รวม 10 น้ำหอม Unisex จากแบรนด์ดัง 2025 ยอดนิยมล่าสุด

น้ำหอม Unisex เปิดโอกาสให้คุณเลือกกลิ่นที่บ่งบอกตัวตน แทนที่จะยึดติดกับเพศ กลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในกลุ่ม Gen Z และผู้บริโภควัยทำงานในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่การเลือกกลิ่นสื่อความเป็น “คุณ” มากกว่าการแบ่งเพศ

เราได้รวบรวม 10 กลิ่น Unisex ที่ได้รับความนิยมจริงในปี 2025 (อ้างอิงจากยอดขาย รีวิวจากผู้ใช้งานจริง และการจัดอันดับในสื่อระดับโลก) พร้อมข้อมูลเชิงลึกว่า “ทำไมเหมาะกับใคร, ราคาเท่าไหร่, หาซื้อได้ที่ไหน, ขนาดใดบ้าง” เพื่อช่วยให้คุณเลือกลิ่นที่ใช่และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณ

เบื้องหลังความสำเร็จของน้ำหอมเหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการคิดค้นและการผลิตที่ได้มาตรฐานโดย โรงงานรับผลิตน้ำหอม ที่เชี่ยวชาญในการผสมผสานหัวน้ำหอมจากทั่วโลกอย่างลงตัว โรงงานเหล่านี้ไม่เพียงรับจ้างผลิตตามสูตรที่แบรนด์กำหนด แต่ยังช่วยพัฒนากลิ่นเฉพาะตัวที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ทำให้น้ำหอมที่ออกสู่ตลาดมีคุณภาพทั้งในแง่ความติดทน ความซับซ้อน และความปลอดภัยต่อผิว

1. Le Labo Santal 33

Santal 33 คือกลิ่นโทนไม้หอมอบอุ่นแบบ Unisex ที่กลายเป็นไอคอน – ได้รับความนิยมในกลุ่มแฟชั่นนิวยอร์ก และถูกพูดถึงในไทยอย่างต่อเนื่อง

• ทำไมเหมาะกับใคร: เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นแนว Woody Aromatic – มีความลึกลับและเซ็กซี่
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ $270–$310 (ราว 10,000–12,000 บาท) สำหรับขนาด 50 ml และ 100 ml
• ขนาดที่มี: 50 ml, 100 ml, รวมถึงแบบ sample หรือ roller ball ให้ทดลอง
• หาซื้อได้ที่: ร้านหรูเช่น Nordstrom, Le Labo boutiques, ห้างสรรพสินค้า และออนไลน์

2. Tom Ford Black Orchid

กลิ่นเข้มข้น ลึกลับ และหรูหรา – เหมาะกับคนที่อยากให้กลิ่นเป็นเครื่องมือสร้างเสน่ห์

• ทำไมเหมาะกับใคร: เหมาะกับสายแฟชั่นที่ต้องการลุคคอนทราสต์ กลิ่นกลางคืน สะท้อนความมั่นใจ
• ราคาโดยประมาณ: ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 4,000–5,500 บาท (ขึ้นอยู่กับร้านและขนาด)
• ขนาดที่มี: 30 ml, 50 ml, 100 ml – บางครั้งมีแบบพกพา 10 ml
• หาซื้อได้ที่: ช่องทาง luxury counters เช่น Sephora, boutique ของ Tom Ford, ห้างใหญ่

3. Jo Malone Wood Sage & Sea Salt

กลิ่นสดชื่นจากทะเล ผสม Wood Sage – เหมาะกับอากาศร้อนชื้นในไทย ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นสายทะเล ธรรมชาติ และโทนสะอาด
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ $160 (ราว 6,000 บาท) สำหรับขนาด 100 ml, ราคามีลดบ้างเป็นช่วง
• ขนาดที่มี: 30 ml, 50 ml, 100 ml และขนาดทดลอง 9 ml
• หาซื้อได้ที่: Jo Malone stores, Sephora, department stores, ออนไลน์

4. Byredo Gypsy Water

กลิ่นโปร่งๆ สะอาด ผสมเปลือกไม้ และเครื่องเทศเล็กน้อย – ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในไทย

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นไม่เป็นทางการ สดใส และมีเสน่ห์แบบง่ายๆ
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ 4,500–5,500 บาท (ตามร้านและขนาด)
• ขนาดที่มี: 50 ml, 100 ml

