ผิวหยาบกร้าน แก้ยังไง? ฟื้นฟูให้ผิวนุ่ม สุขภาพดีแบบยั่งยืน

ผิวหยาบกร้านแห้งตึงพร้อมสบู่สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้ง

ผิวหยาบกร้าน แห้งตึง คัน หรือแตกลอก ไม่ใช่แค่เรื่องของความงาม แต่สะท้อนถึงการดูแลผิวที่อาจไม่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะเกิดจากการอาบน้ำผิดวิธี ใช้สบู่แรงเกินไป หรือขาดการบำรุงในจุดสำคัญอย่างข้อศอก หัวเข่า หรือหลังมือ บทความนี้จะพาคุณเข้าใจสาเหตุ พร้อมแนวทางฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่มด้วยวิธีธรรมชาติ และการเลือกใช้ สบู่สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้ง ที่ช่วยให้ผิวกลับมาสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

หัวข้อในหน้านี้

รู้หรือไม่? ผิวหยาบกร้านอาจมาจากพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว

พฤติกรรมประจำวันที่ทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน

หลายคนเผชิญปัญหาผิวแห้ง ลอก แตก หรือหยาบกร้านโดยไม่รู้ว่าต้นเหตุมาจากอะไร แท้จริงแล้ว พฤติกรรมประจำวันเล็ก ๆ ที่ทำซ้ำโดยไม่ตั้งใจ อาจเร่งให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น อ่อนแอ และเกิดอาการแพ้ง่ายมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลองสังเกตดูว่าคุณมีข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้หรือไม่:

  • อยู่ในห้องแอร์จัด หรืออากาศแห้ง: ทำให้ผิวสูญเสียน้ำ เกิดอาการแห้ง ลอก หรือคันได้ง่าย
  • อาบน้ำร้อนนาน / ใช้สบู่แรง: ความร้อนและสารทำความสะอาดแรงอย่าง SLS ทำลายเกราะป้องกันผิว
  • ไม่ทาครีมหรือโลชั่นหลังอาบน้ำ: ผิวที่เปียกหมาดคือช่วงเวลาทองในการกักเก็บความชุ่มชื้น
  • ดื่มน้ำน้อยกว่าวันละ 6 แก้ว: ทำให้เซลล์ผิวขาดน้ำจากภายใน ผิวดูหมองและไม่ยืดหยุ่น
  • อายุที่เพิ่มขึ้น: ต่อมไขมันทำงานช้าลง ส่งผลให้ผิวแห้ง หยาบ และบางลงตามวัย

หากคุณพบว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้ร่วมกันมากกว่าหนึ่งข้อ ผิวของคุณอาจกำลังถูกทำร้ายโดยไม่รู้ตัว — ถึงเวลาเปลี่ยนการดูแลใหม่ เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

เปรียบเทียบผิวแห้งกับผิวขาดน้ำด้วยภาพผิวจริง

ผิวแห้ง กับผิวขาดน้ำ… เข้าใจให้ชัด ก่อนเลือกวิธีดูแล

เคยไหม? ทาครีมแล้วผิวก็ยังแห้งตึง หรือบางครั้งผิวมันแต่กลับรู้สึกตึงและคัน — ความจริงแล้ว “ผิวแห้ง” กับ “ผิวขาดน้ำ” คือคนละเรื่อง แต่หลายคนกลับสับสนและดูแลผิดวิธีจนปัญหายิ่งแย่ลง

  • ผิวแห้ง (Dry Skin): เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อย ผิวมักลอกเป็นขุย หยาบกร้าน และไวต่อการระคายเคือง
  • ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin): ผิวอาจมันหรือผสม แต่ขาดความชุ่มชื้นในเซลล์ผิว ทำให้รู้สึกตึง แพ้ง่าย แต่มักไม่ลอก

การดูแลจึงต่างกันโดยสิ้นเชิง ผิวแห้งควรเสริม “ไขมันดี” ด้วยครีมหรือ สบู่สูตรอ่อนโยน ที่ไม่ล้างน้ำมันออกจนหมด ส่วนผิวขาดน้ำควรเน้นเติมน้ำให้ผิว ด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรน้ำและดื่มน้ำอย่างเพียงพอ

สบู่มีผลกับผิวแห้งมากกว่าที่คุณคิด! เลือกผิด = ผิวพังโดยไม่รู้ตัว

ใครจะคิดว่าแค่ “สบู่” ที่เราใช้ทุกวัน จะเป็นตัวการทำร้ายผิวแห้งให้หนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว สบู่ทั่วไปมักมีสารลดแรงตึงผิวรุนแรงอย่าง SLS / SLES ซึ่งล้างเอาน้ำมันธรรมชาติที่ผิวต้องการออกไปจนหมด ส่งผลให้ผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย หรือคันเรื้อรัง บางคนอาจรู้สึกว่า “บำรุงเท่าไรก็ไม่ดีขึ้น” ทั้งที่ต้นเหตุอาจอยู่ที่สบู่ที่ใช้ทุกวัน

หากคุณมีผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวลอกบ่อย ควรหลีกเลี่ยงสบู่ที่มีสารเคมีแรง หรือมีค่า pH ด่างจัด เพราะอาจทำลายเกราะป้องกันผิวโดยไม่รู้ตัว ทางเลือกที่ดีกว่าคือการใช้ สบู่ที่เหมาะกับผิวแห้ง ที่มีค่า pH ใกล้เคียงผิว (ประมาณ 5.5) และมีส่วนผสมบำรุงจากธรรมชาติ เช่น กลีเซอรีน น้ำผึ้ง หรือว่านหางจระเข้ ที่ช่วยปลอบประโลมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว

วิธีเลือกสบู่สำหรับผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย

ผิวแต่ละคนมีความไวต่อสารต่างกัน โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย หากเลือกสบู่ผิดประเภท อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง แห้งตึง หรือผิวบางลงได้ การเลือกสบู่จึงไม่ควรดูแค่ “ฟองเยอะ” หรือ “กลิ่นหอม” เท่านั้น

1. เลือกตามสภาพผิวของคุณ

  • ผิวแห้ง: ควรใช้สบู่ที่เติมความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน น้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้
  • ผิวแพ้ง่าย: หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีน้ำหอม สี หรือสารกันเสียแรง ๆ
  • ผิวแห้ง+แพ้ง่าย: ต้องเลือกสูตรอ่อนโยนที่มี pH สมดุล และไม่มีสารก่อการระคายเคือง

2. เช็กฉลากสบู่ก่อนซื้อ

อ่านฉลากเพื่อดูว่ามีส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ เช่น SLS/SLES, พาราเบน, สีสังเคราะห์ หรือน้ำหอมแรงเกินไป

3. ลองทดสอบก่อนใช้จริง

หากคุณไม่แน่ใจว่าสบู่เหมาะกับผิวคุณหรือไม่ ให้ทดลองใช้กับท้องแขนหรือหลังใบหูก่อน เพื่อสังเกตอาการแพ้ใน 24–48 ชม.

4. ตารางเปรียบเทียบสบู่ที่ควรมี / ควรเลี่ยง

สิ่งที่ควรมี สิ่งที่ควรเลี่ยง
กลีเซอรีน / น้ำมันธรรมชาติ / ว่านหางจระเข้ SLS/SLES, น้ำหอมแรง, พาราเบน
ค่า pH ใกล้เคียงผิว (5.5) สบู่ด่างจัด หรือสบู่ฆ่าเชื้อแบบแรง
สูตรอ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย สูตรฟอกขาวหรือผลัดเซลล์แบบแรง

5. ตัวเลือกแนะนำ

หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเลือกสบู่แบบไหนดี การเริ่มจาก สบู่สูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับผิวแห้ง เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เพราะออกแบบมาให้ไม่มีสารรุนแรง และใช้ส่วนผสมธรรมชาติในการทำความสะอาดโดยไม่ทำลายเกราะป้องกันผิว

5 วิธีฟื้นฟูผิวหยาบกร้านให้กลับมานุ่มชุ่มชื้นแบบไม่ต้องใช้ของแพง

ผิวที่แห้งตึง แตก ลอก หรือหยาบกร้าน อาจไม่ได้ต้องการสกินแคร์ราคาแพง แต่อาจแค่ต้องการ “การดูแลที่ถูกต้อง” บทความนี้รวบรวม 5 วิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถเริ่มทำได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งรูทีน — เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เห็นผลได้จริง

  1. เปลี่ยนมาใช้ สบู่สูตรอ่อนโยน
    หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีสาร SLS/SLES น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ เพราะอาจดึงน้ำมันธรรมชาติออกจากผิวมากเกินไป ทำให้ผิวแห้งตึงและไวต่อการระคายเคือง
  2. อาบน้ำอุ่นแทนน้ำร้อน และไม่ขัดผิวแรง
    น้ำร้อนจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำในชั้นผิวเร็วขึ้น และการขัดผิวแรงอาจทำลายเกราะผิว ลองเปลี่ยนมาใช้ผ้าซับเบา ๆ แทน
  3. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทันทีหลังอาบน้ำ
    ช่วงที่ผิวยังหมาด ๆ คือช่วงที่ดีที่สุดในการล็อกความชุ่มชื้น ใช้โลชั่นหรือออยล์ที่มีส่วนผสมอย่างเชียบัตเตอร์ วิตามิน E หรือเซราไมด์
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
    ความชุ่มชื้นของผิวเริ่มจากภายใน หากร่างกายขาดน้ำ ผิวจะขาดความยืดหยุ่น และเสี่ยงต่อการแตก ลอก หรือคันง่าย
  5. พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
    ฮอร์โมนจากความเครียดส่งผลต่อผิวโดยตรง หากนอนหลับไม่เพียงพอ ผิวจะซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง ทำให้ดูแห้ง เหี่ยวย่นเร็วขึ้น

