เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความงามและความมั่นใจให้เราในทุกๆ วัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจมี “ส่วนผสมอันตราย” แฝงตัวอยู่ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อผิวพรรณและสุขภาพโดยรวมได้ การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ “สารอันตรายในเครื่องสำอาง” และรู้จักวิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสารที่ควรระมัดระวัง พร้อมแนวทางการเลือกใช้เครื่องสำอางอย่างชาญฉลาด เพื่อผิวสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
- ทำไมเราต้องใส่ใจ "ส่วนผสมอันตราย" ในเครื่องสำอาง?
- เปิดโผ! 7 สารอันตรายในเครื่องสำอาง ที่ควรหลีกเลี่ยง
- วิธีเลือกเครื่องสำอางปลอดภัย และอ่านฉลากอย่างชาญฉลาด:
- บทบาทของ โรงงาน GMP ในการผลิตเครื่องสำอางปลอดภัย และการ สร้างแบรนด์ต่างๆ ที่ใส่ใจผู้บริโภค
- หากสงสัยว่าแพ้หรือได้รับผลกระทบจากเครื่องสำอาง ควรทำอย่างไร?
ทำไมเราต้องใส่ใจ “ส่วนผสมอันตราย” ในเครื่องสำอาง?
ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกายและสามารถดูดซึมสารต่างๆ ที่สัมผัสได้ การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมอันตรายอาจก่อให้เกิด ผลกระทบของสารเคมีในเครื่องสำอาง ดังนี้
- การระคายเคืองผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นแดง คัน แสบร้อน หรือผิวลอก
- การอุดตันรูขุมขน นำไปสู่ปัญหาสิว
- การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว อาจทำให้ผิวคล้ำเสียถาวร หรือเกิดรอยด่างขาว
- ผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย สารเคมีบางชนิดสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมน ระบบประสาท หรือเป็นสารก่อมะเร็งในระยะยาว
- ผิวบางลงและไวต่อแสง ทำให้ผิวอ่อนแอและเสี่ยงต่อปัญหาอื่นๆ ตามมา
ดังนั้น การเป็นผู้บริโภคที่ฉลาดเลือกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เปิดโผ! 7 สารอันตรายในเครื่องสำอาง ที่ควรหลีกเลี่ยง
- สารปรอท (Mercury) ขาวไว แต่ภัยร้ายแรง (สารห้ามใช้)
- วัตถุประสงค์เดิม มักถูกลักลอบใส่ในครีมหน้าขาว เพื่อให้เห็นผลรวดเร็วโดยการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน
- ผลกระทบ ทำให้ผิวบางลง แพ้ง่าย เกิดฝ้าถาวร ผิวคล้ำดำเมื่อหยุดใช้ และที่สำคัญคือสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายส่งผลเสียต่อระบบประสาท ไต และสมองได้ เป็น สารต้องห้ามในเครื่องสำอาง อย. ประเทศไทยกำหนดห้ามใช้อย่างเด็ดขาด
- ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) รักษาฝ้า แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
- วัตถุประสงค์เดิม ใช้รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยยับยั้งการสร้างเม็ดสี
- “ไฮโดรควิโนน อันตรายไหม?” หากใช้ในความเข้มข้นสูงหรือเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวหน้าด่างขาวถาวร (Ochronosis) หรือผิวคล้ำลงกว่าเดิมเมื่อหยุดใช้ ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่มีไฮโดรควิโนนจัดเป็นยาและต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น การลักลอบใส่ในเครื่องสำอางถือว่าผิดกฎหมาย
- สเตียรอยด์ (Corticosteroids) ลดอักเสบ แต่ใช้ผิดชีวิตเปลี่ยน (สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง)
- วัตถุประสงค์เดิม เป็นยาที่ใช้รักษาอาการอักเสบของผิวหนัง ลดผื่นแพ้
- ผลกระทบ การนำสเตียรอยด์มาใส่ในเครื่องสำอาง (เช่น ครีมหน้าใส ครีมรักษาสิว) ในช่วงแรกอาจทำให้ผิวดูดีขึ้น สิวอักเสบยุบไว แต่เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ผิวบางลง เห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจน ผิวติดสเตียรอยด์ (เกิดสิวเห่อ ผื่นแดงอย่างรุนแรงเมื่อหยุดใช้) และเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง
- พาราเบน (Parabens – เช่น Methylparaben, Propylparaben, Butylparaben) สารกันเสียยอดฮิต แต่มีข้อกังวล
-
- วัตถุประสงค์เดิม ใช้เป็นสารกันเสียในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ข้อกังวล มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าพาราเบนอาจรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมน (Endocrine Disruptor) และอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม (แม้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน) ปัจจุบันหลายแบรนด์จึงเลือกใช้สารกันเสียชนิดอื่นแทน หรือระบุว่า “Paraben-free”
- ซัลเฟต (Sulfates – เช่น Sodium Lauryl Sulfate/SLS, Sodium Laureth Sulfate/SLES) สารทำความสะอาดที่อาจก่อการระคายเคือง
- วัตถุประสงค์เดิม เป็นสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยให้เกิดฟองและทำความสะอาด มักพบในผลิตภัณฑ์ล้างหน้า แชมพู สบู่เหลว
