Batch Number คืออะไร สำคัญอย่างไร พร้อมตัวอย่างรหัสสำหรับเครื่องสำอางและสกินแคร์

ความหมายและความสำคัญของรหัส Batch Number ในเครื่องสำอางและสกินแคร์

Batch Number คือ รหัสที่โรงงานใช้ระบุ “ชุดการผลิตเดียวกัน” เพื่อให้ตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ได้ครบเส้นทาง ตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการกระจายสินค้า รหัสนี้เป็นหัวใจของระบบคุณภาพตามแนวทาง GMP และ ISO 22716 ช่วยควบคุมความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ จัดการเคลม และรองรับการเรียกคืนสินค้าเมื่อจำเป็น

หัวข้อในบทความนี้

Batch Number คืออะไร

ความหมายของรหัส Batch Number ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

โดยหลักการ Batch Number หรือ Lot Number คือรหัสที่ผูกกับผลิตภัณฑ์ “ล็อตเดียวกัน” ที่ผ่านกระบวนการผลิตภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน เช่น วันผลิต เครื่องจักร ไลน์ผลิต และชุดวัตถุดิบ ซึ่งถูกกำหนดและควบคุมโดย โรงงานเครื่องสำอาง ที่ได้รับมาตรฐาน GMP หรือ ISO 22716 เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ได้ครบถ้วนทั้งในกระบวนการผลิตและหลังการจำหน่าย รหัสนี้ทำหน้าที่ยืนยันที่มา ความสม่ำเสมอของสูตร และคุณภาพของสินค้าที่อยู่ในตลาดอย่างโปร่งใส ช่วยให้ผู้บริโภคและเจ้าของแบรนด์มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผ่านการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากลจริง

ทำไม Batch Number ถึงสำคัญสำหรับเครื่องสำอางและสกินแคร์ OEM

ความสำคัญของรหัส Batch Number สำหรับเครื่องสำอางและสกินแคร์ OEM

Batch Number ถือเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมความงาม เพราะทุกล็อตของผลิตภัณฑ์ที่ออกจาก โรงงานรับผลิต OEM ต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส ตั้งแต่วัตถุดิบที่ใช้ไปจนถึงกระบวนการผลิตและการจัดจำหน่าย การมีรหัสล็อตที่ถูกต้องและจัดเก็บอย่างเป็นระบบช่วยให้แบรนด์ดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยลดความเสียหายเมื่อเกิดกรณีร้องเรียนหรือเรียกคืนสินค้าในอนาคต

  1. ตรวจสอบย้อนกลับเมื่อพบปัญหาคุณภาพ เช่น กลิ่น สี หรือเนื้อผลิตภัณฑ์
  2. ควบคุมความสม่ำเสมอของสูตรและกระบวนการผลิตตามมาตรฐาน GMP/ISO 22716
  3. สนับสนุนงานเอกสารคุณภาพ เช่น COA และการออก CFS สำหรับการส่งออก
  4. เสริมความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค พร้อมช่วยหลีกเลี่ยงสินค้าปลอม

Batch Number vs Lot Number ต่างกันหรือไม่

Batch Number และ Lot Number มักถูกใช้แทนกันได้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ เพราะทั้งสองคำต่างสื่อถึง “ชุดการผลิตเดียวกัน” ที่ผ่านกระบวนการภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน เช่น วัตถุดิบ เครื่องจักร กะการผลิต และวันเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากมองในเชิงระบบควบคุมคุณภาพของ โรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐาน GMP หรือ ISO 22716 จะมีการแยกความหมายอย่างชัดเจนเพื่อให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ละเอียดมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างรหัส Batch Number และ Lot Number

Batch Number ใช้ในมุมของ “การผลิต” (Manufacturing Perspective) เป็นรหัสที่เชื่อมโยงกับเอกสารภายใน เช่น Batch Manufacturing Record (BMR), ใบปล่อยล็อต (Release Note), และรายงานผลทดสอบในห้องแล็บ (QC Report) รหัสนี้ช่วยให้ฝ่าย QA สามารถยืนยันได้ว่า ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นในล็อตนั้นผ่านขั้นตอนการควบคุมคุณภาพจริง

