ตลาดสกินแคร์ปี 2568 กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของส่วนผสมเป็นหลัก หากสนใจอ่านภาพรวมตลาดและกลไกการแข่งขัน สามารถดูได้ที่ ธุรกิจสกินแคร์ในปี 2568 บทความนี้จะพาคุณสำรวจส่วนผสมที่กำลังเป็นเทรนด์ พร้อมแนวทางนำไปใช้สร้างแบรนด์ครีมที่แตกต่างและตอบโจทย์ตลาด
- เทรนด์สกินแคร์ปี 2568 ที่แบรนด์ต้องรู้
- 5 ส่วนผสมสกินแคร์ที่มาแรงในปี 2568
- ข้อมูลผู้บริโภคปี 2025 ต้องการอะไรจากสกินแคร์
- แนวทางการพัฒนาสูตร OEM ให้ตอบโจทย์ตลาด
- ประโยชน์ของการเลือกส่วนผสมให้สอดคล้องกับเทรนด์
- สูตรสกินแคร์ยอดนิยมที่รวมส่วนผสมมาแรง
- ตารางเปรียบเทียบส่วนผสมสกินแคร์มาแรง
- ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่นำส่วนผสมเหล่านี้มาใช้ได้ดี
- วิธีเลือกส่วนผสมให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
- ข้อดีของการใช้สารสกัดตามเทรนด์ตลาด
- ข้อควรระวังในการเลือกวัตถุดิบตามกระแส
- เริ่มสร้างแบรนด์สกินแคร์ปี 2568 กับ Wise Plus Grow
- สรุป: เทรนด์นี้เหมาะกับใคร และควรเริ่มอย่างไร
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเทรนด์ส่วนผสมสกินแคร์
เทรนด์สกินแคร์ปี 2568 ที่แบรนด์ต้องรู้
ปี 2568 เป็นปีที่ตลาดสกินแคร์แข่งขันกันอย่างเข้มข้นกว่าที่เคย ทั้งในด้านนวัตกรรมที่ต้องตอบโจทย์ผิวเฉพาะทาง ความปลอดภัยที่พิสูจน์ได้ด้วยผลการทดสอบจริง และความคุ้มค่าที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค แบรนด์ไม่อาจพึ่งพาแค่การโฆษณาอีกต่อไป แต่ต้องมีข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจน เช่น ผลการทดสอบทางคลินิก การันตีจากแพทย์ผิวหนัง หรือการใช้ส่วนผสมที่มีหลักฐานวิจัยรองรับ การเลือกทำงานร่วมกับ โรงงานผลิตครีมมาตรฐาน ที่มีระบบ GMP/ISO จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้สินค้ามีคุณภาพสม่ำเสมอและได้รับความไว้วางใจ ผู้บริโภครุ่นใหม่คาดหวังทั้งคุณภาพ ผลลัพธ์ที่ตรวจสอบได้ และประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่าง ทำให้เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องปรับตัวทั้งในด้านสูตร ผลิตภัณฑ์ การเล่าเรื่อง และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ของตลาดสกินแคร์ไทยและสากล
- ส่วนผสมต้องมีงานวิจัยรองรับ
- แพ็กเกจจิ้งต้อง Eco-friendly
- สื่อสารแบรนด์ต้องโปร่งใส

5 ส่วนผสมสกินแคร์ที่มาแรงในปี 2568
จากการวิเคราะห์เทรนด์ตลาดทั่วโลกในปี 2568 พบว่าส่วนผสมที่ได้รับความนิยมสูงสุดจะเน้นที่คุณสมบัติ “ปรับสมดุลผิว ฟื้นฟูเร็ว ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยเฉพาะในกลุ่ม Clean Beauty และ Skinimalism ที่ยังคงเติบโตไม่หยุด สารสกัดที่มาแรงมักเป็นสารจากธรรมชาติ, เทคโนโลยีชีวภาพ และ Pre/Postbiotic ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันผิวได้อย่างล้ำลึก
- โพสต์ไบโอติกส์ (Postbiotics): เสริมภูมิคุ้มกันผิว
- เปปไทด์จากพืช: ปรับโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้น
- โมเลกุลต้านอนุมูลอิสระรุ่นใหม่: เพิ่มประสิทธิภาพการปกป้อง
- วิตามินซีเสถียร (Stable Vit C): ลดจุดด่างดำโดยไม่ระคายเคือง
- แร่ธาตุจากดินภูเขาไฟ: ดีท็อกซ์ผิวแบบอ่อนโยน
ข้อมูลผู้บริโภคปี 2025 ต้องการอะไรจากสกินแคร์
ผู้บริโภคเริ่มใส่ใจทั้งผลลัพธ์และจริยธรรมของแบรนด์มากขึ้น พวกเขาต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงได้ผล แต่ยังยั่งยืนและไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม
-
- Clean Beauty ที่ไม่มีสารอันตราย