- ผลกระทบ อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งตึง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ผู้บริโภคจำนวนมากจึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ “Sulfate-free”
- สารตะกั่ว (Lead) มักปนเปื้อนในลิปสติกสีเข้ม (สารห้ามใช้โดยตรง)
- ที่มา ตะกั่วไม่ใช่ส่วนผสมที่ตั้งใจใส่เข้าไป แต่เป็นสารปนเปื้อนที่อาจพบได้ในวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสีในเครื่องสำอางบางชนิด โดยเฉพาะลิปสติกสีเข้ม
- ผลกระทบ เป็นโลหะหนักที่เป็นพิษต่อระบบประสาทและอวัยวะต่างๆ แม้ในปริมาณน้อย หน่วยงานกำกับดูแลจึงมีการควบคุมปริมาณการปนเปื้อนอย่างเข้มงวด
- ฟอร์มาลดีไฮด์และสารที่ปลดปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde and Formaldehyde-releasing Preservatives): สารกันเสียที่อาจเป็นสารก่อมะเร็ง
- วัตถุประสงค์เดิม ใช้เป็นสารกันเสียในเครื่องสำอางบางชนิด
- ผลกระทบ ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ภูมิแพ้ และถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์โดยองค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง (IARC)
- (Bonus) สารอื่นๆ ที่ควรระวัง
- ไตรโคลซาน (Triclosan) สารฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจรบกวนฮอร์โมนและก่อให้เกิดเชื้อดื้อยา
- พทาเลต (Phthalates) มักใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอม อาจรบกวนระบบฮอร์โมน
- ทัลคัม (Talc) ในแป้งฝุ่น หากไม่ผ่านการควบคุมคุณภาพ อาจมีการปนเปื้อนของแร่ใยหิน (Asbestos) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง (ควรเลือกใช้ Talc ที่ผ่านการรับรองว่า Asbestos-free)
วิธีเลือกเครื่องสำอางปลอดภัย และอ่านฉลากอย่างชาญฉลาด:
- ตรวจสอบเลขที่ใบรับจดแจ้ง อย.
- เครื่องสำอางที่จำหน่ายในประเทศไทยต้องมีเลขที่ใบรับจดแจ้ง 13 หลัก (หรือ 10 หลักสำหรับผลิตภัณฑ์เก่า) สามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้จากเว็บไซต์ของ อย. หรือแอปพลิเคชัน Oryor Smart Application เพื่อดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องและมีข้อมูล สารต้องห้ามในเครื่องสำอาง อย. ระบุไว้หรือไม่ (ซึ่งไม่ควรมี)
- อ่านรายการส่วนผสม (Ingredients List) อย่างละเอียด
- ส่วนผสมจะเรียงลำดับจากปริมาณมากไปน้อย การรู้จักชื่อสารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยงจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
- เลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีแหล่งผลิตชัดเจน
- แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐานการผลิตที่ดีมักจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภค
- ระวังผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง
- เช่น “ขาวไวใน 3 วัน” “รักษาสิวหายขาด” “ริ้วรอยหายเกลี้ยง” มักเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจมีส่วนผสมของสารอันตราย
- ทดสอบการแพ้ (Patch Test) ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง
- ทาผลิตภัณฑ์ปริมาณเล็กน้อยบริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ แดง คัน หรือระคายเคือง ก็สามารถใช้กับใบหน้าได้
บทบาทของ โรงงาน GMP ในการผลิตเครื่องสำอางปลอดภัย และการ สร้างแบรนด์ต่างๆ ที่ใส่ใจผู้บริโภค
ความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในการผลิตเครื่องสำอาง โรงงาน GMP (Good Manufacturing Practice) หรือมาตรฐานวิธีการผลิตที่ดี เป็นระบบที่ช่วยควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิตที่สะอาดถูกสุขลักษณะ ไปจนถึงการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
สำหรับผู้ที่ต้องการ สร้างแบรนด์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง การเลือก โรงงานผลิตครีม หรือ โรงงาน OEM (Original Equipment Manufacturer) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ รับผลิตครีม และเครื่องสำอางอื่นๆ นั้น ปลอดภัย ปราศจากสารอันตรายที่ถูกห้ามใช้ และมีคุณภาพตรงตามที่กำหนด การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภคจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความยั่งยืนให้กับแบรนด์ในระยะยาว ผู้บริโภคเองก็มักจะมองหา รีวิวเครื่องสำอางปลอดภัย เพื่อประกอบการตัดสินใจ
หากสงสัยว่าแพ้หรือได้รับผลกระทบจากเครื่องสำอาง ควรทำอย่างไร?
- หยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นทันที
- ล้างหน้าหรือบริเวณที่สัมผัสผลิตภัณฑ์ด้วยน้ำสะอาดและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
- หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีความรุนแรง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
- เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์หรือฉลากส่วนผสมไว้เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบ
การมีความรู้และใส่ใจในการเลือกใช้เครื่องสำอาง จะช่วยให้คุณสวยได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว