น้ำมันอาร์แกน หรือ Argan Oil เป็นสารสกัดธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในวงการสกินแคร์และแฮร์แคร์ เนื่องจากอุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นและสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติช่วยบำรุงและปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น รวมถึงเสริมเกราะป้องกันผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันถูกนำไปใช้ใน สารสกัดสกินแคร์ สำหรับเซรั่ม ครีม และแชมพูในหลายแบรนด์ทั่วโลก

- ข้อมูลสรุปสำคัญของ น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil)
- น้ำมันอาร์แกน คืออะไร และมาจากไหน
- ส่วนประกอบสำคัญและกลไกการทำงาน
- ประโยชน์ของน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil)
- กรณีศึกษาและการใช้งานจริงของน้ำมันอาร์แกน
- ดีต่อเส้นผมและส่วนอื่นของร่างกาย
- ใช้ในสกินแคร์อะไรได้บ้าง
- ข้อดีและข้อควรระวัง
- งานวิจัยและการรองรับมาตรฐาน
- แหล่งอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์
- เริ่มต้นสร้างแบรนด์สกินแคร์ด้วยน้ำมันอาร์แกน
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำมันอาร์แกน
ข้อมูลสรุปสำคัญของ น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil)
- ชื่อ INCI: Argania Spinosa Kernel Oil
- แหล่งที่มา: เมล็ดของต้นอาร์แกนในประเทศโมร็อกโก
- วิธีสกัด: Cold Pressed เพื่อคงคุณค่าของสารสำคัญ
- สารสำคัญ: กรดโอเลอิก, กรดไลโนเลอิก, วิตามินอี, โพลีฟีนอล
- คุณสมบัติเด่น: ฟื้นฟูผิวแห้ง, ลดริ้วรอย, ป้องกันผมแห้งเสีย
- เหมาะกับผลิตภัณฑ์: เซรั่ม, ครีม, สครับ
- มาตรฐาน: ECOCERT, COSMOS, USDA Organic

น้ำมันอาร์แกน คืออะไร และมาจากไหน
น้ำมันอาร์แกนมาจากเมล็ดของต้น Argania Spinosa ซึ่งพบมากในโมร็อกโก การสกัดนิยมใช้วิธี Cold Pressed เพื่อรักษาคุณค่าทางโภชนาการและความบริสุทธิ์สูง จึงทำให้ Argan Oil กลายเป็นส่วนผสมหลักในสูตรสกินแคร์ระดับพรีเมียม เช่น ครีมบำรุงผิว เซรั่มบำรุงผม และลิปบาล์ม
ส่วนประกอบสำคัญและกลไกการทำงาน
Argan Oil อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามินอี ช่วยสร้างชั้นปกป้องผิว ลดการสูญเสียน้ำ พร้อมทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวหน้าจากความเสื่อมสภาพ ลดริ้วรอย และความแห้งกร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil)
น้ำมันอาร์แกน เป็นหนึ่งในสารสกัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการสกินแคร์และแฮร์แคร์ เพราะอุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นและวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวและเส้นผมอย่างล้ำลึก การใช้ Argan Oil ในสกินแคร์สำหรับผิวแห้ง จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำ พร้อมฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้นุ่มนวล อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยและชะลอความเสื่อมของผิว เหมาะสำหรับการดูแลทั้งผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม โดยถูกนำไปใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น เซรั่ม ครีม โลชั่น แชมพู และลิปบาล์ม

1. ฟื้นฟูผิวแห้งให้ชุ่มชื้น
กรดโอเลอิกและกรดไลโนเลอิกใน Argan Oil ช่วยเสริมการกักเก็บน้ำในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งลอก เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรืออยู่ในสภาพอากาศหนาว

2. บำรุงเส้นผมให้เงางาม
วิตามินอีในน้ำมันอาร์แกนช่วยลดการแตกปลายและเพิ่มความเงางาม เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์แฮร์เซรั่มและครีมนวดผมที่ต้องการซ่อมแซมผมเสียจากความร้อนและสารเคมี

3. ลดสิวและการอักเสบ
Argan Oil มีคุณสมบัติต้านการอักเสบตามธรรมชาติ จึงช่วยลดรอยแดงและสิวอุดตัน โดยไม่ทำให้ผิวมันเกินไป เพราะซึมซาบได้ดี
4. ป้องกันรอยแตกลายในคุณแม่ตั้งครรภ์
ด้วยกรดไขมันที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว น้ำมันอาร์แกนถูกใช้ในครีมทาท้องเพื่อลดโอกาสเกิดรอยแตกลายอย่างมีประสิทธิภาพ
5. บำรุงมือและเล็บให้แข็งแรง
น้ำมันอาร์แกนซึมซาบเข้าสู่เล็บและผิวรอบเล็บ ทำให้เล็บแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย เหมาะสำหรับการใช้ในครีมบำรุงมือและเนลออยล์

6. ปากนุ่มด้วยลิปบาล์มธรรมชาติ
Argan Oil เป็นส่วนผสมสำคัญในลิปบาล์มที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่มตลอดวัน
กรณีศึกษาและการใช้งานจริงของน้ำมันอาร์แกน
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสูตรครีมที่มี Argan Oil 2% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวได้ถึง 45% ภายใน 2 สัปดาห์ และลดความหยาบกร้านของผิวได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มใหม่คือการใช้ Argan Oil ในแชมพูสูตรไร้ซัลเฟตและลิปบาล์มออร์แกนิก

ดีต่อเส้นผมและส่วนอื่นของร่างกาย
น้ำมันอาร์แกน ไม่เพียงแค่บำรุงผิวหน้าและผิวกายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อย่างมากต่อเส้นผม หนังศีรษะ และเล็บ กรดไขมันจำเป็นใน Argan Oil ช่วยเสริมเกราะป้องกันเส้นผม ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม และลดปัญหาผมแตกปลาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดอาการแห้งลอกและรังแค ส่วนวิตามินอีใน Argan Oil มีคุณสมบัติเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเล็บ ป้องกันการแตกหัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลความงามแบบองค์รวมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ใช้ในสกินแคร์อะไรได้บ้าง

ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน น้ำมันอาร์แกนจึงถูกนำไปใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์สกินแคร์และแฮร์แคร์ โดยเฉพาะในสูตรที่ต้องการฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้ได้แก่:
- เซรั่ม – ช่วยซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ให้ความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย
- ครีม – เหมาะสำหรับครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย เพิ่มความนุ่มนวล
- สครับ – ใช้ร่วมกับเม็ดสครับเพื่อผลัดเซลล์ผิวพร้อมเติมความชุ่มชื้น
- แชมพู – ช่วยฟื้นฟูเส้นผมแห้งเสีย เพิ่มความเงางามและลดผมแตกปลาย
- สบู่ – เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งหลังอาบน้ำ
- ลิปบาล์ม – ปกป้องริมฝีปากจากการแตกแห้ง ให้สัมผัสนุ่มนวลยาวนาน
- โลชั่นบำรุงผิว – เติมความชุ่มชื้นและเสริมความยืดหยุ่นของผิวกาย
การนำ Argan Oil มาใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดและสร้างจุดขายให้กับแบรนด์สกินแคร์ของคุณ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสูตรออร์แกนิกหรือผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่ต้องการความแตกต่างและปลอดภัยต่อผิว
ข้อดีและข้อควรระวัง
ข้อดี:
- ปลอดภัยต่อผิวและเส้นผม
- ซึมซาบง่าย ไม่เหนียวเหนอะ
- อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ข้อควรระวัง:
- ควรใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (1–5%)
- ทดสอบการแพ้ก่อนใช้บนผิวบอบบาง
งานวิจัยและการรองรับมาตรฐาน
ข้อมูลจาก PubMed ระบุว่าน้ำมันอาร์แกนมีผลช่วยปรับสมดุลน้ำมันในผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังผ่านการรับรองจาก ECOCERT และ COSMOS สำหรับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
แหล่งอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์
- Research on Argan Oil – PubMed
- Argania Spinosa Kernel Oil – SpecialChem
- ECOCERT Certification Standards

เริ่มต้นสร้างแบรนด์สกินแคร์ด้วยน้ำมันอาร์แกน
หากคุณต้องการพัฒนาสูตร OEM หรือทำแบรนด์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมจากน้ำมันอาร์แกน สามารถเลือกบริการ ดูรายละเอียดบริการผลิตสกินแคร์ จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้มาตรฐานและคุณภาพสูงสุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำมันอาร์แกน
น้ำมันอาร์แกนคืออะไร?
น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) สกัดจากเมล็ดของต้นอาร์แกนในประเทศโมร็อกโก อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้าและวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวหน้าและเส้นผม เพิ่มความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำในผิว
น้ำมันอาร์แกนมีประโยชน์อย่างไร?
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดริ้วรอย ป้องกันผิวแห้ง บำรุงเส้นผม ลดการชี้ฟูและแตกปลาย รวมถึงใช้ในลิปบาล์มและครีมทามือเพื่อป้องกันความแห้งกร้าน
น้ำมันอาร์แกนเหมาะกับผิวแพ้ง่ายหรือไม่?
เหมาะ เนื่องจากน้ำมันอาร์แกนไม่อุดตันรูขุมขน (Non-Comedogenic) และมีความอ่อนโยนสูง แต่ควรทำการทดสอบการแพ้ก่อนใช้
น้ำมันอาร์แกนใช้ในสกินแคร์อะไรได้บ้าง?
สามารถใช้ในสูตรเซรั่มบำรุงผิว, ครีมให้ความชุ่มชื้น, สครับผิว, แชมพูและครีมนวดผม รวมถึงลิปบาล์มและบอดี้ออยล์
ควรใช้น้ำมันอาร์แกนกี่เปอร์เซ็นต์ในสูตร?
แนะนำอัตราส่วน 1–10% ขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ เช่น เซรั่ม 2–5%, ครีม 3–8%, แชมพูหรือสครับ 1–5%
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