- Vegan & Cruelty-free
- Personalized Skincare
แนวทางการพัฒนาสูตร OEM ให้ตอบโจทย์ตลาด
โรงงานควรมีทีม R&D ที่สามารถประเมินสารสกัดใหม่ได้อย่างแม่นยำ และสามารถปรับสูตรให้เข้ากับเทรนด์โดยไม่ละเลยประสิทธิภาพและความปลอดภัย
- ใช้สารสกัดที่ได้มาตรฐานและผ่าน Safety Test
- พัฒนาให้เหมาะกับสภาพผิวคนไทย
- ปรับกลิ่น เนื้อสัมผัส ให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย
ประโยชน์ของการเลือกส่วนผสมให้สอดคล้องกับเทรนด์
การใช้ส่วนผสมที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่น่าเชื่อถือและสามารถสร้างจุดขายได้ชัดเจน
- เพิ่มความเชื่อมั่นในสูตรและผลิตภัณฑ์
- มีโอกาสติดตลาดเร็วขึ้น
- ช่วยสร้างการสื่อสารทางการตลาดที่ง่าย

สูตรสกินแคร์ยอดนิยมที่รวมส่วนผสมมาแรง
สูตรที่ได้รับความนิยมในปีนี้จะเป็นสูตรแบบ All-in-One หรือ Hybrid Function ที่รวมคุณสมบัติหลายด้านไว้ในผลิตภัณฑ์เดียว เช่น ปรับสมดุล pH + เสริมเกราะผิว + ลดการอักเสบ โดยมักผสานส่วนผสมเทรนด์เข้ากับสารตั้งต้นที่มีงานวิจัยรองรับ เช่น สูตรเซรั่มที่ผสม Prebiotic + Ceramide หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มี Niacinamide + Probiotic เหมาะกับทั้งผิวแพ้ง่ายและผิววัยทำงาน
- สูตรลดรอยแดง: ไนอาซินาไมด์ + สารสกัดเห็ด
- สูตรฟื้นฟูผิวแพ้ง่าย: เซราไมด์ + พรีไบโอติกส์
- สูตรปรับสีผิวกระจ่างใส: วิตามินซี + Postbiotic
ตารางเปรียบเทียบส่วนผสมสกินแคร์มาแรง
เพื่อให้เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกส่วนผสมได้ง่ายขึ้น เราได้จัดทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติเด่น จุดแข็ง จุดควรระวัง และกลุ่มเป้าหมายของแต่ละสารสกัดอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับใช้ในการวางแผนสูตรหรือสื่อสารจุดขายกับลูกค้า โดยเน้นให้เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้จริงได้ทันทีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
| ส่วนผสม | คุณสมบัติเด่น | เหมาะกับใคร |
|---|---|---|
| Postbiotics | เสริมภูมิคุ้มกันผิว ลดอักเสบ | ผิวแพ้ง่าย, ผิวติดสาร |
| Peptide จากพืช | ฟื้นฟูคอลลาเจน | ผิวเริ่มมีริ้วรอย |
| Stable Vitamin C | ลดจุดด่างดำโดยไม่ระคายเคือง | ทุกสภาพผิว |

ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่นำส่วนผสมเหล่านี้มาใช้ได้ดี
สารสกัดแต่ละชนิดจะตอบโจทย์กับประเภทของผลิตภัณฑ์ต่างกัน เช่น Ceramide + Hyaluronic Acid เหมาะกับ Moisturizer และ Night Cream, ส่วน Prebiotic และ Postbiotic จะเหมาะกับ Cleansing และ Toner ที่เน้นคืนสมดุลผิว ส่วนกลุ่มสารสกัดจากพืชเมืองหนาวมักนำไปใช้ในสูตร Anti-aging และ Sleeping Mask ที่ต้องการผลลัพธ์เชิงลึกต่อผิว แนวทางเหล่านี้สะท้อนว่าประเภทสินค้าที่โตเร็วใน ตลาดสกินแคร์ปี 2568 ไทย มักเชื่อมโยงกับเทรนด์ส่วนผสมที่มีงานวิจัยรองรับและตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะทาง
- เซรั่มเข้มข้น
- ครีมบำรุงกลางวัน/กลางคืน
- มาส์กฟื้นฟูผิว
- โทนเนอร์ปรับสมดุลผิว
วิธีเลือกส่วนผสมให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
การเลือกส่วนผสมควรพิจารณาจากปัญหาผิวของกลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิววัย 30+ หรือผิวที่ต้องการฟื้นฟู
- วัยรุ่น: เน้นลดสิว ลดรอยแดง
- วัยทำงาน: ฟื้นฟูผิว แอนตี้เอจจิ้ง
- ผิวแพ้ง่าย: เน้นเซราไมด์ พรีไบโอติกส์

ข้อดีของการใช้สารสกัดตามเทรนด์ตลาด
