สาหร่ายแดงในเซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น เผยกลไกฟื้นฟูผิวระดับลึก

สาหร่ายแดงในเซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้นช่วยฟื้นฟูผิวในระดับลึก

สาหร่ายแดง หรือ Red Algae เป็นส่วนผสมที่วงการสกินแคร์พูดถึงมากในปี 2025 เพราะมีงานวิจัยยืนยันถึงประสิทธิภาพในการช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบ เซรั่มบำรุงผิว ที่ออกแบบมาให้ซึมลึก เข้าฟื้นฟูเซลล์ผิวชั้นใน และปรับสมดุลความชุ่มชื้นให้ยาวนานกว่าเดิม เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวแบบเข้มข้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีรุนแรง

แนวโน้มตลาดเซรั่มจากสารสกัดธรรมชาติกำลังเติบโตขึ้นกว่า 18% ต่อปี โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผู้บริโภคเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ทั้ง “ผิวใส” และ “สุขภาพผิวดี” ไปพร้อมกัน ซึ่งสาหร่ายแดงถือเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะมีสารกลุ่มแคโรทีนอยด์และโพลีแซ็กคาไรด์ที่ทำงานร่วมกับผิวได้อย่างปลอดภัย

กลไกการทำงานของสาหร่ายแดงในเซรั่มบำรุงผิว

กลไกการทำงานของสาหร่ายแดงในเซรั่มบำรุงผิว

สิ่งที่ทำให้เซรั่มสาหร่ายแดงโดดเด่นกว่าแหล่งสารสกัดอื่นคือองค์ประกอบของ Phycobiliprotein และ Mycosporine-like Amino Acids (MAAs) ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันรังสี UV และลดการเกิดอนุมูลอิสระที่ทำลายโครงสร้างผิว จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นพบว่าเซรั่มที่มีสารสกัดจากสาหร่ายแดงสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวได้ภายใน 4 สัปดาห์ และลดความแห้งกร้านได้มากกว่า 40%

เมื่อสาหร่ายแดงถูกรวมเข้ากับเบสเซรั่มเนื้อน้ำหรือเจล จะเกิดการปลดปล่อยสารสำคัญเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เพียงให้ผลลัพธ์ด้านความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ทำไมสาหร่ายแดงถึงเหมาะกับสูตรเซรั่มมากกว่าครีมหรือโลชั่น

เหตุผลที่สาหร่ายแดงเหมาะกับสูตรเซรั่มมากกว่าครีมหรือโลชั่น

ในเชิงโครงสร้าง เซรั่มเป็นสูตรที่มีโมเลกุลเล็กและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่าโลชั่นหรือครีม ทำให้สารออกฤทธิ์จากสาหร่ายแดงสามารถส่งผลได้ลึกกว่า โดยเฉพาะสารในกลุ่มโปรตีนและโพลีแซ็กคาไรด์ที่ช่วยฟื้นฟูชั้นคอลลาเจน

  • ซึมลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
  • ลดอาการแห้งลอกและช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดความหมองคล้ำจากแสงแดดและมลภาวะ
  • มีความเสถียรสูง ไม่ระเหยเร็วเหมือนน้ำตบทั่วไป

สูตรเซรั่มที่ดีมักจะใช้ความเข้มข้นของสารสกัดสาหร่ายแดงอยู่ระหว่าง 2–5% เพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และมักผสานกับสารเติมความชุ่มชื้น เช่น ไฮยาลูรอน หรือกลีเซอรีน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวในระยะยาว

จากสารสกัดสู่ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการสร้างเซรั่มสาหร่ายแดงคุณภาพสูง

การพัฒนาเซรั่มสาหร่ายแดงให้มีคุณภาพต้องอาศัยทั้งองค์ความรู้ด้านเคมีเครื่องสำอางและเทคโนโลยีสกัดที่เหมาะสม โรงงานผลิตเซรั่มที่มีประสบการณ์จะสามารถคัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายที่ให้สารออกฤทธิ์สูงสุด เช่น Porphyra umbilicalis หรือ Gracilaria sp. ซึ่งมีระดับโปรตีน PBP สูงกว่าทั่วไปถึง 3 เท่า และเมื่อสกัดด้วยวิธี Supercritical CO₂ จะได้โมเลกุลที่เสถียรกว่าและปลอดภัยต่อผิวมากกว่า

