กระแสกลิ่นหวานอุ่นแบบ Warm Vanilla และโทนน้ำนม (Milk Accord) กลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่มองหากลิ่นที่สะท้อนความละมุน ความสบายใจ และความเป็นตัวเองในแบบที่ไม่ต้องพยายามมาก กลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมวัฒนธรรมโซเชียลและความสนใจด้านประสบการณ์ส่วนตัว จึงนิยมกลิ่นที่ “มีความรู้สึก” มากกว่ากลิ่นที่ “จัดจ้าน” แบบน้ำหอมรุ่นก่อนหน้า จากกระแส TikTok PerfumeTok ไปจนถึงรีวิวแนว “กลิ่นนุ่มเหมือนผิวสะอาดหลังอาบน้ำ” แนวกลิ่นวานิลลาและน้ำนมกลายเป็นสัญลักษณ์ของความอบอุ่น เรียบง่าย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เป็นหนึ่งในแนวกลิ่นที่ถูกเลือกใช้บ่อยที่สุดในการพัฒนา สร้างแบรนด์น้ำหอม รุ่นใหม่ที่ต้องการเจาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยมหาวิทยาลัยที่กำลังกำหนดอัตลักษณ์ของตัวเองผ่านกลิ่นหอมที่ใช้ประจำวัน
- ทำไม Warm Vanilla และ Milk Accord จึงกลับมาบูมในปี 2025
- องค์ประกอบสำคัญของ Warm Vanilla & Milk Accord
- ข้อมูลเชิงลึกกลุ่ม Gen Z กับน้ำหอมกลิ่นแนววานิลลาและน้ำนม
- การออกแบบกลิ่น Warm Vanilla ให้เหมาะกับตลาดไทย
- Warm Vanilla ในการทำ Layering
- โอกาสทางการตลาดสำหรับแบรนด์น้ำหอมไทย
- ตัวอย่าง Mood Concept สำหรับพัฒนากลิ่น Warm Vanilla
- สรุป
- คำถามพบบ่อย
ทำไม Warm Vanilla และ Milk Accord จึงกลับมาบูมในปี 2025

ก่อนปี 2020 กลิ่นแนววานิลลามักถูกมองว่า “หวานเกินไป” หรือเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงเท่านั้น แต่ในปี 2025 บริบทเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เพราะผู้บริโภคมองกลิ่นในเชิงอารมณ์มากขึ้น โดยแนวโน้มคล้ายกับกระแส Skin Scent ที่เติบโตแรงในหลายประเทศเอเชีย
1 ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญ
การใช้กลิ่นวานิลลาและน้ำนมช่วยสร้างบรรยากาศ “soft & cozy” ที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการกลิ่นติดผิวแบบไม่ฉุนจนเกินไป
2 การเติบโตของ PerfumeTok ช่วยผลักดันกระแส
วิดีโอรีวิวที่บรรยายกลิ่นแนว “หอมแบบขนมอบร้อน” “นุ่มแบบกลิ่นสะอาดมีความครีมมี่” ทำให้ผู้ชมอยากทดลองซื้อ แม้จะไม่เคยดมมาก่อน
3 เข้ากับวัฒนธรรมแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ Gen Z
เสื้อผ้าแนว soft-girl, aesthetic และ cozy wear ทำให้กลิ่นหวานนุ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ประจำวัน
- ไม่หวานจัดจนเกินวัย
- ใช้ได้ทุกเพศ
- เป็นกลิ่นที่เข้ากับบรรยากาศเรียน มหาวิทยาลัย และวันทำงาน
องค์ประกอบสำคัญของ Warm Vanilla & Milk Accord
เพื่อสร้างความนิ่มนวลและความละมุนของกลิ่นแนวนี้ นักพัฒนากลิ่นมักผสมผสานโครงสร้างดังต่อไปนี้
| Note | บทบาท |
|---|---|
