คุณมีแปรงแต่งหน้าเต็มโต๊ะ แต่ยังไม่แน่ใจว่าอันไหนใช้กับอะไร? หรือคุณเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แล้วกำลังสงสัยว่าควรมีแปรงแบบไหนไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งบ้าง? บทความนี้จะช่วยคุณเลือกแปรงแต่งหน้าที่จำเป็นจริงสำหรับมือใหม่ พร้อมแนะนำวิธีดูความต่างของขนแปรงแต่ละแบบ เทคนิคการดูแลให้แปรงสะอาด ปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดสิวหรืออุดตัน
นอกจากนี้ หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเพื่อพัฒนาแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง โดยเฉพาะสินค้าประเภทแปรงแต่งหน้า บลัชออน หรือเมกอัพฝุ่นต่าง ๆ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตบลัชออน ที่พร้อมช่วยพัฒนาสูตรและผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผู้ใช้จริง ตั้งแต่เรื่องสัมผัสขนแปรง ไปจนถึงเนื้อสัมผัสที่เกาะผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- เลือกแปรงแต่งหน้าผิด ชุดเมกอัพก็ไม่รอด
- แปรงแต่งหน้าหลักที่มือใหม่ควรมี
- เลือกแปรงแบบไหนดี? ขนธรรมชาติ หรือ ขนสังเคราะห์
- เลือกแปรงให้เหมาะกับเนื้อผลิตภัณฑ์
- แปรงสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ต้องเลือกแบบไหน?
- มือใหม่ และ มือโปร เลือกแปรงต่างกันอย่างไร?
- 5 ข้อผิดพลาดในการใช้แปรงแต่งหน้าที่ควรหลีกเลี่ยง
- วิธีล้างแปรงแต่งหน้าให้สะอาดและปลอดภัย
- ตัวอย่างแปรงแต่งหน้าที่น่าสนใจในปี 2025
- สรุป : เริ่มต้นให้ถูกตั้งแต่แปรงชิ้นแรก
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแปรงแต่งหน้า
เลือกแปรงแต่งหน้าผิด ชุดเมกอัพก็ไม่รอด
เคยไหม? แต่งหน้าตามคลิปเป๊ะ ใช้รองพื้นตัวเดียวกัน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เนียน ไม่ติดผิว และดูเป็นคราบ นั่นอาจไม่ใช่เพราะเครื่องสำอางไม่ดี but แปรงคุณเลือกผิดประเภท! แปรงที่ดีจะช่วยให้เมกอัพติดผิว เบลนด์ง่าย คุมปริมาณได้พอดี และลดการใช้งานผิดวิธีที่ทำให้เปลืองเมกอัพโดยไม่จำเป็น ก่อนจะไปไกลถึงการแต่งหน้าระดับโปร เรามาเริ่มต้นด้วยพื้นฐานที่ถูกต้องกันก่อน กับแปรงแต่งหน้าหลักที่มือใหม่ทุกคนควรมี ทั้งใช้ได้จริงและใช้ง่าย
แปรงแต่งหน้าหลักที่มือใหม่ควรมี
สำหรับมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นแต่งหน้า หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ “ต้องมีแปรงอะไรบ้างถึงจะพอ?” ความจริงคือคุณไม่จำเป็นต้องมีแปรงเป็นสิบแปรง แค่เลือกให้ถูกและเหมาะกับสไตล์การแต่งหน้าของคุณ ก็สามารถสร้างลุคสวยได้ตั้งแต่ลุคเบา ๆ ไปจนถึงแน่นแบบมือโปร
1. แปรงรองพื้น – หัวตัดหรือหัวกลมที่แน่นกำลังดี ช่วยเกลี่ยรองพื้นลิควิดให้เรียบเนียน ไม่เป็นคราบ แปรงหัวตัดเหมาะกับการแตะ–กดเพื่อให้ได้ลุคปกปิด ส่วนหัวกลมเหมาะกับคนที่ชอบฟินิชแบบธรรมชาติ ละมุนผิว เหมาะกับทุกคนที่อยากแต่งหน้าให้เนียนโดยไม่เปลืองรองพื้น
2. แปรงคอนซีลเลอร์ – ขนาดเล็ก ปลายเรียว ใช้เกลี่ยคอนซีลเลอร์บริเวณใต้ตา หรือปิดรอยสิวได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ดึงผิว หากคุณกังวลเรื่องรอยคล้ำหรือจุดด่างดำ แปรงนี้คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
3. แปรงปัดแป้ง – หัวฟูใหญ่ เน้นความเบาและกระจายตัวดี ช่วยเซ็ตผิวโดยไม่ทำให้เมกอัพดูหนาเกินไป เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน หรืออยากให้เมกอัพติดทนทั้งวัน โดยไม่ต้องเติมบ่อย
4. แปรงปัดแก้ม – หัวเฉียง ขนาดกลาง ใช้ปัดบลัชออนตามแนวโหนกแก้มได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้หน้าดูมีมิติ สดใส ไม่ปัดเลยจุดหรือดูเป็นปื้น เหมาะกับคนที่ต้องการลุคสดใส ดูสุขภาพดี
5. แปรงอายแชโดว์ – อย่างน้อยควรมี 3 แบบ: หัวแบน (ลงสีเปลือกตา), หัวกลม (เบลนด์ให้ฟุ้ง), และหัวตัด (เน้นขอบตา/รอยพับ) มือใหม่ที่อยากแต่งตาแบบง่าย ๆ แต่ดูดี แค่มี 3 แบบนี้ก็พอแล้ว
หากคุณเลือกแปรงแต่งหน้าได้ตรงกับการใช้งาน จะช่วยให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ไม่เปลืองเวลา ไม่เปลืองเมกอัพ และสำคัญที่สุดคือ… “ผิวของคุณจะไม่ถูกทำร้าย” ด้วยแรงเสียดสีหรือขนแปรงสกปรกสะสมเชื้อโรค
Tip เพิ่มเติม: หลังใช้งานควรล้างแปรงเป็นประจำ เพื่อป้องกันสิวจากแบคทีเรียสะสม โดยเฉพาะถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้ สบู่สูตรอ่อนโยน ที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกได้โดยไม่ทำร้ายขนแปรงหรือผิวหน้าของคุณ
เลือกแปรงแบบไหนดี? ขนธรรมชาติ หรือ ขนสังเคราะห์
หนึ่งในคำถามที่คนแต่งหน้า (ทั้งมือใหม่และมือโปร) มักสงสัยคือ “ควรเลือกแปรงขนธรรมชาติหรือขนสังเคราะห์?” คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพผิวของแต่ละคน เพราะแม้ทั้งสองแบบจะดูคล้ายกัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
แปรงขนธรรมชาติ มักผลิตจากขนสัตว์ เช่น ขนแพะ ขนกระรอก มีคุณสมบัติดูดซับเมกอัพได้ดีโดยเฉพาะพวกฝุ่น เช่น แป้ง บลัชออน หรืออายแชโดว์ฝุ่น ให้ฟินิชเนียนฟุ้งและเบลนด์สีได้อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือความนุ่มและความยืดหยุ่น แต่ข้อเสียคือดูแลยาก เสี่ยงต่อการสะสมแบคทีเรีย และไม่เหมาะกับคนที่แพ้ขนสัตว์ หรือไม่ต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์
แปรงขนสังเคราะห์ ทำจากเส้นใยไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ ขนจะเรียงตัวสม่ำเสมอ ไม่ดูดซับผลิตภัณฑ์มาก จึงเหมาะกับเมกอัพเนื้อครีม เช่น รองพื้น คอนซีลเลอร์ หรือครีมบลัช ทำความสะอาดง่าย ไม่อมสี ไม่ดูดซับเชื้อโรค และแห้งเร็ว เหมาะกับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย หรือคนที่ต้องการล้างแปรงบ่อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องขนเสียทรง
เหมาะกับใคร?
ถ้าคุณเน้นฟินิชแบบฟุ้งละมุนจากเมกอัพฝุ่น และดูแลแปรงได้ดี → ขนธรรมชาติน่าจะตอบโจทย์
แต่ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีม, มีผิวแพ้ง่าย หรืออยากดูแลแปรงได้ง่าย → ขนสังเคราะห์คือตัวเลือกที่ใช่
ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน การล้างแปรงเป็นประจำคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการใช้ สบู่สูตรอ่อนโยน ที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด โดยไม่ทำให้ขนแปรงเสียหรือระคายผิวหน้า
เลือกแปรงให้เหมาะกับเนื้อผลิตภัณฑ์
แปรงแต่งหน้าไม่ได้มีดีแค่ทรงหรือความสวย แต่ยังต้อง “เข้ากับเนื้อเมกอัพ” ที่คุณใช้ในชีวิตจริงด้วย เพราะหากเลือกผิดประเภท อาจทำให้เมกอัพไม่ติดผิว ดูหนาเป็นคราบ หรือเปลืองผลิตภัณฑ์โดยใช่เหตุ โดยทั่วไปเราสามารถแบ่งเนื้อผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ได้เป็น 2 ประเภทคือ แบบฝุ่น และแบบครีมหรือเหลว ซึ่งต้องใช้แปรงต่างกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เมกอัพแบบฝุ่น เช่น แป้งฝุ่น บลัชออนฝุ่น หรืออายแชโดว์ฝุ่น ควรใช้แปรงที่ “ขนฟู เบา และกระจายตัวดี” เพื่อให้หยิบเมกอัพได้ในปริมาณพอดี และสามารถเกลี่ยให้ฟุ้งนุ่มแบบเป็นธรรมชาติ แปรงที่ขนแน่นเกินไปอาจทำให้สีเข้มเกินหรือติดเป็นปื้น ซึ่งไม่เหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ชอบลุคใส ๆ
เมกอัพแบบครีม / ลิควิด เช่น รองพื้น คอนซีลเลอร์ หรือครีมบลัช ควรใช้แปรง “หัวแน่น ขนสังเคราะห์” เพื่อให้เกลี่ยได้เรียบเนียน ไม่ดูดซึมผลิตภัณฑ์มากเกินไป แปรงประเภทนี้ช่วยให้สามารถควบคุมปริมาณ และกดเนื้อครีมให้แนบสนิทกับผิวได้ง่าย เหมาะกับลุคผิวฉ่ำ เนียนเด้ง และเมกอัพติดทนยิ่งขึ้น
หากคุณใช้ทั้งเมกอัพเนื้อฝุ่นและครีมร่วมกันในชีวิตประจำวัน การมีแปรงที่หลากหลาย และเลือกใช้ให้ถูกจังหวะ คือหัวใจของการแต่งหน้าที่ดูมืออาชีพ และประหยัดเมกอัพไปในตัวด้วย
แปรงสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ต้องเลือกแบบไหน?