ขั้นตอนการสร้างเซรั่มสาหร่ายแดงคุณภาพสูงจากสารสกัดสู่ผลิตภัณฑ์

ขั้นตอนการพัฒนามักประกอบด้วย 3 ช่วงหลัก:

  • การสกัดสารออกฤทธิ์: ใช้น้ำบริสุทธิ์หรือเอนไซม์ย่อยผนังเซลล์ เพื่อให้ได้สารออกฤทธิ์เข้มข้นโดยไม่ทำลายโครงสร้างโมเลกุล
  • การปรับสูตร: ผสมสารให้ได้ค่า pH ใกล้เคียงผิว (5.5–6.5) เพื่อไม่ให้ระคายเคือง
  • การทดสอบเสถียรภาพ: ตรวจสอบความคงตัวของเนื้อเซรั่มในอุณหภูมิต่างๆ เพื่อรับรองคุณภาพก่อนจดแจ้ง อย.

ปัจจุบันมี โรงงานครีมทาผิว หลายแห่งในประเทศไทยที่สามารถพัฒนาเซรั่มสาหร่ายแดงได้ครบวงจร ตั้งแต่การวิจัย ไปจนถึงการผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยมักได้รับมาตรฐาน GMP และ ISO 22716 เพื่อรับรองความปลอดภัยของสูตรก่อนจำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ

เคล็ดลับการใช้เซรั่มสาหร่ายแดงให้เห็นผลจริง

แม้สาหร่ายแดงจะเป็นสารสกัดที่อ่อนโยน แต่การใช้ให้ได้ผลต้องเข้าใจจังหวะผิวและการซึมซาบของเนื้อเซรั่ม การใช้หลังล้างหน้าในช่วงที่ผิวยังชุ่มน้ำจะช่วยให้สารสำคัญดูดซึมได้ดีกว่า

  • ใช้ปริมาณ 2–3 หยดหลังล้างหน้า แล้วตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับกรดผลไม้แรงๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
  • เก็บในที่เย็นและป้องกันแสงเพื่อรักษาคุณภาพของสารออกฤทธิ์

สรุป เซรั่มสาหร่ายแดงคือกุญแจสู่ผิวสุขภาพดีในปี 2025

สาหร่ายแดงในรูปแบบเซรั่มไม่เพียงเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวระดับลึกและป้องกันความเสื่อมจากมลภาวะ การเลือกสูตรที่ผลิตจากแหล่งสกัดคุณภาพและผ่านกระบวนการควบคุมมาตรฐานจากโรงงานสกินแคร์ที่เชี่ยวชาญ คือหัวใจสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและความปลอดภัย

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. เซรั่มสาหร่ายแดงใช้ได้ทุกสภาพผิวหรือไม่?

เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งและผิวขาดน้ำ เพราะช่วยฟื้นฟูเกราะความชุ่มชื้นให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง

2. ใช้คู่กับเซรั่มวิตามินซีได้ไหม?

สามารถใช้ได้ แต่ควรเว้นเวลาอย่างน้อย 5–10 นาที เพื่อให้สารสำคัญของแต่ละตัวทำงานเต็มประสิทธิภาพ

3. ควรใช้สาหร่ายแดงในช่วงเช้าหรือกลางคืน?

แนะนำให้ใช้ตอนกลางคืน เพราะเป็นช่วงที่ผิวอยู่ในโหมดฟื้นฟู จะช่วยให้การซึมซาบของสารสกัดทำงานได้ดีขึ้น

4. ต้องใช้ต่อเนื่องนานแค่ไหนถึงเห็นผล?

โดยทั่วไปจะเห็นผิวเนียนและชุ่มชื้นขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนการลดริ้วรอยและสีผิวไม่สม่ำเสมอจะชัดเจนขึ้นใน 6–8 สัปดาห์

5. เซรั่มสาหร่ายแดงต่างจากเซรั่มทั่วไปอย่างไร?

ต่างตรงที่สาหร่ายแดงมีสาร MAAs ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และอนุมูลอิสระ ซึ่งเซรั่มทั่วไปมักไม่มี ทำให้ให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมทั้งการบำรุงและป้องกันผิว

แหล่งอ้างอิง:
ScienceDirect – Extraction and bioactivity of phycobiliproteins from red algae

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า