สำหรับคนรุ่น Gen Z น้ำหอมไม่ได้เป็นเพียงของใช้ประจำวัน แต่คือ “ภาษาของตัวตน” ที่ใช้บอกเล่าความรู้สึก การใช้ชีวิต และฟิลลิ่งเฉพาะในแต่ละวัน เทรนด์น้ำหอมของกลุ่มวัยนี้ไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์หรูหราแบบเดิม แต่ขับเคลื่อนด้วยความหลากหลายทางอารมณ์ กลิ่นที่เรียล ใช้ได้ทุกวัน และสื่อถึงคาแรกเตอร์แบบไม่ต้องพยายาม ซึ่งทำให้หลายแบรนด์เริ่มมองเห็นความเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมจากตลาดนี้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหากลิ่นที่ “เหมือนตัวเอง” การทดลองเลเยอร์หลายโทนเพื่อสร้างเอกลักษณ์ หรือการเลือกสูตรจากแหล่งผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและโปร่งใสสไตล์ยุคใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังวางแผน สร้างแบรนด์น้ำหอม ต่างต้องการเข้าใจ insight ของคนรุ่นนี้ให้ลึกที่สุด เพราะพฤติกรรมการเลือกกลิ่นของ Gen Z ส่งผลต่อการออกแบบผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ราคา และคอนเซปต์การสื่อสารในตลาดออนไลน์ทั้งหมด
พฤติกรรมสำคัญของ Gen Z เมื่อต้องเลือกกลิ่นน้ำหอม

จากข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาในกลุ่มอายุ 18–26 ปี พบว่าการให้คุณค่ากับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์สูงขึ้นกว่าคนรุ่นก่อน มีกระแสกลิ่นที่ขายดีอย่างโทนสะอาด โทนผลไม้ หรือสไตล์ “second skin” ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นผิวธรรมชาติ อีกทั้งแรงกระเพื่อมของโซเชียล โดยเฉพาะ TikTok ยังผลักดันให้เทรนด์กลิ่นใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งส่งเสริมให้ Gen Z ค้นหาน้ำหอมที่บอกเล่าไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้แบบไม่ต้องจำกัดเพศหรือกฎเกณฑ์เดิม ทำให้กลุ่มนี้กลายเป็นกำลังซื้อสำคัญที่แบรนด์ไม่อาจมองข้าม ทั้งในแง่การออกแบบผลิตภัณฑ์และการวางตัวในตลาดน้ำหอมสมัยใหม่
ให้ความสำคัญกับ “ความเป็นตัวเอง” มากกว่าความหรูหรา
กลุ่ม Gen Z ไม่ได้เลือกน้ำหอมเพียงเพราะชื่อแบรนด์ แต่เลือกจากความรู้สึกที่กลิ่นสะท้อนตัวตนของพวกเขา การมองหากลิ่นที่เข้ากับจังหวะชีวิตประจำวัน เช่น กลิ่นสะอาดที่ให้ความมั่นใจ หรือกลิ่นแนวขนมที่สื่อถึงด้านที่อ่อนโยน กลายเป็นปัจจัยสำคัญกว่าการตามกระแสของแบรนด์หรูระดับโลก
ชอบทดลองกลิ่นใหม่ และเปิดรับความแปลกใหม่สูง
การทดลองเลเยอร์หลายกลิ่นหรือเลือกโทนที่ไม่เหมือนใคร เช่น กลิ่น warm vanilla ผสานกับ milk accord หรือแนวกลิ่นผลไม้แบบสดใส เป็นสิ่งที่สะท้อนพฤติกรรมรักการค้นหาของวัยรุ่นยุคนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเทรนด์จาก TikTok ที่มักผลักดันให้กลิ่นแนวใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
- กลิ่นหวานแบบ “soft gourmand”
- กลิ่นสะอาดแนว skin scent
- กลิ่นหอมสดชื่นอย่าง fruity fresh
- กลิ่นหอมอุ่นแนว vanilla milky