| Vanilla Absolute | ให้ความหวานนุ่มและความรู้สึกอบอุ่นลึก |
| Milk Lactone | ให้เนื้อน้ำนมนุ่มละมุนแบบ creamy |
| Tonka Bean | เพิ่มความหวานอบอุ่นแบบอัลมอนด์ |
| White Musk | ทำให้กลิ่นติดผิวนุ่มและสะอาด |
| Cashmere Wood | สร้างมิติอบอุ่นนุ่มสไตล์ cozy |
โครงสร้างกลิ่นที่นิยมใช้ในปี 2025
- Vanilla + Milk Lactone + White Musk (เรียบง่าย ใช้ง่าย)
- Vanilla + Tonka Bean + Cashmere (อบอุ่นเหมาะกับกลางคืน)
- Milk Accord + Soft Woods (กลิ่นสะอาดสดใสแบบ minimal)
ข้อมูลเชิงลึกกลุ่ม Gen Z กับน้ำหอมกลิ่นแนววานิลลาและน้ำนม
กลุ่มผู้บริโภค Gen Z ให้ความสำคัญกับกลิ่นที่บ่งบอก mood และอารมณ์ประจำวัน มากกว่าการแบ่งตามเพศหรือโอกาสใช้งาน พวกเขามองว่ากลิ่นคือ “ภาษาสื่ออารมณ์” และเลือกใช้กลิ่นที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดี ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยภาพจำแบบเดิมของน้ำหอมกึ่งขนมที่หวานจัด
สิ่งที่ Gen Z มองหาในกลิ่นนี้
- ความละมุนที่ติดผิวจริง เหมือนกลิ่นธรรมชาติของร่างกาย
- กลิ่นที่สร้างอารมณ์สงบ ผ่อนคลาย
- ไม่ฉุนจนเกินไป สามารถใช้ในที่เรียนหรือสำนักงาน
- เล่น Layering ได้ง่าย เช่นผสมกลิ่น clean หรือ gourmand
ความนิยมจากช่องทางดิจิทัล
จากข้อมูล Social Listening ล่าสุด กลิ่นแนววานิลลาและน้ำนมถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในหมวด “safe scent” และ “cozy scent” ซึ่งเป็นคำที่มาแรงในปีนี้ เช่นเดียวกับกระแส Fruity Accord ที่เติบโตจาก TikTok ความนิยมของกลิ่นหวานนุ่มกลุ่มนี้ก็ถูกผลักดันจากคอนเทนต์รีวิวลักษณะเดียวกัน
การออกแบบกลิ่น Warm Vanilla ให้เหมาะกับตลาดไทย

แม้แนวกลิ่นนี้ได้รับความนิยมทั่วโลก แต่การพัฒนากลิ่นสำหรับตลาดไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงภูมิอากาศที่ร้อนชื้นและพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมกลิ่นสะอาดมากกว่ากลิ่นหวานหนัก เทคนิคที่ Perfumer มักใช้คือการเพิ่ม top note ที่สดชื่นเพื่อให้สมดุล
Top Notes ที่นิยมผสมเพื่อให้กลิ่นเบาสบาย
- Bergamot
- Mandarin
- Soft Citrus
- White Tea
การผสมกลิ่นแบบนี้ทำให้วานิลลารู้สึกโปร่งขึ้น ไม่หนักจนเกินไป เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะวัยเรียนและวัยทำงานตอนต้น
Warm Vanilla ในการทำ Layering
กลิ่นวานิลลาถือเป็นฐานที่ดีมากในการทำ Layering เพราะเข้ากับกลิ่นอื่นได้แทบทุกกลุ่ม ให้ผลลัพธ์หลากหลายตั้งแต่แนวอบอุ่นไปจนถึงแนว fresh creamy คล้ายกับเทคนิคที่นิยมใน กระแส Layering Perfume ปีนี้
คู่ Layering ที่นิยมมากที่สุด
- Vanilla + Clean Musk
- Vanilla + Fruity Floral
- Milk Accord + White Floral
- Vanilla + Coconut Milk (แนว Tropical Cozy)
แบรนด์ที่ต้องการพัฒนาคอลเล็กชันหลายแนวสามารถใช้ Warm Vanilla เป็น “แกนกลาง” แล้วต่อยอดเป็นหลาย mood ได้ง่าย
โอกาสทางการตลาดสำหรับแบรนด์น้ำหอมไทย
ความนิยมของกลิ่นแนวนี้เปิดโอกาสให้แบรนด์ใหม่สามารถวาง Positioning กลิ่นได้ชัดเจน โดยเฉพาะคอนเซปต์ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับความละมุน ความสงบ หรือความเรียบง่ายของชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่ม Gen Z ให้เข้ามาทดลองซื้อได้ง่ายขึ้น
โอกาสที่เห็นชัดเจนในปี 2025
- ตลาด online-first เติบโต ทำให้กลิ่นที่อธิบายง่ายขายดี
- UGC รีวิวง่ายเพราะแพ็กเกจโทนครีม-ขาว-ทองเป็นที่นิยม
- กลิ่นแนว cozy มีความ universal ใช้ได้ทุกเพศ
- สามารถแตกไลน์สินค้าได้ เช่น Hair Mist และ Body Cream
แบรนด์ที่ต้องการพัฒนากลิ่นเชิงเทคนิค เช่น Fixative หรือเทคนิคทำให้กลิ่นติดทน สามารถศึกษาข้อมูลจาก แนวคิดเรื่อง Fixative เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสูตรได้ด้วย
ตัวอย่าง Mood Concept สำหรับพัฒนากลิ่น Warm Vanilla
การสร้าง mood และ story ทำให้กลิ่นจำง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับอารมณ์และความหมายเบื้องหลังกลิ่น
ตัวอย่างที่ได้รับความนิยม
- “Soft Hug” – กลิ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนกอดอุ่น ๆ
- “Creamy Sunday” – บรรยากาศวันสบาย ๆ ในคาเฟ่
- “Gentle Cloud” – กลิ่นโปร่งนุ่มเหมือนปุยเมฆ
- “Cozy Vanilla Milk” – อุ่นละมุนแบบนมอุ่นผสมวานิลลา
สรุป
Warm Vanilla และ Milk Accord กลับมาเป็นดาวเด่นของตลาดน้ำหอมในปี 2025 ด้วยความสามารถในการสื่ออารมณ์ ความละมุน และความเรียบง่ายที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของ Gen Z ได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นกลิ่นที่ใช้ได้ทุกเพศแล้ว ยังเหมาะกับการทำ Layering และต่อยอดเป็นหลายคอลเล็กชัน ทำให้แบรนด์น้ำหอมสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ง่ายขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่มองหากลิ่นอบอุ่นที่ติดผิวแบบเป็นธรรมชาติ
คำถามพบบ่อย
กลิ่น Warm Vanilla เหมาะกับใคร?
เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ชอบกลิ่นละมุน นุ่ม และติดผิวแบบไม่ฉุน
กลิ่นวานิลลาใช้ในที่ทำงานได้ไหม?
ได้ หากเลือกแนว creamy light ที่ไม่หนักจนเกินไป
กลิ่น Milk Accord แตกต่างจาก Vanilla ธรรมดายังไง?
Milk Accord จะให้ความครีมมี่ นุ่มละมุน ส่วนวานิลลาจะหวานอบอุ่นมากกว่า
ควรเลือกกลิ่นแนวนี้อย่างไรสำหรับอากาศร้อน?
เลือกแบบมี top note citrus หรือ white tea เพื่อลดความหนักของกลิ่น
แนวกลิ่นนี้เหมาะกับการทำ Layering ไหม?
เหมาะมาก เพราะผสมได้กับกลิ่น clean, fruity, musk และ floral
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