5. Maison Margiela Replica Jazz Club

กลิ่นแนวอบอุ่น เซ็กซี่ มีเครื่องเทศและวานิลลา – บรรยากาศแบบย่านกลางคืน

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบสไตล์ Retro Chic, วันทำงาน หรือออกงานกลางคืน
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ 3,800–4,800 บาท
• ขนาดที่มี: 30 ml, 100 ml

6. Dior Sauvage Elixir

โทนเข้มข้น ผสมความสดชื่น – แม้ชื่อ Sauvage แต่เป็น Unisex ที่มีทั้งความชัดและความนุ่มลึก

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ต้องการกลิ่นสดใสแต่มีมิติล้ำ – ใช้ได้ในเมืองและงานสารพัดโอกาส
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ 5,500–6,500 บาท (ตามทีร้าน)
• ขนาดที่มี: 60 ml, 100 ml

7. CK One by Calvin Klein

หนึ่งใน Unisex แบรนด์แรกยอดคลาสสิก – สดใส สะอาด และเรียบง่าย

• ทำไมเหมาะกับใคร: ผู้เริ่มใช้น้ำหอม อยากได้กลิ่นพื้นฐาน ใช้ได้ทุกเพศ ทุกเพศ
• ราคาโดยประมาณ: 1,800–2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาด)
• ขนาดที่มี: 50 ml, 100 ml

8. Chanel Allure Homme Sport

แม้ชื่อ Homme แต่กลิ่นคลีน Citrus และ Musk ทำให้หลายคนในไทยใช้แบบ Unisex

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นสดชื่นแบบสปอร์ต หวานเบาๆ เหมาะทั้งผู้ชายและผู้หญิง
• ราคาโดยประมาณ: ประมาณ 4,000–5,000 บาท
• ขนาดที่มี: 50 ml, 100 ml

9. Gucci Mémoire d’une Odeur

กลิ่น Aromatic Mineral ที่จดจำได้ยากแต่มีเสน่ห์ – ไม่มีเพศจำกัด ใช้ได้ในทุกวัน

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบความแตกต่าง กลิ่นมีเอกลักษณ์ แต่ไม่ฉูดฉาด
• ราคาโดยประมาณ: 5,500–6,500 บาท
• ขนาดที่มี: 90 ml

10. Hermès Un Jardin Sur Le Nil

โทน Citrus สดชื่น หรูหรา – ได้แรงบันดาลใจจากแม่น้ำไนล์ – เหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อนในไทย

• ทำไมเหมาะกับใคร: คนที่ชอบกลิ่นธรรมชาติ หรูแบบไม่โอ้อวด
• ราคาโดยประมาณ: 5,500–6,500 บาท
• ขนาดที่มี: 50 ml, 100 ml

โอกาสในตลาดไทย และพาร์ทเนอร์เรื่องน้ำหอม

พฤติกรรมผู้บริโภคในไทย-โดยเฉพาะกลุ่มเมืองใหญ่เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น-เริ่มเปิดกว้างสู่แนว Unisex perfume มากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานประจำวันหรืองานพิเศษ ทำให้เกิดการเติบโตทั้งด้านการตลาดและ demand ในการพัฒนาสูตรเฉพาะ

สำหรับแบรนด์หรือดีไซเนอร์ที่ต้องการสร้างกลิ่นเฉพาะตัวแบบคุณภาพสูง มั่นใจได้ว่า โรงงานผลิตน้ำหอม ของ Wise Plus Grow มีความเชี่ยวชาญในงานออกแบบสูตรและการผลิตน้ำหอม Unisex ที่ตรงตามมาตรฐานสากล พร้อมช่วยให้คุณสร้างสรรค์กลิ่นที่โดดเด่นในตลาดได้อย่างมั่นใจ

สุดท้าย: เลือกกลิ่น Unisex ที่ใช่ให้ตรงคุณ

น้ำหอม Unisex ไม่ใช่แค่เรื่องเพศ แต่มันคือเรื่องสไตล์ ตัวตน และการเลือกที่มีอิสระ ทั้ง 10 ตัวเลือกในบทความนี้ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตลาดปี 2025 และช่วยให้คุณค้นหากลิ่นที่เหมาะกับบุคลิก สภาพอากาศ และโอกาสในการใช้งานได้อย่างลงตัว

