LACTIC ACID (AHA) เกรดเยี่ยม ผลัดผิวใส ลดริ้วรอย!

กรด-AHA

ในวงการสกินแคร์ กรด AHA (Alpha Hydroxy Acids) ถือเป็นกลุ่มส่วนผสมที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเพื่อความกระจ่างใส และ LACTIC ACID (กรดแลคติก) ก็คือดาวเด่นในกลุ่มนี้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นแต่ยังคงความอ่อนโยนต่อผิว บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Lactic Acid อย่างละเอียด ตั้งแต่ประโยชน์ กลไกการทำงาน ไปจนถึงวิธีเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ “เกรดเยี่ยม” เพื่อให้คุณสามารถดูแลผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

“LACTIC ACID คืออะไร?” ทำไมถึงเป็น AHA ที่น่าสนใจ

Lactic Acid คือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากกระบวนการหมักของน้ำตาลในพืชและนม (เช่น โยเกิร์ต, นมเปรี้ยว) แต่ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่มักใช้รูปแบบที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อให้มีความคงตัวและมีประสิทธิภาพที่แน่นอน

ความพิเศษที่แตกต่างจาก AHA ชนิดอื่น

จุดเด่นที่ทำให้ Lactic Acid แตกต่างจาก AHA ตัวอื่นๆ โดยเฉพาะ Glycolic Acid คือ มีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่า ทำให้ซึมผ่านผิวได้ช้ากว่า จึงก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า และที่สำคัญ Lactic Acid ยังมีคุณสมบัติเป็น สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ตามธรรมชาติอีกด้วย ทำให้ในขณะที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ก็ยังช่วยดึงดูดความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ในเวลาเดียวกัน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวที่บอบบางแต่ต้องการผลัดเซลล์ผิว

เจาะลึก! “ประโยชน์ของ LACTIC ACID” ต่อผิวพรรณ

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Lactic Acid อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยมอบประโยชน์ให้ผิวได้หลากหลายด้าน:

1. “ผลัดผิวใส” อย่างอ่อนโยน (Gentle Exfoliation for Bright Skin)

กลไกหลักของ Lactic Acid คือการเข้าไปคลายพันธะระหว่างเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้ว (Corneocytes) ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำและหยาบกร้านหลุดลอกออกไปได้ง่ายขึ้น เผยผิวใหม่ที่ดูสดใส เรียบเนียน และกระจ่างใสกว่าเดิม

2. “ลดริ้วรอย” ร่องตื้น (Reduces Fine Lines and Wrinkles)

การผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ นอกจากนี้ มีงานวิจัยที่ชี้ว่าการใช้ Lactic Acid ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (เช่น 12%) สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้ ทำให้ผิวดูหนาขึ้น เต่งตึงขึ้น และริ้วรอยร่องตื้นดูจางลง

3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (Boosts Hydration)

ด้วยคุณสมบัติที่เป็น Humectant, Lactic Acid ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิวชั้นบน ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มฟู และไม่แห้งตึงเหมือนการใช้สารผลัดเซลล์ผิวบางชนิด จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มี “ผิวแห้ง”

4. ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดเลือนจุดด่างดำ

เมื่อเซลล์ผิวเก่าที่สะสมเม็ดสีเมลานินส่วนเกินถูกผลัดออกไป จะช่วยให้จุดด่างดำ รอยสิว และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอดูจางลง ทำให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนและมีสีผิวที่สม่ำเสมอขึ้น

5. ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Strengthens Skin Barrier)

Lactic Acid มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างเซราไมด์ (Ceramides) ซึ่งเป็นไขมันที่จำเป็นต่อความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้นและทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกได้มากขึ้น

“วิธีใช้ LACTIC ACID” ให้ปลอดภัยและได้ผลสูงสุด

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงในการระคายเคือง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

1. การเลือกความเข้มข้นที่เหมาะสม (Choosing the Right Concentration)

  • สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผิวแพ้ง่าย ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ ประมาณ 5%
  • สำหรับผู้ที่เคยใช้ AHA มาบ้าง สามารถใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้นได้ เช่น 8-12%
  • ความเข้มข้นสูงกว่า 12% มักใช้ในการทำทรีทเม้นท์หรือลอกผิวโดยผู้เชี่ยวชาญในคลินิกเท่านั้น ไม่ควรนำมาใช้เองที่บ้าน

2. เริ่มต้นใช้อย่างไร (How to Start)

  • เริ่มต้นช้าๆ ในช่วงแรก ควรใช้เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวได้ปรับตัว จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มความถี่ขึ้นเป็นวันเว้นวัน หรือทุกวัน (เฉพาะในตอนกลางคืน) หากผิวสามารถทนได้และไม่มีอาการระคายเคือง
  • ใช้ในตอนกลางคืน เนื่องจาก AHA ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงแนะนำให้ใช้ในขั้นตอนการบำรุงผิวก่อนนอน

3. ลำดับการใช้ในรูทีน (Where it fits in a routine)

โดยทั่วไปจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Lactic Acid (เช่น โทนเนอร์ หรือ เซรั่ม) เป็นขั้นตอนแรกๆ หลังทำความสะอาดผิว บนผิวที่แห้ง จากนั้นรอให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวสักครู่ แล้วจึงตามด้วยเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ตัวอื่นๆ

4. การทาครีมกันแดดคือสิ่งจำเป็น! (Sunscreen is NON-NEGOTIABLE!)

สำคัญที่สุด! การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม AHA จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น (Photosensitivity) ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไปเป็นประจำทุกเช้า เพื่อปกป้องผิวที่กำลังผลัดเซลล์และป้องกันไม่ให้เกิดความหมองคล้ำหรือจุดด่างดำขึ้นใหม่

“ข้อควรระวังในการใช้ LACTIC ACID” และ “ผลข้างเคียง” ที่อาจเกิดขึ้น

  • ในช่วงแรกอาจรู้สึกยิบๆ เล็กน้อยบนผิว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการแสบ แดง หรือลอกมากผิดปกติ ควรลดความถี่ในการใช้หรือหยุดใช้
  • อาจเกิดขึ้นได้หากใช้ในความเข้มข้นที่สูงเกินไป หรือใช้บ่อยเกินไป ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ตามเสมอ
  • ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ควรทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ เช่น ท้องแขนหรือหลังใบหู ก่อน
    ไม่ควรใช้ร่วมกับส่วนผสมที่ออกฤทธิ์แรงอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน: เช่น เรตินอยด์ หรือ วิตามินซีความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อลดความเสี่ยงในการระคายเคือง

คำว่า “เกรดเยี่ยม” ในผลิตภัณฑ์ LACTIC ACID หมายถึงอะไร?

คำว่า “เกรดเยี่ยม” ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ไม่ได้หมายถึงแค่ความบริสุทธิ์ของ Lactic Acid เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง “คุณภาพของสูตรตำรับโดยรวม” ซึ่งประกอบด้วย

  • ความเข้มข้นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อยู่ในระดับที่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้จริงแต่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองรุนแรง
  • ค่า pH ของผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพของ AHA โดยทั่วไปควรอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 4.0 เพื่อให้กรดสามารถทำงานได้ดี
  • มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก, แพนทีนอล, หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง
  • สูตรมีความคงตัวและปลอดภัย ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและไม่เสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควร

Lactic Acid เป็นส่วนผสมในกลุ่ม AHA ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความโดดเด่นในด้านความอ่อนโยนและการให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดความหมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและใช้อย่างถูกวิธี ควบคู่ไปกับการป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้คุณมีผิวสวยสุขภาพดีได้อย่างปลอดภัยค่ะ

เกี่ยวกับผู้เขียน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
Scroll to Top