Retinol vs Bakuchiol ต่างกันยังไง เหมาะกับใคร

เปรียบเทียบเรตินอลและบาคูชิลในสกินแคร์ลดริ้วรอย

Retinol และ Bakuchiol คือ “สารลดริ้วรอยและทำให้ผิวกระจ่างใส” ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่หลายคนยังไม่เข้าใจความต่างของสองตัวนี้อย่างลึกซึ้ง—ใครแรงกว่า? ตัวไหนอ่อนโยนกว่า? ใช้เวลาเห็นผลกี่สัปดาห์? และเหมาะกับผิวแบบไหนกันแน่

หัวข้อในหน้านี้

Retinol คืออะไร?

เซรั่มเรตินอลในรูทีนกลางคืนเพื่อช่วยลดริ้วรอยและรอยสิว

Retinol อยู่ในกลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) เป็นสาร Active ที่ถูกใช้ในสกินแคร์มาอย่างยาวนานและมีงานวิจัยรองรับจำนวนมากว่า ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส และช่วยเรื่องสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กลไกการทำงานของ Retinol

เมื่อทา Retinol ลงบนผิว สารตัวนี้จะถูกเปลี่ยนในชั้นผิวให้กลายเป็น Retinoic Acid ซึ่งเป็นรูปแบบที่เซลล์ผิวสามารถนำไปใช้ได้โดยตรง ส่งผลให้:

  • เร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไป
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้
  • ช่วยลดรอยดำ รอยสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน

ข้อดีของ Retinol

เลือกเรตินอลหรือบาคูชิลให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน

  • เห็นผลค่อนข้างเร็ว โดยเฉลี่ยเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 4–8 สัปดาห์
  • ช่วยลดริ้วรอยตื้น–ลึกได้ดี เมื่อใช้ต่อเนื่อง
  • ช่วยเรื่องสิวอุดตัน สิวฮอร์โมน และรอยดำหลังสิว
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูกระชับขึ้น

ข้อควรระวังของ Retinol

  • ระคายเคืองง่ายในช่วงเริ่มต้น: แห้ง แดง ลอก แสบ คัน
  • ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ควรใช้เฉพาะตอนกลางคืน และทากันแดดอย่างสม่ำเสมอในตอนเช้า
  • ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำและใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป

ความเข้มข้นของ Retinol ที่มักพบ

  • 0.1–0.3% – สำหรับมือใหม่ ผิวแพ้ง่าย
  • 0.5% – สำหรับคนที่เคยใช้มาก่อน ผิวเริ่มแข็งแรง
  • 1% – สำหรับผู้มีประสบการณ์ ใช้ต่อเนื่องและผิวทนได้ดี

Bakuchiol คืออะไร?

รูทีนกลางคืนที่ใช้เรตินอลและบาคูชิลร่วมกับมอยส์เจอไรเซอร์

Bakuchiol เป็นสารสกัดจากพืช Psoralea corylifolia ที่มักถูกเรียกว่า “เรตินอลสายธรรมชาติ” หรือ Natural Retinol Alternative เพราะงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าให้ผลลัพธ์ด้าน Anti-Aging ใกล้เคียงกับ Retinol แต่มีแนวโน้มระคายเคืองน้อยกว่า

กลไกการทำงานของ Bakuchiol

Bakuchiol ไม่ได้เป็น Retinoid โดยตรง แต่สามารถ:

  • กระตุ้นการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างคอลลาเจน
  • เสริมการซ่อมแซมโครงสร้างผิว ทำให้ผิวดูแน่นและยืดหยุ่นขึ้น
  • ช่วยลดการอักเสบของผิวและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น

จุดเด่นคือ ไม่ได้เร่งการผลัดผิวแบบรุนแรงเหมือน Retinol จึงมักทนต่อผิวบอบบางได้ดี

ข้อดีของ Bakuchiol

  • อ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งลอก หรือผิวที่ไม่ทน Retinol
  • ใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ไม่ไวต่อแสงเหมือน Retinol
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความเรียบเนียนของผิว
  • ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส และสีผิวสม่ำเสมอขึ้น
  • มีแนวโน้มปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ (แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ)

ข้อสังเกตของ Bakuchiol

  • ผลลัพธ์อาจช้ากว่า Retinol เล็กน้อย โดยเฉลี่ยมักเห็นผลประมาณ 6–12 สัปดาห์
  • ประสิทธิภาพในการลดสิวอุดตันอาจไม่เด่นเท่า Retinol แต่เหมาะกับการเน้นด้านริ้วรอยและความเนียนใสของผิว

ความเข้มข้นของ Bakuchiol ที่มักพบ

  • 0.5–1% – เหมาะกับการใช้ประจำวัน ผิวส่วนใหญ่รับได้
  • 2% – มักพบในสูตรที่เน้นผลลัพธ์ด้านริ้วรอยชัดเจนมากขึ้น

