เลือกแป้งพัฟให้ตรงใจ ผิวเนียนสวย คุมมันเป๊ะ

“แป้งพัฟ” หรือ “แป้งผสมรองพื้น” คือไอเท็มสามัญประจำกระเป๋าเครื่องสำอางของสาวไทย ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้นที่ทำให้หน้ามันได้ง่าย แต่การจะ “เลือกแป้งพัฟ” สักตลับให้ “ตรงใจ” ได้ทั้งเรื่อง “ผิวเนียนสวย” และ “คุมมันเป๊ะ” นั้นต้องอาศัยการเลือกที่พิถีพิถัน บทความนี้ได้รวบรวม 5 เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกแป้งพัฟคู่ใจ ที่ทาแล้วหน้าไม่วอก ไม่ลอย ไม่เป็นคราบ และสวยเป๊ะตลอดวัน

“แป้งพัฟ” ที่เราเรียกกัน คืออะไร?

โดยทั่วไปแล้ว “แป้งพัฟ” ที่คนไทยเรียกกันติดปาก มักจะหมายถึง “แป้งผสมรองพื้น” (Powder Foundation หรือ Two-way Foundation) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่าง “แป้งอัดแข็ง” กับ “รองพื้น” ทำให้มีคุณสมบัติในการปกปิดริ้วรอยและจุดด่างดำได้ดีกว่าแป้งฝุ่นหรือแป้งอัดแข็งธรรมดา พร้อมทั้งช่วยควบคุมความมันและเซ็ตผิวให้เรียบเนียนในขั้นตอนเดียว

5 เคล็ดลับ “เลือกแป้งพัฟ” อย่างไรให้ได้ “ผิวเนียนสวย” และ “คุมมันเป๊ะ”

1. เลือกสูตรให้เหมาะกับ “สภาพผิว” (Choose the Formula for Your Skin Type)

• สำหรับผิวมัน (Oily Skin) นี่คือโจทย์หลักของคนส่วนใหญ่ ให้มองหาสูตรที่ระบุว่า “คุมมัน” (Oil-Control), “เนื้อแมตต์” (Matte Finish), หรือ “ปราศจากน้ำมัน” (Oil-Free) แป้งเหล่านี้มักมีส่วนผสมที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน เช่น ซิลิก้า (Silica) หรือดินขาว (Kaolin) และควรมีคำว่า “ไม่อุดตัน” (Non-Comedogenic) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดสิว
• สำหรับผิวแห้ง (Dry Skin) ควรหลีกเลี่ยงแป้งที่แมตต์จัด เพราะจะยิ่งทำให้ผิวดูแห้งและอาจเป็นคราบได้ ให้มองหาสูตรที่ให้ “ฟินิชแบบซาติน” (Satin Finish) หรือสูตรที่ระบุว่ามีส่วนผสมของสารบำรุงให้ความชุ่มชื้น เช่น วิตามินอี หรือไฮยาลูรอน
• สำหรับผิวผสม (Combination Skin) สามารถใช้แป้งพัฟคุมมันได้ โดยอาจเน้นทาบริเวณ T-zone ที่มีความมันมากกว่า และลงบางๆ บริเวณแก้มที่แห้งกว่า
• สำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) มองหาสูตรที่ปราศจากน้ำหอม (Fragrance-Free), พาราเบน (Paraben-Free) หรือเลือกใช้แป้งมิเนอรัล (Mineral Makeup) ที่มีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ

2. เลือก “เฉดสีและอันเดอร์โทน” ให้ตรงผิวจริง

อย่าเลือกแป้งที่ขาวกว่าผิว! การเลือกแป้งที่ขาวเกินไปคือสาเหตุหลักของปัญหา “หน้าเทา” หรือ “หน้าลอย”

• วิธีทดสอบ ให้ทดลองปาดแป้ง บริเวณแนวกราม (Jawline) ไล่ลงมาถึงลำคอ แล้วดูในแสงธรรมชาติ เฉดสีที่กลืนหายไปกับสีผิวทั้งหน้าและคอคือสีที่ใช่ที่สุด
• อันเดอร์โทน คนไทยส่วนใหญ่มักมีอันเดอร์โทนเหลือง (Warm Undertone) ควรเลือกแป้งที่ติดโทนเหลืองเล็กน้อย จะช่วยให้ผิวดูสวยสุขภาพดี ไม่หมอง

3. เลือกระดับ “การปกปิด” ที่ต้องการ (Choose Your Desired Coverage)

แป้งพัฟมีระดับการปกปิดที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ปานกลาง (Medium Coverage) ไปจนถึงสูงสุด (Full Coverage) หากคุณมีรอยสิวหรือจุดด่างดำที่ต้องการปกปิดมาก ควรเลือกแป้งที่ระบุว่าให้การปกปิดสูง แต่หากต้องการลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ อาจเลือกแป้งที่ให้การปกปิดปานกลางก็เพียงพอ

4. เลือก “ฟินิชลุค” ที่ใช่ (Choose the Right Finish)

• ลุคแมตต์ (Matte Finish) เหมาะสำหรับคนผิวมันมาก หรือวันที่ต้องการความเป๊ะ ติดทนนานเป็นพิเศษ
• ลุคซาตินหรือธรรมชาติ (Satin/Natural Finish) ให้ผิวที่ดูไม่แห้งและไม่มันวาวจนเกินไป ดูเป็นผิวสุขภาพดี เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและใช้ได้ทุกวัน

5. อ่าน “รีวิวแป้งพัฟ” และดูส่วนผสม (Read Reviews & Ingredients)

การอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงที่มีสภาพผิวและสีผิวใกล้เคียงกับเราเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมในการตัดสินใจ ทำให้เห็นผลลัพธ์การใช้งานจริงว่าคุมมันได้ดีจริงหรือไม่ สีดรอประหว่างวันหรือเปล่า และเป็นคราบหรือไม่

เทคนิคการทาแป้งพัฟให้เนียน “ไม่เป็นคราบ” ไม่โป๊ะ

การเตรียมผิว ลงสกินแคร์และครีมกันแดด รอให้ทุกอย่างเซ็ตตัวจนผิวไม่เหนียวเหนอะหนะก่อนลงแป้ง

ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม

• ใช้พัฟ (แห้ง) ให้การปกปิดสูงสุด ใช้วิธี “กดซับ” เบาๆ ให้ทั่วใบหน้า อย่าใช้วิธีลากหรือถู
• ใช้พัฟ (ชุบน้ำหมาดๆ) หรือที่เรียกว่าแป้ง “Two-way” จะช่วยให้แป้งติดทนนานและปกปิดดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับวันออกงาน
• ใช้แปรงปัดแป้งหัวฟูๆ วนที่แป้งแล้วเคาะส่วนเกินออก ค่อยๆ ปัดให้ทั่วใบหน้า จะให้ลุคที่ดูบางเบาและเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้พัฟ

การ “เลือกแป้งพัฟให้ตรงใจ” คือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้ง “สภาพผิว”, “สีผิว”, และ “ความต้องการในการปกปิด” ของคุณ เมื่อคุณพบแป้งพัฟที่ใช่ การมีผิวสวยเนียนเป๊ะและคุมมันได้ตลอดวันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป