กลิ่นหอมไม่ใช่เพียงเครื่องแต่งกายสุดท้ายของแต่ละวันอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ภาษาทางอารมณ์” ที่ผู้บริโภคใช้แสดงตัวตน ความรู้สึก และช่วงเวลาของชีวิต ปี 2025 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ตลาดน้ำหอมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ปรับทิศทางสู่แนวกลิ่นที่สบายใจ สดชื่น และใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นแนวสะอาดที่ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งอาบน้ำ กลิ่นแนวขนมที่หอมหวานอบอุ่น หรือกลิ่นแนวธรรมชาติที่สื่อถึงความเรียบง่ายและสมดุล บทความนี้จะพาคุณสำรวจแนวโน้มกลิ่นที่กำลังมาแรง เหตุผลเบื้องหลัง และวิธีนำเทรนด์เหล่านี้มาสร้างแบรนด์น้ำหอมให้โดดเด่นในปีหน้า
พฤติกรรมผู้บริโภคและตลาดน้ำหอมปี 2025

ข้อมูลจาก Euromonitor และ Mintel ระบุว่าตลาดน้ำหอมโลกในปี 2025 จะเติบโตเฉลี่ยราว 7% ต่อปี โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผู้บริโภคเริ่มมองหาน้ำหอมที่ “รู้สึกเป็นตัวเอง” มากกว่าการตามแฟชั่น ขณะเดียวกัน เทรนด์ Clean Beauty 2025 และ Sustainable Packaging ก็ผลักดันให้ผู้ผลิตหันมาใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ปลอดสารก่อภูมิแพ้ และลดการใช้แอลกอฮอล์เข้มข้น
- ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับกลิ่นสะอาด สดชื่น ใช้งานได้ทุกวัน
- กลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานชื่นชอบแนวกลิ่นขนม เพราะให้ความรู้สึกน่ารักและเข้าถึงง่าย
- กลุ่มรักสุขภาพและสายธรรมชาติหันมาเลือกกลิ่นแนวธรรมชาติ เช่น สมุนไพร ใบไม้ ดิน หรือไม้แห้ง
เทรนด์กลิ่น 3 ทิศทางหลักของปี 2025

1. กลิ่นแนวสะอาด (Clean Scent)
กลิ่นแนวนี้สื่อถึงความบริสุทธิ์ สดชื่น เหมือนเพิ่งออกจากห้องน้ำหรือซักผ้าด้วยสบู่หอมอ่อนๆ ส่วนประกอบหลักคือโทน Aldehydes, Musk, และกลิ่นโอโซน ซึ่งให้ความรู้สึกโปร่งและสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติ น้ำหอมแนวนี้ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย เนื่องจากเข้ากับอากาศร้อนชื้นและสามารถใช้ได้ทุกโอกาส ทั้งในที่ทำงานและวันหยุด
2. กลิ่นแนวขนม (Gourmand Scent)
แนวกลิ่นขนมกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะกลิ่นวานิลลา คาราเมล และน้ำตาลไหม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล และมีเสน่ห์ กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้หญิงวัย 18–35 ปีที่ต้องการกลิ่นสะท้อนความอ่อนโยนและความมั่นใจ แบรนด์ใหญ่ระดับโลกเช่น Dior และ Prada ต่างเปิดตัวคอลเล็กชันแนวกลิ่นนี้ต่อเนื่อง
3. กลิ่นแนวธรรมชาติ (Natural Essence)
ผู้บริโภครุ่นใหม่ต้องการน้ำหอมที่มาจากแหล่งธรรมชาติ ปลอดสารสังเคราะห์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กลิ่นแนวนี้มักผสมผสานกลิ่นไม้ ใบชา หรือสมุนไพร เช่น เลมอนกราส มะลิ และซีดาร์วู้ด การใช้หัวน้ำหอมจากธรรมชาติแท้จึงกลายเป็นจุดขายใหม่ของแบรนด์ในปี 2025
| แนวกลิ่น | โทนความรู้สึก | ความนิยมในไทย | กลุ่มเป้าหมายหลัก |
|---|---|---|---|
| สะอาด (Clean) | สดชื่น เบาสบาย ใช้ได้ทุกวัน | สูงมาก | คนทำงาน วัยรุ่นเมือง |
| ขนม (Gourmand) | อบอุ่น หวานละมุน | ปานกลางถึงสูง | ผู้หญิงวัย 18–35 ปี |
| ธรรมชาติ (Natural) | เรียบง่าย สดใส เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม | เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง | กลุ่มรักสุขภาพ |
แรงผลักดันจากเทรนด์โลกและวัฒนธรรมโซเชียล