คุณไม่จำเป็นต้องทำครบทุกข้อในวันเดียว — แค่เริ่มเปลี่ยนวันละนิด ผิวก็จะค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาเนียนนุ่มขึ้นได้ในแบบของคุณเอง

ส่วนผสมธรรมชาติช่วยลดผิวหยาบกร้านว่านหางจระเข้น้ำผึ้งน้ำมันมะพร้าวอะโวคาโด

ส่วนผสมธรรมชาติที่ช่วยลดผิวหยาบกร้าน

ผิวแห้งและหยาบกร้านมักเกิดจากเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ หรือการขาดความชุ่มชื้นทั้งจากภายนอกและภายใน โชคดีที่ธรรมชาติมีส่วนผสมหลายชนิดที่ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างอ่อนโยน โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีแรง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ราคาแพง ต่อไปนี้คือ 4 ส่วนผสมเด่นที่คุณสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณภาพ หรือแม้แต่นำไปใช้ในสูตร DIY ได้เองที่บ้าน

ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)

สมุนไพรยอดนิยมที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบและรอยแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่านหางจระเข้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่แห้งตึง หรือแสบคันจากแดด ช่วยเติมน้ำให้ผิวโดยไม่ทำให้มัน และยังเสริมความชุ่มชื้นในระดับเซลล์

น้ำผึ้ง (Honey)

น้ำผึ้งแท้เป็นสารให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ (Natural Humectant) ที่สามารถดึงน้ำเข้าสู่ผิว พร้อมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอ่อน ๆ เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งลอกจนเป็นแผล หรือมีแนวโน้มเป็นผื่น น้ำผึ้งยังช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง

น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

ไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวช่วยเคลือบผิว และลดการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแห้งมาก โดยเฉพาะบริเวณข้อศอก หัวเข่า หรือส้นเท้าที่มักหยาบกร้าน น้ำมันมะพร้าวยังช่วยฟื้นฟูผิวที่แตกลอกให้กลับมานุ่มนวลได้

อะโวคาโด (Avocado)

อะโวคาโดอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามิน A, E และโอเมก้า 9 ที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมผิวแห้งเสีย และฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวจากภายใน เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเรื้อรัง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำตลอดวัน

หากคุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิว การเลือกสบู่หรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้ จะช่วยลดการระคายเคือง และเสริมความแข็งแรงให้ผิวได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว

ข้อศอกคล้ำและเข่าด้านจากผิวแห้งหยาบกร้าน

ผิวหยาบกร้านในแต่ละจุดบนร่างกายก็ต้องการการดูแลต่างกัน

ผิวหยาบกร้านไม่ได้เกิดแค่ที่เดียว และแต่ละตำแหน่งก็มี “พฤติกรรม-แรงกด-ความแห้ง” ที่ต่างกันออกไป หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแลเฉพาะจุด อาจทำให้ผิวหมองด้าน หรือแตกลอกเรื้อรังได้ มาดูกันว่าแต่ละจุดควรดูแลแบบไหนถึงจะได้ผล:

ข้อศอก / หัวเข่า

สองจุดนี้มักต้องสัมผัสพื้นผิวแข็ง หรือเสียดสีกับเสื้อผ้า จึงแห้งด้านง่ายกว่าส่วนอื่น แนะนำให้ขัดเบา ๆ ด้วย สครับธรรมชาติ สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง และทาครีมหรือบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้นเข้มข้นทุกคืน

ส้นเท้า

ส้นเท้าต้องรับน้ำหนักทั้งวัน และยังอยู่ในรองเท้าปิดบ่อยครั้ง จึงเกิดการเสียดสีและแห้งแตกได้ง่าย ควรใช้ แผ่นขัดผิวส้นเท้าร่วมกับครีมบำรุงแบบ overnight ทาให้หนาแล้วใส่ถุงเท้านอน เพื่อให้ผิวนุ่มขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์