เลือกน้ำหอมจากภาพลักษณ์ความโปร่งใสของแบรนด์
Gen Z ใส่ใจที่มาของวัตถุดิบ การผลิต และความปลอดภัยของสูตรมากขึ้น ทำให้หลายคนเลือกแบรนด์ที่อธิบายส่วนผสมอย่างตรงไปตรงมา มีข้อมูลด้านกฎหมายหรือมาตรฐานรองรับ เช่น IFRA หรือการทดสอบ allergen รวมถึงแบรนด์ที่ชัดเจนเรื่องจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
กลิ่นที่ Gen Z นิยมและมองว่า “สะท้อนบุคลิก” ได้ดีที่สุด

กลิ่นสะอาดสดชื่น (Clean & Fresh)
กลิ่นแนวสะอาดยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นในกลุ่มวัยรุ่น เนื่องจากให้ความรู้สึกมั่นใจ ใช้ง่าย และไม่ก้าวร้าวเกินไป โทนที่มาแรง ได้แก่ cotton clean, aquatic fresh และ skin-like scent ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ความนิยมกลิ่นสะอาดในไทยที่เติบโตต่อเนื่องตลอดปี
กลิ่นหวานแบบไม่เลี่ยน (Soft Gourmand)
แนว gourmand ที่ผสานกลิ่น vanillic, caramel อ่อน ๆ หรือ milk accord กลายเป็นภาษาของความอบอุ่นและความเป็นกันเองที่ Gen Z ชื่นชอบ แบรนด์ที่ออกแบบกลิ่นแนวนี้มักได้รับการพูดถึงสูงในโซเชียล โดยเฉพาะช่วงปลายปีที่ตลาดน้ำหอมโตขึ้นจากเทรนด์ฤดูหนาว
กลิ่นผลไม้สดใส (Fruity Sparkling)
โทนผลไม้สไตล์แอปเปิล เบอร์รี พีช หรือมะนาว ทำงานได้ดีมากในสภาพอากาศร้อนของไทย และเหมาะกับบุคลิกสนุก สดใสแบบวัยรุ่น เทรนด์ fruity accord ในปี 2025 ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มกลิ่นที่แบรนด์ใหม่ควรพิจารณา
กลิ่น unisex และ gender-free
น้ำหอม unisex หนึ่งในคุณลักษณะที่เด่นสำหรับ Gen Z คือการไม่จำกัดเพศในการเลือกน้ำหอม พวกเขาเลือกจากฟีลลิ่งมากกว่าป้ายกำกับ ทำให้กลิ่นแนว musk, woody soft, หรือ floral musk กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของทั้งชายและหญิง
พฤติกรรมความต้องการ ที่แบรนด์ควรรู้ เพื่อออกแบบน้ำหอมให้ตรงใจ Gen Z

โทนกลิ่นต้อง “เข้าถึงง่าย” และเหมาะกับชีวิตประจำวัน
ส่วนใหญ่ต้องการน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการไปคาเฟ่ จึงนิยมกลิ่นที่ไม่ฉุนและไม่เป็นภาระต่อคนรอบข้าง เช่น clean floral หรือ soft woody musk
แพ็กเกจที่เรียบง่าย เล่าเรื่องได้ชัดเจน
Gen Z ชอบดีไซน์ที่ถ่ายรูปสวย วางบนโต๊ะแล้วดูดี และมีสตอรี่อ่านง่าย สิ่งเหล่านี้ทำให้เนื้อหาการสื่อสารของแบรนด์มีผลต่อการตัดสินใจมากขึ้นกว่าคุณสมบัติด้านราคาเพียงอย่างเดียว
รีวิวผู้ใช้จริงมีน้ำหนักสูงกว่าคำโฆษณา
ก่อนซื้อน้ำหอม กลุ่มนี้มักค้นหาความเห็นของผู้ใช้จริงผ่าน TikTok, Twitter และคอมเมนต์ออนไลน์ ความน่าเชื่อถือของรีวิวจึงมีผลอย่างมากต่อยอดขาย โดยเฉพาะในเทรนด์ใหม่อย่างกลิ่น warm vanilla และ soft fruity ที่กำลังเติบโตในเอเชีย
ตัวอย่างการวางคาแรกเตอร์กลิ่นให้สอดคล้องกับสไตล์ Gen Z
| ไลฟ์สไตล์ | คาแรกเตอร์กลิ่นที่เหมาะ | คำอธิบาย |
|---|---|---|
| สายคาเฟ่ / minimal | skin scent, soft musk | ให้ความเรียบง่าย สบาย ไม่ฉุน |