สำหรับคนที่มีผิวระคายเคืองง่าย แม้แต่การใช้แปรงที่ขนแข็งเกินไป หรือแปรงที่ล้างไม่สะอาด ก็อาจทำให้เกิดผื่น สิวผด หรือผิวอักเสบได้โดยไม่รู้ตัว เพราะ “ผิวแพ้ง่าย” ต้องการมากกว่าแค่เครื่องสำอางที่อ่อนโยน—แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่ทำร้ายผิวในระยะยาวด้วย แปรงสำหรับผิวแพ้ง่ายควรเลือกแบบที่ขนนุ่ม ปลายมน ไม่มีเสี้ยน และควรใช้ขนสังเคราะห์คุณภาพดี เนื่องจากแห้งเร็ว ไม่อมแบคทีเรีย และลดการเสียดสีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีแบรนด์เครื่องสำอาง หรือกำลังพัฒนาสินค้าแต่งหน้าประเภทเมกอัพฝุ่น เช่น บลัชออน การเลือก โรงงานรับผลิตบลัชออน ที่เข้าใจโครงสร้างผิวแพ้ง่าย ก็เป็นหัวใจสำคัญ เพราะสูตรที่ดีจะต้อง “เกาะแปรงได้ดีแต่ไม่จับตัวแข็ง” เบลนด์ง่าย ไม่หล่นเป็นฝุ่น และไม่ทิ้งคราบบนแปรง ช่วยลดปัญหาผิวจากเมกอัพที่ไม่เข้ากันกับอุปกรณ์ เพราะต่อให้คุณเลือกแปรงดีแค่ไหน แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันไม่เหมาะ การระคายเคืองก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
มือใหม่ และ มือโปร เลือกแปรงต่างกันอย่างไร?
มือใหม่ | มือโปร |
---|---|
เน้นแปรงเอนกประสงค์ 1 ชิ้นใช้ได้หลายแบบ เช่น แปรงรองพื้นที่ใช้เกลี่ยคอนซีลเลอร์ได้ด้วย | เลือกแปรงเฉพาะทางตามเทคนิค เช่น แปรงเบลนด์หัวเล็กเฉพาะหางตา, แปรงไฮไลต์จุด T-zone |
ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ซื้อเป็นเซตที่รวมฟังก์ชันพื้นฐาน | ลงทุนกับแปรงคุณภาพสูง ขนพรีเมียม เพื่อควบคุมฟินิชและความแม่นยำในการแต่งหน้า |
แต่งลุคเบา ๆ ทุกวัน เช่น ปัดแป้ง ปัดแก้ม ลงอายแชโดว์เบา ๆ | ปรับลุคได้หลากหลาย ตั้งแต่ลุคใสธรรมชาติไปจนถึงคัตครีส หรือลุค Editorial |
ยังไม่ชินกับการล้างแปรง จึงเน้นแปรงที่ล้างง่ายและแห้งเร็ว | มีรูทีนดูแลแปรงชัดเจน เช่น ล้างด้วย สบู่อ่อนโยน และตากด้วยแปรงสแตนด์ |
เลือกจากรีวิว บล็อกเกอร์ หรือความสวยของแปรง | เลือกจาก “ฟีลในการแต่ง” และคุณสมบัติทางเทคนิค เช่น ความเด้งตัวของขน |
5 ข้อผิดพลาดในการใช้แปรงแต่งหน้าที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ใช้แปรงผิดประเภท – เช่น ใช้แปรงปัดแก้มมาลงรองพื้น หรือใช้แปรงอายแชโดว์ลงคอนซีลเลอร์ การใช้แปรงผิดหน้าที่ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยไม่เรียบ เกิดคราบ และเปลืองเมกอัพโดยไม่จำเป็น
2. ไม่ล้างแปรงเป็นเวลานาน – แปรงที่ใช้บ่อยแต่ไม่เคยล้างจะสะสมเชื้อโรค ฝุ่น และน้ำมันจากผิว ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอุดตันโดยตรง โดยเฉพาะแปรงที่ใช้กับรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ที่มีความชื้นสูง
3. ล้างแปรงด้วยผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป – การใช้แอลกอฮอล์ น้ำยาซักผ้า หรือสบู่ที่มีซัลเฟต อาจทำให้ขนแปรงแข็ง เสียทรง และระคายเคืองผิว ควรใช้ สบู่สูตรอ่อนโยน ที่ออกแบบมาเพื่อล้างแปรงโดยเฉพาะ