Retinol vs Bakuchiol ต่างกันยังไง? (ตารางเปรียบเทียบ)

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น มาดูตารางเปรียบเทียบแบบรวบรัด ใช้เทียบก่อนเลือกซื้อหรือเลือกใช้ในรูทีนได้เลย

คุณสมบัติ Retinol Bakuchiol
ประเภทสาร อนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoid) สารสกัดจากพืช Psoralea corylifolia
กลไกหลัก ผลัดเซลล์ผิว + กระตุ้นคอลลาเจน กระตุ้นยีนสร้างคอลลาเจน โดยไม่ผลัดผิวแรง
ความแรง/ความเร็ว ค่อนข้างแรง เห็นผลไว ค่อยเป็นค่อยไป แต่เนียนนุ่มและอ่อนโยน
การระคายเคือง สูงกว่า มีโอกาสแห้ง แดง ลอก ต่ำ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
ช่วงเวลาที่ใช้ กลางคืนเท่านั้น ใช้ได้ทั้งเช้า–เย็น
การช่วยเรื่องสิว ดีมาก โดยเฉพาะสิวอุดตัน ช่วยลดการอักเสบได้บ้าง แต่ไม่เด่นเท่า Retinol
ความเหมาะสมสำหรับผิวแพ้ง่าย อาจไม่เหมาะ ต้องเริ่มช้าๆ และใช้ร่วมมอยส์เจอร์ เหมาะมาก
การใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ไม่แนะนำ มีแนวโน้มปลอดภัยกว่า แต่ควรปรึกษาแพทย์
ระยะเวลาเห็นผลโดยเฉลี่ย 4–8 สัปดาห์ 6–12 สัปดาห์

ใครเหมาะกับ Retinol? ใครควรเลือก Bakuchiol?

กลุ่มที่เหมาะกับ Retinol

  • คนที่มีผิวมันมาก รูขุมขนกว้าง หรือมีสิวอุดตันบ่อย
  • คนที่กังวลเรื่องรอยดำ รอยสิว และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • คนที่เริ่มมีริ้วรอยชัด โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก หางตา ร่องแก้ม
  • คนที่ต้องการเห็นผลด้านความเรียบเนียนและความละเอียดของผิวค่อนข้างเร็ว

กลุ่มที่เหมาะกับ Bakuchiol

  • ผิวแห้ง แพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย ใช้อะไรก็แสบ
  • เคยลองใช้ Retinol แล้วผิวลอก แดง แสบ จนต้องหยุด
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)
  • คนที่อยากเริ่มดูแล Anti-Aging แต่ยังกลัวสารกลุ่มเรตินอยด์
  • ผู้ที่ต้องการใช้สาร Anti-Aging ในรูทีนกลางวัน เช่น ใต้กันแดด หรือใช้คู่กับวิตามินซี

Retinol และ Bakuchiol ใช้ร่วมกันได้ไหม?

คำตอบคือ: ได้ และในบางเคสยังเป็นการช่วย “บาลานซ์” ผิวด้วย เพราะ Bakuchiol สามารถช่วยเสริมให้ผิวแข็งแรงและลดโอกาสระคายเคืองจาก Retinol ได้

แนวทางการใช้ร่วมกัน (ตัวอย่างรูทีนกลางคืน)

  1. ล้างหน้าให้สะอาด ซับผิวให้แห้งสนิท
  2. ลง Bakuchiol บาง ๆ ทั่วหน้า (ช่วยเตรียมผิวให้พร้อม)
  3. รอให้ซึมสักครู่ แล้วลง Retinol ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวทั่วใบหน้า
  4. ปิดท้ายด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น เพื่อเคลือบและลดการแห้งลอก

สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายมาก อาจใช้วิธี “สลับวัน” เช่น วันคู่ใช้ Retinol วันคี่ใช้ Bakuchiol เพื่อลดภาระของผิว

Timeline ผลลัพธ์ Retinol vs Bakuchiol ภายใน 12 สัปดาห์

ด้านล่างนี้เป็นภาพรวมแบบประมาณการ เพื่อให้เห็นลำดับการเปลี่ยนแปลงของผิวเมื่อใช้ Retinol และ Bakuchiol อย่างต่อเนื่อง (ร่วมกับกันแดดและการบำรุงพื้นฐาน)