| สายศิลปะ/แฟชั่น | floral fruity, modern gourmand | สื่อความเป็นตัวของตัวเองสูง |
| สายออกกำลังกาย | fresh citrus, marine accord | ให้ความสดชื่น ติดทน เหมาะกับกิจกรรม |
| สายปาร์ตี้ | vanilla amber, spicy floral | ให้ความดึงดูด และพลังงานสนุก |
ข้อควรคำนึงสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเจาะตลาด Gen Z
- เลือกโทนกลิ่นที่ connect กับอารมณ์ เช่น soft sweet, fresh clean
- วาง positioning ให้ชัดเจน เช่น playful, artistic, natural
- สร้าง storytelling ที่ผู้ใช้รู้สึกว่า “เป็นตัวเองขึ้น”
- ใช้ช่องทาง TikTok และ UGC ในการสื่อสาร
- ใส่ใจมาตรฐานความปลอดภัยของวัตถุดิบ
ในส่วนของการผลิต หลายแบรนด์ที่ต้องการคุณภาพขั้นสุดมักเริ่มต้นจากการขอคำแนะนำด้านสูตรกับผู้เชี่ยวชาญ และวางขั้นตอนพัฒนาอย่างเป็นระบบ การเลือกแหล่งผลิตที่มีความเข้าใจตลาดปัจจุบันจึงเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ
สรุป
พฤติกรรม Gen Z ในการเลือกใช้น้ำหอมสะท้อนถึงความต้องการด้านตัวตน อารมณ์ และสไตล์ชีวิตอย่างหลากหลาย ทำให้ตลาดน้ำหอมในกลุ่มวัยนี้เติบโตต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้แบรนด์ใหม่สร้างเอกลักษณ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ชัดเจนกว่าเดิม ผู้ประกอบการที่วางแผนพัฒนากลิ่นสำหรับปี 2025 ควรให้ความสำคัญกับโทนสะอาด กลิ่นหวานละมุน แบบ soft gourmand และโทนผลไม้สดใส ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครองกระแสในโซเชียลอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันการเล่าเรื่องผ่านภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่โปร่งใสและเข้าถึงง่ายยังเป็นกุญแจสำคัญในการคว้าความสนใจของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง
คำถามพบบ่อย
Gen Z นิยมกลิ่นแบบไหนมากที่สุด?
กลิ่นสะอาด กลิ่นน้ำนม และกลิ่นผลไม้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและเข้ากับชีวิตประจำวัน
ทำไม Gen Z ถึงชอบน้ำหอมแนว unisex?
เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับตัวตนมากกว่าความจำกัดด้านเพศ ทำให้กลิ่นแนว musk และ woody soft ได้รับความนิยมสูง
ช่องทางใดส่งผลต่อการเลือกซื้อน้ำหอมของ Gen Z มากที่สุด?
TikTok, Twitter และรีวิวผู้ใช้จริงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจมากกว่าโฆษณารูปแบบเดิม
ควรออกแบบกลิ่นอย่างไรให้ถูกใจวัยรุ่นยุคนี้?
ควรเน้นโทน clean fresh, fruity sweet หรือ gourmand แบบเบา พร้อมสร้างคอนเซปต์ที่เชื่อมโยงกับอารมณ์
แบรนด์ใหม่ควรโฟกัสอะไรหากต้องการเจาะตลาด Gen Z?
ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพส่วนผสม การสื่อสารที่โปร่งใส และการทำคอนเทนต์บน TikTok ที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นและอารมณ์
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