4. ใช้แปรงที่ขนแข็งหรือบาดผิว – แปรงที่ไม่ได้คุณภาพ มักมีขนแข็งหรือปลายแหลม ทำให้บาดผิวโดยไม่รู้ตัว ยิ่งใช้ซ้ำ ยิ่งทำให้เกิดการอักเสบ หรือทำร้ายผิวในระยะยาว
5. ตากแปรงผิดวิธี – หลังล้างแปรง ไม่ควรวางตั้งขึ้น เพราะน้ำจะไหลย้อนเข้าด้าม ทำให้กาวที่ยึดขนแปรงเสื่อมเร็ว แนะนำให้ตากในแนวนอน หรือคว่ำปลายขนลงในที่ที่มีอากาศถ่ายเท
วิธีล้างแปรงแต่งหน้าให้สะอาดและปลอดภัย
ล้างแปรงแต่งหน้าไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่คือสิ่งสำคัญที่ช่วยยืดอายุแปรง รักษาสุขภาพผิว และป้องกันสิวที่เกิดจากแบคทีเรียสะสมโดยไม่รู้ตัว หากคุณเคยล้างแปรงแล้วขนกระด้างหรือหลุดรุ่ย อาจเป็นเพราะล้างผิดวิธีหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่แรงเกินไป ลองทำตามขั้นตอนนี้แล้วคุณจะรู้ว่า “ล้างแปรงแบบมือโปร” ทำได้ง่ายกว่าที่คิด
- ชุบน้ำอุ่นเฉพาะขนแปรง
จุ่มเฉพาะบริเวณขนแปรงเท่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำสัมผัสด้ามหรือโคนกาว เพราะอาจทำให้แปรงหลุดลุ่ยเมื่อใช้ไปนาน ๆ - ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
บีบ สบู่สูตรอ่อนโยน ลงฝ่ามือหรือจานล้างแปรง แล้ววนขนแปรงเบา ๆ จนเมกอัพละลายเป็นฟอง ไม่ควรถูแรงหรือบิดขนแปรง - ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใช้น้ำอุ่นล้างฟองออกจนกว่าน้ำที่ไหลจะใส ไม่มีคราบสีหลงเหลืออยู่ - บีบน้ำส่วนเกินออกเบา ๆ
ใช้นิ้วกดเบา ๆ เพื่อเอาน้ำออก พร้อมจัดรูปทรงขนแปรงให้เข้าที่ - ตากให้แห้งในแนวนอนหรือคว่ำลง
วางแปรงบนผ้าขนหนูโดยให้ปลายขนชี้ลง เพื่อป้องกันน้ำไหลย้อนเข้าด้าม และวางในที่อากาศถ่ายเท แสงแดดอ่อน ๆ ได้ยิ่งดี
การล้างแปรงเป็นประจำไม่เพียงช่วยให้เมกอัพติดทนและเกลี่ยง่ายขึ้น แต่ยังป้องกันผิวจากสิวผด สิวอุดตัน และอาการแพ้ต่าง ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ยิ่งควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างแปรงที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือสารเคมีรุนแรง เช่น สบู่สูตรอ่อนโยน ที่ทั้งถนอมขนแปรงและปลอดภัยกับผิว
ตัวอย่างแปรงแต่งหน้าที่น่าสนใจในปี 2025
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกแปรงแบรนด์ไหนดี เราขอแนะนำ 3 รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงในปี 2025 ที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และคนที่อยากอัปเกรดแปรงแต่งหน้าของตัวเอง โดยเน้นความคุ้มค่า คุณภาพดี และใช้งานได้จริง
1. Real Techniques Everyday Essentials
เซตแปรงยอดฮิตที่ตอบโจทย์การแต่งหน้าครบทุกขั้นตอนในราคาจับต้องได้ ประกอบด้วยแปรงลงรองพื้น บลัช คอนซีลเลอร์ แป้ง และสปองจ์ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้า หรืออยากได้แปรงคุณภาพดีที่ใช้ได้นานโดยไม่เปลืองงบ รุ่นนี้คือคำตอบ
2. Zoeva 142 Concealer Buffer
