หลายคนอาจสงสัยว่า เคราติน ที่ถูกพูดถึงกันบ่อยในวงการดูแลผม แตกต่างจากการทำทรีตเมนท์ทั่วไปอย่างไร ความจริงแล้วเคราตินไม่ใช่แค่ครีมหรือมาส์กบำรุง แต่เป็นโปรตีนสำคัญที่อยู่ในเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ เมื่อเส้นผมสูญเสียเคราตินตามธรรมชาติ ผมจึงแห้งเสีย ชี้ฟู และขาดง่าย การเติมเคราตินกลับเข้าสู่เส้นผมจึงช่วยฟื้นฟูโครงสร้างจากภายใน ในขณะที่ทรีตเมนท์ทั่วไปมักเน้นการเคลือบผมชั่วคราวเพื่อให้ผมนุ่มลื่น
เคราตินคืออะไร
เคราตินเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายผลิตขึ้นเอง ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของเส้นผม เมื่อผมผ่านการทำสี ดัด ยืด หรือโดนความร้อนบ่อย เคราตินในเส้นผมจะถูกทำลาย การใช้ผลิตภัณฑ์ เคราตินหมักผม จึงเป็นวิธีเติมโปรตีนกลับเข้าไปเพื่อซ่อมแซมผมเสียจากภายใน
ทรีตเมนท์บำรุงผมทั่วไปคืออะไร
ทรีตเมนท์ผมทั่วไปมักเป็นครีมบำรุงที่มีสารให้ความชุ่มชื้น น้ำมันธรรมชาติ หรือซิลิโคน ทำหน้าที่เคลือบเส้นผมเพื่อให้ลื่น เงางาม และจัดทรงง่ายขึ้น แต่ผลลัพธ์มักคงอยู่เพียงชั่วคราว และไม่ได้ซ่อมแซมโครงสร้างผมที่เสียหาย
ความแตกต่างระหว่างเคราตินกับทรีตเมนท์ทั่วไป
คุณสมบัติ | เคราตินหมักผม | ทรีตเมนท์ทั่วไป |
---|---|---|
หลักการทำงาน | ซ่อมแซมโครงสร้างเส้นผม เติมโปรตีน | เคลือบผม เพิ่มความชุ่มชื้นและความลื่น |
ผลลัพธ์ | ผมแข็งแรงขึ้นจากภายใน | ผมเงางามและนุ่มชั่วคราว |
เหมาะกับใคร | ผมเสียจากการทำสี ดัด ยืด ใช้ความร้อนบ่อย | ผู้ที่ต้องการบำรุงทั่วไปหรือผมแห้งเล็กน้อย |
ระยะเวลาเห็นผล | ใช้ต่อเนื่อง 1–2 สัปดาห์ ผมฟื้นฟูชัดเจน | เห็นผลทันที แต่จางลงหลังสระไม่กี่ครั้ง |
ควรเลือกใช้แบบไหน
ถ้าผมเสียมากจากการทำเคมีหรือความร้อน เคราตินหมักผมคือทางเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ถ้าผมไม่ได้เสียหนัก เพียงแห้งเล็กน้อย ทรีตเมนท์ทั่วไปก็เพียงพอ อย่างไรก็ตาม หลายคนเลือกใช้ทั้งสองร่วมกัน เช่น หมักเคราตินสัปดาห์ละครั้ง และใช้ทรีตเมนท์ทั่วไปหลังสระเพื่อเพิ่มความนุ่มลื่นในชีวิตประจำวัน
สรุป
เคราตินไม่ใช่ทรีตเมนท์ธรรมดา แต่เป็นการเติมโปรตีนที่ขาดหายไปให้เส้นผม ต่างจากทรีตเมนท์ทั่วไปที่มักทำหน้าที่เคลือบและเพิ่มความนุ่มลื่นเพียงภายนอก การเข้าใจความต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น หากสนใจการพัฒนาสูตรเคราตินสำหรับแบรนด์ บริษัท Wise Plus Grow จำกัด โรงงานรับผลิตครีม มีบริการรับผลิตเคราตินคุณภาพ พร้อมช่วยสร้างสูตรเฉพาะที่ตอบโจทย์ลูกค้า
คำถามที่พบบ่อย
เคราตินหมักผมใช้แทนทรีตเมนท์ได้ไหม?
ได้ แต่ผลลัพธ์ต่างกัน เคราตินเน้นซ่อมแซมผมเสีย ส่วนทรีตเมนท์ทั่วไปเน้นบำรุงให้ผมนุ่มลื่นชั่วคราว
ควรหมักเคราตินบ่อยแค่ไหน?
แนะนำสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง ไม่ควรใช้ทุกวัน เพราะอาจทำให้ผมแข็งเกินไป
เคราตินช่วยให้ผมตรงหรือไม่?
เคราตินหมักผมช่วยลดชี้ฟูและทำให้ผมดูตรงขึ้น แต่ไม่ใช่การยืดผมแบบถาวร
ทรีตเมนท์ทั่วไปใช้กับผมทำสีได้ไหม?
ได้ แต่ควรเลือกสูตรสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันสีซีดจาง
สามารถใช้เคราตินและทรีตเมนท์ร่วมกันได้ไหม?
ได้ การใช้ร่วมกันช่วยเสริมประสิทธิภาพ ทั้งการฟื้นฟูภายในและเพิ่มความเงางามภายนอก