ปี 2025 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการสกินแคร์ในไทย เมื่อผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ส่วนผสมธรรมชาติ และประสิทธิภาพที่ “เห็นผลจริง” มากกว่าภาพลักษณ์แบรนด์เพียงอย่างเดียว ในบทความนี้ เรารวบรวมเทรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยอดนิยมที่แบรนด์ใหม่หรือผู้ประกอบการที่กำลังวางแผน ผลิตเซรั่ม OEM ควรรู้ เพื่อพัฒนาสูตรให้โดนใจตลาดและเพิ่มโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน
1. เซรั่มวิตามินซี + Antioxidant
- เน้นความเข้มข้นสูง และมีเสถียรภาพดี
- ผสม Ferulic Acid, Vitamin E, Glutathione
สูตรนี้ขายดีในกลุ่มผู้ต้องการผิวกระจ่างใสแบบปลอดภัย และสามารถดัดแปลงสูตรเพื่อ รับผลิตเซรั่ม OEM ที่รองรับกลุ่มผิวแพ้ง่ายได้ด้วย
2. Niacinamide + Peptides
สูตรที่รวมระหว่าง Niacinamide (วิตามินบี3) กับ Peptides กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาผิวมัน รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยเริ่มต้น โดยเฉพาะในช่วงวัย 30+ ที่ต้องการการดูแลแบบครบวงจร Niacinamide มีคุณสมบัติเด่นในการควบคุมความมัน ลดเลือนจุดด่างดำ และเสริมเกราะป้องกันผิว ขณะที่ Peptides ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และยืดหยุ่นขึ้น สูตรนี้มักนิยมนำมาใช้ใน เซรั่มกลางคืน เพราะสามารถฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
3. เซรั่มสมุนไพรไทย (Local Active)
ส่วนผสมจากสมุนไพรไทย เช่น ขมิ้นชัน มังคุด ว่านหางจระเข้ และใบบัวบก กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย และอิงภูมิปัญญาท้องถิ่น เซรั่มกลุ่มนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างจุดขายด้วย “เรื่องราวของส่วนผสม” พร้อมเจาะตลาดความงามที่มองหาทางเลือกใหม่ในการดูแลผิวอย่างยั่งยืน โดยไม่พึ่งสารเคมีรุนแรง
4. นวัตกรรม Microencapsulation
หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนโลกของสกินแคร์ คือเทคโนโลยี Microencapsulation หรือการห่อหุ้มสารสำคัญไว้ในแคปซูลระดับไมโคร เทคนิคนี้ช่วยปกป้องสารสำคัญจากการเสื่อมสภาพและควบคุมการปลดปล่อยอย่างต่อเนื่องลงสู่ชั้นผิว ทำให้สูตรเซรั่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยืดอายุการใช้งาน และลดความเสี่ยงในการระคายเคือง เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการพัฒนา สูตรเซรั่มระดับพรีเมียม หรือเซรั่มเฉพาะทาง เช่น สูตรลดริ้วรอยอย่างล้ำลึก
5. สูตรไร้น้ำ (Waterless) ที่เน้น Sustainability
แนวโน้ม Waterless Skincare หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และลดการพึ่งพาสารกันเสีย เซรั่มในรูปแบบ บาล์มเข้มข้น น้ำมันบำรุง หรือผงละลายน้ำ เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความเข้มข้นของสารสำคัญสูง แต่ยังตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนได้อย่างมีนัยสำคัญ เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “Eco-Conscious” ที่แท้จริง
ผลิตเซรั่ม OEM แบบไหนที่ตอบโจทย์ตลาดปีนี้?
จากแนวโน้มข้างต้น แบรนด์ที่ต้องการพัฒนาสูตรแบบครบจบควรมองหาโรงงานที่สามารถ:
- ปรับสูตรตาม Insight ของตลาดจริง
- รองรับการวิจัย และนำเข้าวัตถุดิบเฉพาะ
- จด อย. ให้ครบในชื่อแบรนด์ลูกค้า
หากคุณกำลังมองหาโรงงานที่เชี่ยวชาญด้าน ผลิตเซรั่ม OEM แบบครบวงจร ทั้งการวิเคราะห์สูตรเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย, การเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูง, การทดสอบความเสถียร, ไปจนถึงการจดทะเบียน อย. และวางแผนสร้างแบรนด์ ทาง Wise Plus Grow พร้อมให้บริการภายใต้โรงงานมาตรฐาน GMP และ ISO ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอางกว่า 10 ปี ดูรายละเอียดบริการผลิตเซรั่มจากโรงงาน Wise Plus Grow
สรุป: ปี 2025 คือโอกาสของแบรนด์ที่เข้าใจตลาดจริง
ตลาดสกินแคร์กำลังเปลี่ยน ผู้บริโภคฉลาดขึ้น ใส่ใจข้อมูล และคาดหวังผลลัพธ์ที่วัดได้ การมีพาร์ทเนอร์ที่ช่วยวางสูตร ผลิต และจด อย. แบบครบวงจร จึงเป็นกุญแจสำคัญ Wise Plus Grow พร้อมให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเซรั่มคุณภาพสูง พร้อมสนับสนุนทุกขั้นตอนของการ สร้างแบรนด์เซรั่ม อย่างมืออาชีพ
1. ปี 2025 เทรนด์สกินแคร์แบบไหนกำลังมาแรง?
เทรนด์สกินแคร์ปี 2025 เน้นความปลอดภัย ส่วนผสมธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่เห็นผลจริง เช่น เซรั่มวิตามินซี, Niacinamide + Peptides และสูตรไร้น้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. เซรั่มแบบไหนที่เหมาะกับการผลิต OEM มากที่สุด?
สูตรที่มีจุดขายเฉพาะ เช่น มีสารออกฤทธิ์เข้มข้น (วิตามินซี, สมุนไพรไทย) หรือมีนวัตกรรมใหม่อย่าง Microencapsulation จะช่วยเพิ่มมูลค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี
3. การเลือกโรงงานผลิตเซรั่มควรดูจากอะไรบ้าง?
ควรเลือกโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP, มีบริการ R&D, สามารถปรับสูตรเฉพาะแบรนด์ และมีประสบการณ์ในตลาดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
4. สูตรเซรั่มแบบ Waterless คืออะไร?
สูตร Waterless คือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำ เช่น บาล์ม ผงเซรั่ม น้ำมัน ช่วยลดการใช้สารกันเสียและเหมาะกับแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
5. หากต้องการเริ่มแบรนด์เซรั่มในปีนี้ควรเริ่มอย่างไร?
เริ่มจากวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย → พัฒนาสูตร → เลือกโรงงานผลิตที่ให้บริการครบวงจร และจด อย. ในนามแบรนด์ของตัวเอง