แปรงลงคอนซีลเลอร์ขนาดพอดี ปลายหัวแน่น แต่นุ่ม เบลนด์รอยคล้ำใต้ตาและรอยสิวได้เรียบเนียนโดยไม่เป็นคราบ เหมาะกับผู้ที่ต้องการงานผิวเนียนละเอียด โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้าทุกวัน หรือมีปัญหาใต้ตาคล้ำ
3. Jill Stuart Loose Powder Brush
แปรงแป้งหัวฟูขนนุ่มพิเศษ จากแบรนด์สายหวานที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ ขนแปรงให้สัมผัสเบา ไม่ระคายเคืองผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือคนที่ชอบการปัดแป้งแบบเบาบางเป็นธรรมชาติ
แปรงทั้งหมดนี้สามารถใช้งานร่วมกับเมกอัพได้หลายประเภท และดูแลรักษาได้ง่าย เพียงล้างด้วย สบู่สูตรอ่อนโยน เป็นประจำ คุณก็สามารถใช้งานได้นานและมั่นใจได้ในทุกครั้งที่แต่งหน้า
สรุป : เริ่มต้นให้ถูกตั้งแต่แปรงชิ้นแรก
การแต่งหน้าจะง่ายขึ้นและสวยขึ้นทันที หากคุณเริ่มต้นจากการเลือกแปรงที่เหมาะกับผิวและสไตล์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีแปรงครบทุกประเภท แต่ควรมีแปรงที่ “ใช้ได้จริง ใช้แล้วดี” กับเมกอัพที่คุณใช้ประจำ และที่สำคัญคืออย่าลืมดูแลความสะอาดของแปรงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ หรือผู้สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง การเข้าใจทั้งด้านการเลือกแปรง และความเข้ากันได้กับสูตรเมกอัพ คือกุญแจสำคัญสู่การแต่งหน้าที่ง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้น หากคุณสนใจพัฒนาสินค้าของตัวเอง อย่าลืมเลือก โรงงานรับผลิตเครื่องสำอางที่ใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่สูตรไปจนถึงประสบการณ์ใช้งานจริง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแปรงแต่งหน้า
มือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยแปรงกี่ชิ้น?
แนะนำให้เริ่มต้นด้วย 4–5 ชิ้นหลัก ได้แก่ แปรงรองพื้น แปรงคอนซีลเลอร์ แปรงแป้ง แปรงปัดแก้ม และแปรงอายแชโดว์ เพราะครอบคลุมการแต่งหน้าทั่วใบหน้าโดยไม่ต้องมีเยอะ
แปรงแต่งหน้าขนธรรมชาติกับขนสังเคราะห์ ต่างกันอย่างไร?
ขนธรรมชาตินุ่ม เบลนด์สีได้ดี เหมาะกับเมกอัพแบบฝุ่น แต่ดูแลยาก ส่วนขนสังเคราะห์แห้งไว ไม่สะสมเชื้อโรค เหมาะกับเนื้อครีม และเหมาะกับผิวแพ้ง่าย
ล้างแปรงบ่อยแค่ไหนถึงจะปลอดภัยกับผิว?
ควรล้างแปรงที่ใช้กับเมกอัพครีมหรือของเหลวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และแปรงแห้ง เช่น แป้งหรือบลัช ควรล้างทุก 1–2 สัปดาห์ เพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
ใช้สบู่ล้างหน้าแทนสบู่ล้างแปรงได้ไหม?
สามารถใช้ได้หากเป็นสบู่สูตรอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์หรือสารซัลเฟต เพื่อไม่ให้ขนแปรงเสียทรง และไม่ทิ้งสารตกค้างที่ระคายเคืองผิว เช่น สบู่สูตรอ่อนโยน
แปรงแต่งหน้ามีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับคุณภาพและการดูแล แปรงดี ๆ สามารถใช้งานได้นาน 1–2 ปีหรือมากกว่านั้น หากล้างอย่างถูกวิธีและเก็บในที่แห้ง ไม่โดนแดดหรือความชื้น