การเลือกใช้สารสกัดที่อยู่ในกระแสไม่เพียงช่วยให้แบรนด์ดูทันสมัย แต่ยังเสริม “Trust Signal” ที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น เช่น เมื่อผู้ใช้เห็นส่วนผสมที่แบรนด์ใหญ่ใช้ในสินค้าราคาแพง แล้วพบในแบรนด์คุณในราคาที่จับต้องได้ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาส Conversion นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเนื้อหาในการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ง่ายและเชื่อมต่อกับคอนเทนต์ Educate ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันใน ตลาดสกินแคร์ปี 2568 ของไทย
- ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่
- สร้างความแตกต่างและความน่าสนใจให้แบรนด์
- สื่อสารการตลาดได้ง่ายผ่าน Trend Signal
ข้อควรระวังในการเลือกวัตถุดิบตามกระแส
แม้เทรนด์จะเปลี่ยนเร็ว แต่ต้องพิจารณาจากข้อมูลจริง ไม่ใช่แค่ตามกระแสโซเชียล
- ตรวจสอบงานวิจัยและผลข้างเคียง
- เลือกสารที่มีแหล่งผลิตปลอดภัย
- ปรับใช้ให้เข้ากับสภาพอากาศไทย
เริ่มสร้างแบรนด์สกินแคร์ปี 2568 กับ Wise Plus Grow
เราคือโรงงาน OEM สกินแคร์ที่เข้าใจเทรนด์โลก มีทีมวิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะ พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่การออกแบบสูตรจนถึงการสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน
- บริการครบวงจร: คิดสูตร ผลิต ออกแบบ
- ทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- ได้รับมาตรฐาน GMP และความเชื่อถือจากแบรนด์ชั้นนำ
สรุป: เทรนด์นี้เหมาะกับใคร และควรเริ่มอย่างไร
แบรนด์ที่อยากเริ่มใหม่หรือรีแบรนด์ควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ใช้เทรนด์เป็นจุดเริ่มต้น แต่ควรมีจุดยืนของแบรนด์ที่ชัดเจน พร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นสูตรที่ขายได้จริง? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสกินแคร์ และเริ่มต้นวางคาแรคเตอร์สูตรที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณ
วางคอนเซปต์สูตร พร้อมผู้เชี่ยวชาญ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเทรนด์ส่วนผสมสกินแคร์
ส่วนผสมสกินแคร์ที่มาแรงในปี 2568 แตกต่างจากปีที่ผ่านมาอย่างไร?
ปี 2568 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ นวัตกรรมไมโครไบโอม และสารออกฤทธิ์ทางผิวหนังที่มีผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นกว่าสารทั่วไปในปีที่แล้ว
หากเลือกใช้สารตามเทรนด์ จะเพิ่มต้นทุนสูตรมากหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับแหล่งวัตถุดิบและปริมาณการใช้ สารบางชนิดอาจมีต้นทุนสูงกว่าสารมาตรฐาน แต่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและสามารถเพิ่มมูลค่าการตลาดได้
สามารถใช้สารสกัดจากเทรนด์กับทุกสภาพผิวได้หรือไม่?
ไม่ใช่ทุกสารที่เหมาะกับทุกสภาพผิว เช่น สารผลัดเซลล์ควรหลีกเลี่ยงในกลุ่มผิวแพ้ง่าย จึงควรออกแบบสูตรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างรอบคอบ
ต้องมี อย. หรือใบรับรองพิเศษไหมเมื่อใช้สารตามเทรนด์ใหม่?
สารสกัดที่นำเข้าใหม่บางชนิดต้องมีเอกสารรับรองความปลอดภัยและต้องผ่านการพิจารณาจาก อย. ก่อนจึงจะสามารถใช้ในสูตร OEM ได้
ควรเริ่มต้นเลือกสูตรอย่างไรหากอยากผลิตสินค้าตามเทรนด์ปี 2568?
เริ่มจากการระบุกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ปัญหาผิว และเลือกสารสกัดที่มีงานวิจัยรองรับร่วมกับทีม R&D ที่เชี่ยวชาญด้านตลาด เพื่อออกแบบสูตรที่มีความแตกต่างและตรงความต้องการของผู้บริโภค
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