Wise Plus Grow โรงงานรับผลิตครีม และน้ำหอม Unisex คุณภาพ

นอกจากความเชี่ยวชาญในฐานะ โรงงานรับผลิตครีม ที่ได้มาตรฐาน GMP และ ISO แล้ว Wise Plus Grow ยังมีบริการ รับผลิตน้ำหอม Unisex สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการพัฒนาสูตรกลิ่นที่หลากหลาย ทั้งโทนสดชื่น หรูหรา และอบอุ่น ครอบคลุมทุกสไตล์ที่ผู้บริโภคต้องการ

เราพร้อมให้คำปรึกษาด้านการเลือกกลิ่น การออกแบบสูตร และบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่ตรงกับแนวโน้มตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ เจ้าของแบรนด์สามารถมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการผลิตมีคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมช่วยให้แบรนด์ของคุณก้าวสู่ตลาดน้ำหอม Unisex อย่างมั่นใจ

อ่านต่อเกี่ยวกับน้ำหอม Unisex

• น้ำหอม Unisex สำหรับวัยรุ่น-วัยทำงาน ใช้ได้ทุกวัน
• น้ำหอม Unisex กลิ่นไหนดี? แนะนำกลิ่นยอดฮิต
• น้ำหอม Unisex 3 กลิ่นยอดนิยม: สดชื่น / หรูหรา / อบอุ่น
• น้ำหอม Unisex VS น้ำหอมผู้ชาย/ผู้หญิง ต่างกันตรงไหน?
• น้ำหอม Unisex ราคาหลักพันที่น่าลอง

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับน้ำหอม Unisex

1. น้ำหอม Unisex คืออะไร ต่างจากน้ำหอมผู้ชาย/ผู้หญิงยังไง?

น้ำหอม Unisex คือกลิ่นที่ออกแบบให้ใช้ได้ทุกเพศ โดยโทนกลิ่นบาลานซ์ระหว่างความสดชื่น อบอุ่น และความหวาน ต่างจากน้ำหอมที่ระบุเพศซึ่งมักเน้นโทนกลิ่นชัดฝั่งใดฝั่งหนึ่ง

2. เลือกน้ำหอม Unisex ยังไงให้เหมาะกับบุคลิกและโอกาส?

เริ่มจากบุคลิกและไลฟ์สไตล์ (สดใส สปอร์ต เรียบหรู) จากนั้นพิจารณาโอกาสใช้งาน เช่น กลางวันเหมาะโทน Citrus/Fresh กลางคืนเหมาะโทน Woody/Oriental

3. น้ำหอม Unisex เหมาะกับคนทำงานหรือวัยรุ่นไหม?

เหมาะทั้งสองกลุ่ม วัยรุ่นนิยมโทนสดชื่นสะอาด ส่วนคนทำงานมักเลือกโทนสุภาพหรู ติดทนนาน

4. ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ไหม ควรเลี่ยงอะไร?

ใช้ได้แต่ควรทดสอบแพ้บริเวณท้องแขน 24 ชม. เลี่ยงการฉีดบนผิวที่ระคายเคือง/หลังออกแดดใหม่ ๆ และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่แพ้เป็นการส่วนตัว เลือกความเข้มข้นที่อ่อนโยนกว่า (EDT/Cologne) และฉีดบนเสื้อผ้า

5. งบประมาณเท่าไหร่ดี มีตัวเลือก “คุ้มค่า” ไหม?

งบเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงไฮเอนด์ เลือกตามการใช้งานและความถี่ ถ้าต้องการความคุ้มค่าและติดทนดี

6. โทนกลิ่นยอดฮิตของน้ำหอม Unisex มีอะไรบ้าง?

นิยม 3 โทนหลัก: สดชื่น (Citrus/Aquatic), หรูหรา (Aromatic/Amber), อบอุ่น (Woody/Spicy) พร้อมตัวอย่างการเลือกให้เข้ากับสภาพอากาศเมืองร้อน

7. น้ำหอม Unisex ต่างจากน้ำหอมผู้ชาย/ผู้หญิงมากไหม ควรเลือกแบบไหนดี?

ความต่างอยู่ที่การวางโทนกลิ่น Unisex จะบาลานซ์และเกิดได้บนทุกผิว เลือกจากความชอบและโอกาสเป็นหลัก