ระยะเวลา Retinol Bakuchiol
สัปดาห์ที่ 1–2 ผิวอาจแห้ง ตึง ลอกเล็กน้อย เป็นช่วงผิวปรับตัว ผิวนุ่มขึ้นเล็กน้อย รู้สึกชุ่มชื้น ไม่ค่อยระคายเคือง
สัปดาห์ที่ 3–4 รอยดำเริ่มจางลงเล็กน้อย ผิวดูเนียนขึ้นบางส่วน ผิวดูใสขึ้น เนียนกว่าเดิมเล็กน้อย
สัปดาห์ที่ 6–8 ริ้วรอยเล็ก ๆ และรูขุมขนเริ่มดูตื้นและเล็กลง ริ้วรอยตื้นและผิวดูฟู มีความยืดหยุ่นดีขึ้น
สัปดาห์ที่ 12 ผิวดูละเอียดเนียนขึ้นชัดเจน โทนสีผิวสม่ำเสมอ ผิวดูแข็งแรง เรียบเนียน กระจ่างใสแบบนุ่มนวล

ทริคใช้ Retinol และ Bakuchiol แบบปลอดภัยและเห็นผล

  • ทดสอบการแพ้ก่อนใช้: ทาที่หลังหูหรือท้องแขน 24–48 ชั่วโมง
  • เริ่มจากน้อยไปมาก: ไม่ต้องรีบใช้ถี่หรือเข้มข้นสูงตั้งแต่แรก
  • กันแดดคือหัวใจสำคัญ: โดยเฉพาะหากใช้ Retinol เพราะผิวจะไวต่อแสงมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสครับแรง ๆ: ผิวที่ใช้สารกลุ่มนี้อยู่มักบอบบางขึ้น
  • ระวังการใช้ร่วมกับกรดแรง: เช่น AHA/BHA ความเข้มข้นสูง ควรจัดรูทีนให้ดีและอาจใช้สลับวัน

เลือกตัวไหนให้เหมาะกับผิวเรา?

ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ไว ลดริ้วรอยและสิวอย่างจริงจัง → Retinol คือคำตอบ แต่ต้องแลกกับโอกาสระคายเคืองที่มากขึ้น และต้องมีวินัยกับการใช้กันแดดและมอยส์เจอไรเซอร์

ถ้าผิวแพ้ง่าย แห้ง ลอก หรือเคยใช้เรตินอลแล้วผิวพัง → Bakuchiol คือทางเลือกที่น่าสนใจมาก ให้ผลด้าน Anti-Aging ที่ดี แต่อ่อนโยนกว่า และมักใช้ได้ทั้งเช้า–เย็น

สุดท้าย การเลือกไม่ใช่แค่ “ตัวไหนดีกว่า” แต่คือ “ตัวไหนเหมาะกับผิวเราและไลฟ์สไตล์เรามากกว่า” ต่างหาก

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คนท้องใช้ Retinol ได้ไหม?

ไม่แนะนำให้ใช้ Retinol ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มสารที่ควรหลีกเลี่ยง ควรเปลี่ยนไปใช้สารกลุ่มอื่น เช่น Bakuchiol หรือสารบำรุงผิวที่ปลอดภัยกว่า ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

Bakuchiol แรงพอ ๆ กับ Retinol ไหม?

ในแง่ของการกระตุ้นคอลลาเจนและลดเลือนริ้วรอย งานวิจัยบางส่วนพบว่า Bakuchiol ให้ผลใกล้เคียงกับ Retinol แต่ข้อได้เปรียบคืออ่อนโยนกว่า ระคายเคืองน้อยกว่า และไม่เร่งการผลัดผิวแรงเท่า

ใช้ Retinol ทุกวันได้ไหม?

ในช่วงเริ่มต้นไม่ควรใช้ทุกวัน ควรเริ่มจากสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง เพื่อให้ผิวปรับตัว จากนั้นหากผิวทนได้ จึงค่อยเพิ่มความถี่ขึ้นทีละน้อยตามสภาพผิว

ผิวแห้งใช้ Retinol ได้ไหม?

ผิวแห้งสามารถใช้ Retinol ได้ แต่ต้องดูแลเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ โดยใช้ควบคู่กับมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น หรือมีส่วนผสมของเซราไมด์ กรดไฮยาลูรอนิก และน้ำมันบำรุงผิว เพื่อป้องกันการลอก แดง และตึงผิว

Retinol และ Bakuchiol ใช้ร่วมกับวิตามินซีได้ไหม?

โดยหลักการสามารถใช้ร่วมกันได้ โดยนิยมใช้ วิตามินซีตอนเช้า คู่กับกันแดด และใช้ Retinol หรือ Bakuchiol ตอนกลางคืน หรือจะสลับวันใช้ก็ได้ เพื่อให้ผิวมีเวลาปรับตัวและลดโอกาสระคายเคือง


Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์

Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง

  • มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
  • ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
  • บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
  • มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)

ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000

โทรศัพท์: 063-554-2465

LINE: @wiseplusgrow

Email: wiseplusgrow324@gmail.com

เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.

วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์

สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า