เทรนด์ “Clean Aesthetic” บนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram มีอิทธิพลต่อการเลือกกลิ่นของผู้บริโภคทั่วโลก แฮชแท็ก #cleanperfume และ #vanillascent มีการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าล้านครั้งในปี 2024 ผู้ใช้โซเชียลในไทยนิยมแชร์ “scent mood” หรือการจับคู่กลิ่นกับอารมณ์ เช่น กลิ่นวันสบายๆ ในคาเฟ่ หรือกลิ่นยามฝนตก ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกลิ่นใหม่ของแบรนด์
แนวทางพัฒนาแบรนด์น้ำหอมตามเทรนด์ปี 2025
1. วิเคราะห์เทรนด์ก่อนพัฒนาสูตร
ใช้ข้อมูลจาก Google Trends หรือแพลตฟอร์มรีวิวอย่าง Fragrantica เพื่อตรวจสอบกลิ่นที่กำลังได้รับความนิยม ทั้งในไทยและต่างประเทศ
2. เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย
หัวน้ำหอมควรผ่านมาตรฐาน IFRA และใช้สารตั้งต้นจากธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้บริโภคยุคใหม่
3. ร่วมมือกับโรงงาน OEM ที่เชี่ยวชาญด้านกลิ่น
การเลือกทำงานร่วมกับ โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง ที่มีทีม R&D เชี่ยวชาญน้ำหอม จะช่วยให้ได้สูตรกลิ่นที่เสถียร ปลอดภัย และสามารถปรับเข้ากับกลุ่มตลาดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
4. สร้างสตอรี่ที่เชื่อมโยงอารมณ์กับกลิ่น
น้ำหอมที่ประสบความสำเร็จในปีนี้ล้วนมีเรื่องราว เช่น “กลิ่นแห่งความทรงจำวัยเด็ก” หรือ “กลิ่นธรรมชาติยามเช้าในสวน” การเล่าเรื่องที่จับใจจะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและจดจำได้ง่าย
แนวโน้มตลาดไทยและโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ
ตลาดน้ำหอมไทยมีมูลค่าเกิน 8,000 ล้านบาทในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยเฉพาะกลุ่ม “น้ำหอมแนวสะอาด” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมืองร้อนและเทรนด์มินิมอล ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดได้ทั้งในรูปแบบน้ำหอมขวด สเปรย์เสื้อผ้า หรือผลิตภัณฑ์หอมในบ้าน เช่น Diffuser และน้ำมันอโรม่า
สรุปเทรนด์กลิ่นน้ำหอมปี 2025
ปี 2025 คือปีของความเรียบง่ายแต่มีอารมณ์ในกลิ่นหอม น้ำหอมแนวสะอาดให้ความรู้สึกสดชื่น น้ำหอมแนวขนมสร้างเสน่ห์อบอุ่น และน้ำหอมแนวธรรมชาติสะท้อนความสมดุลของชีวิต สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดแบรนด์ ควรใช้เทรนด์เหล่านี้ร่วมกับการผลิตที่ได้มาตรฐานและการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคได้ยาวนาน
หากคุณต้องการเริ่มต้นพัฒนากลิ่นและออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเอง สามารถติดต่อเพื่อ สร้างแบรนด์น้ำหอม ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางคาแรกเตอร์กลิ่นให้เข้ากับเทรนด์ปี 2025 ได้อย่างมืออาชีพ
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมกลิ่นแนวสะอาดถึงได้รับความนิยมสูงในปี 2025?
เพราะเข้ากับอากาศร้อนชื้นของไทย ใช้งานได้ทุกวัน และให้ความรู้สึกสดชื่นไม่ฉุน
2. กลิ่นแนวขนมเหมาะกับเพศหรือวัยใดมากที่สุด?
เหมาะกับผู้หญิงวัยรุ่นและวัยทำงานที่ต้องการกลิ่นหอมหวานอบอุ่น
3. หากต้องการพัฒนากลิ่นแนวธรรมชาติ ควรเริ่มจากอะไร?
เริ่มจากการเลือกหัวน้ำหอมที่มาจากพืชธรรมชาติและผ่านมาตรฐาน IFRA เพื่อความปลอดภัย
4. สามารถผสมกลิ่นหลายแนวเข้าด้วยกันได้หรือไม่?
ทำได้ แต่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญ Perfumer ออกแบบเพื่อรักษาสมดุลกลิ่นไม่ให้กลบกัน
5. ใช้เวลานานเท่าไรในการพัฒนาและผลิตน้ำหอมพร้อมขาย?
โดยทั่วไปใช้เวลาเฉลี่ย 2–4 เดือน รวมการทดสอบสูตรและออกแบบบรรจุภัณฑ์
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



