิวอุดตัน
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
วิธีใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์บำรุงผิว
- โทนเนอร์ ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:3 ใช้สำลีชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดใบหน้าหลังล้างหน้า ช่วยปรับค่า pH ของผิวและกระชับรูขุมขน
- มาส์กชีทหน้า ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์กับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ต ทาลงบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอักเสบ
- อาบน้ำ ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ลงในน้ำอุ่นแล้วอาบ ช่วยลดอาการคันและผื่นคัน
- บำรุงผม ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์กับน้ำเปล่าแล้วนำมาหมักผม ช่วยให้ผมนุ่มสลวยและลดปัญหาผมร่วง
ผลเสียจากแอปเปิ้ลไซเดอร์
- ระคายเคืองต่อผิวหนัง แอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรด หากใช้โดยไม่เจือจาง หรือใช้ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แสบแดง หรือผื่นขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง
- ผิวแห้ง แอปเปิ้ลไซเดอร์อาจทำให้ผิวแห้ง เนื่องจากมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว หากใช้บ่อยเกินไป หรือใช้ในความเข้มข้นสูง อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
- รอยไหม้ หากใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ไม่เจือจาง แล้วโดนแสงแดด อาจทำให้เกิดรอยไหม้บนผิวหน้าได้
- การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว: ในบางกรณี การใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์กับผิวหน้า อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว ทำให้ผิวคล้ำลง หรือเกิดรอยด่างดำได้
- อาการแพ้ บางคนอาจมีอาการแพ้แอปเปิ้ลไซเดอร์ ทำให้เกิดผื่นคัน ผิวแดง หรือแสบร้อน
ข้อควรระวังในการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์กับใบหน้า
- เจือจางก่อนใช้เสมอ ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์กับน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เหมาะสม เช่น 1:1 หรือ 1:2
- ทดสอบอาการแพ้ ก่อนใช้กับผิวหน้า ควรทดสอบอาการแพ้ โดยทาแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ผสมแล้วบริเวณท้องแขน ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้กับผิวหน้าได้
- หลีกเลี่ยงการใช้กับผิวที่บอบบาง: หากมีผิวที่บอบบาง หรือมีปัญหาผิวหนัง เช่น โรคผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
- ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป ไม่ควรใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์กับผิวหน้าทุกวัน ควรใช้เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด หลังใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์กับผิวหน้า ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง หากจำเป็นต้องออกแดด ควรทาครีมกันแดด
แอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและสาวๆหลายคนเริ่มมีการผลิตอาการเสริม สกินแคร์ที่มีสารสกัดมากมายร่วมทั้งแอปเปิ้ลไซเดอร์ นอกจากนี้ยังเป็นน้ำหนักที่อเนกประสงค์ไม่น้อย ใช้กับร้างกายได้หลากหลายวิธี หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวสสารสกัดดูแลผิวสามารถติดตามได้ตลอดเวลา