หลังมือ

ผิวหลังมือบาง แต่ต้องเผชิญทั้งแดด สารเคมี และสบู่ล้างมือทั้งวัน หากเลือกสบู่ไม่เหมาะ อาจทำให้ผิวลอกหรือลอกเป็นขุยได้ง่าย ควรเลือกใช้ สบู่ล้างมือสูตรอ่อนโยน ที่ไม่ทำลายเกราะผิว และทาครีมบำรุงหลังล้างมือทุกครั้ง

เคล็ดลับเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ เสริมผิวให้นุ่มขึ้นจากภายนอก

บางครั้งการฟื้นฟูผิวไม่ได้มาจากสิ่งที่เราทา แต่เกิดจากการจัดการสิ่งรอบตัวที่สัมผัสผิวโดยตรง ลองปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ เหล่านี้ แล้วคุณจะรู้ว่าผิวดีขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว:

  • เพิ่มความชื้นในห้อง: โดยเฉพาะห้องนอนหรือตอนเปิดแอร์นาน ๆ ผิวจะสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นหรือวางแก้วน้ำไว้ใกล้เตียงก็ช่วยได้
  • เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี: หลีกเลี่ยงผ้าใยสังเคราะห์ที่อับเหงื่อ ควรเลือกผ้าฝ้ายเนื้อเบา โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน
  • ลดการอาบน้ำร้อนจัด: แม้จะรู้สึกผ่อนคลาย แต่ผิวยิ่งแห้งและสูญเสียไขมันดี ควรเปลี่ยนมาอาบน้ำอุ่นและไม่เกานาน ๆ
  • ใช้สกินแคร์แบบ Fragrance-Free: น้ำหอมคือหนึ่งในตัวกระตุ้นผิวแห้งและแพ้ง่าย ใช้สูตรที่ไม่มีน้ำหอม สี หรือแอลกอฮอล์ดีที่สุด

เริ่มต้นดูแลผิวด้วยสบู่ที่อ่อนโยนกับผิวจริง ๆ

เปลี่ยนเพียงสิ่งเล็ก ๆ เช่น สบู่สูตรอ่อนโยนที่ไม่ทำร้ายผิว คุณอาจเห็นผลลัพธ์ที่ต่างออกไปอย่างชัดเจน ทั้งความเนียนนุ่ม ความสบายผิว และสุขภาพผิวที่ดีขึ้นในระยะยาว

สรุปส่งท้าย: ฟื้นฟูผิวหยาบกร้าน เริ่มจากการเข้าใจผิวของคุณ

ผิวหยาบกร้านไม่ใช่เรื่องเล็ก หากปล่อยไว้ อาจลุกลามจนเกิดปัญหาผิวลึกยิ่งขึ้น แต่หากคุณเริ่มจากพื้นฐานอย่างการเลือกสบู่ที่ดี อาบน้ำอย่างเหมาะสม บำรุงให้เพียงพอ และเลือกใช้ส่วนผสมธรรมชาติที่ปลอดภัย ผิวของคุณก็จะกลับมาเนียนนุ่มได้ในเวลาไม่นาน ลองเริ่มต้นวันนี้ เพื่อผิวสุขภาพดีในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาผิวหยาบกร้าน

ผิวหยาบกร้านเกิดจากอะไรได้บ้าง?

อาจเกิดจากอากาศแห้ง อาบน้ำร้อนเกินไป ใช้สบู่แรง ๆ หรือขาดการบำรุงผิวที่เหมาะสม

ควรใช้สบู่แบบไหนหากมีปัญหาผิวหยาบกร้าน?

ควรใช้สบู่สูตรอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง และมีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน หรือว่านหางจระเข้

ผิวแห้งกับผิวขาดน้ำต่างกันอย่างไร?

ผิวแห้งเกิดจากการผลิตน้ำมันผิวน้อย ส่วนผิวขาดน้ำเกิดจากการขาดความชุ่มชื้นจากภายใน แม้แต่ผิวมันก็ขาดน้ำได้

การขัดผิวช่วยลดความหยาบกร้านได้ไหม?

ช่วยได้ถ้าทำอย่างถูกวิธี เช่น ขัดเบา ๆ สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ด้วยสครับที่อ่อนโยน ไม่รบกวนผิวเกินไป

ใช้สบู่ล้างมือทั่วไปแทนสบู่บำรุงผิวได้ไหม?

ไม่แนะนำ เพราะสบู่ล้างมือบางประเภทอาจมีสารกัดผิวแรง ควรเลือกสบู่ที่ออกแบบมาสำหรับผิวกายโดยเฉพาะ


Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์

Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง

  • มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
  • ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
  • บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
  • มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)

ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000

โทรศัพท์: 063-554-2465

LINE: @wiseplusgrow

Email: wiseplusgrow324@gmail.com

เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.

วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์

สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า