ในขณะที่ Lot Number มักถูกใช้ในมุมของ “การจัดเก็บและการจัดจำหน่าย” (Logistics / Distribution Perspective) เพื่อระบุชุดสินค้าที่ถูกบรรจุหรือส่งออกไปยังตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น ล็อตสินค้าที่จัดส่งให้ดีลเลอร์รายหนึ่งในเดือนเดียวกัน อาจรวมหลาย Batch เข้าด้วยกันเพื่อความสะดวกในการติดตามหลังการขาย

ดังนั้น หากมองอย่างเป็นระบบ Batch Number คือ “รหัสการผลิต” ที่มาจากต้นทางในโรงงาน ส่วน Lot Number คือ “รหัสการจัดส่งหรือจำหน่าย” ที่ปลายทางในคลังสินค้า ทั้งสองจึงทำงานเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability System) ที่สมบูรณ์แบบ

เจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ทำงานร่วมกับ โรงงาน OEM ควรเข้าใจความแตกต่างนี้อย่างชัดเจน เพราะเมื่อเกิดการเคลมสินค้า การอ้างอิง Batch ที่ถูกต้องจะช่วยให้โรงงานสกินแคร์ตรวจสอบสาเหตุได้รวดเร็วกว่า และจำกัดขอบเขตปัญหาเฉพาะล็อตที่เกี่ยวข้อง ลดผลกระทบต่อแบรนด์และลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปสั้น ๆ: Lot Number คือรหัสการขนส่ง ส่วน Batch Number คือรหัสการผลิต ทั้งสองต่างจำเป็นต่อการรักษามาตรฐานและความน่าเชื่อถือของแบรนด์สกินแคร์ทุกขั้นตอน

ตัวอย่างรูปแบบ Batch Number ที่พบได้บ่อย

  • ตัวอย่าง 1: 2509A01 แปลว่า ปี 2025 เดือน 09 ไลน์ A ล็อตที่ 01
  • ตัวอย่าง 2: 25-245-3 แปลว่า ปี 2025 วันที่ผลิตลำดับที่ 245 ของปี ล็อตย่อยที่ 3
  • ตัวอย่าง 3: 250101A แปลว่า ปี 2025 เดือน 01 ล็อตที่ 01 ไลน์ A
  • ตัวอย่าง 4: 25091B2 แปลว่า ปี 2025 สัปดาห์ที่ 09 ไลน์ 1 ล็อตย่อย B2

หมายเหตุ รูปแบบรหัสขึ้นกับมาตรฐานภายในของแต่ละโรงงาน แต่ควรสื่อปี/เดือน/สัปดาห์/ไลน์/ลำดับล็อตอย่างชัดเจน และคงรูปแบบเดิมเสมอเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ

วิธีอ่านและถอดรหัส Batch Number

Batch Number ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสกินแคร์ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขสุ่ม แต่ถูกออกแบบให้ “บอกข้อมูลการผลิต” อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน โดยทั่วไปจะประกอบด้วยรหัสปี (2 หลักท้ายของปี ค.ศ.), เดือนหรือสัปดาห์ที่ผลิต, ไลน์หรือเครื่องจักรที่ใช้ และลำดับล็อตการผลิต เช่น รหัส 2509A01 อาจหมายถึง ปี 2025 เดือน 09 ไลน์ A และล็อตที่ 01 ของเดือนนั้น

วิธีอ่านและถอดรหัส Batch Number ของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

หากต้องการถอดรหัสอย่างถูกต้อง ควรเริ่มจากระบุโครงสร้างที่โรงงานใช้จริง เพราะแต่ละแห่งอาจมีระบบต่างกัน บางโรงงานสกินแคร์ในไทยใช้รูปแบบ YYMMDD, บางแห่งใช้ YYWK หรือ YYMM-SEQ โดยในกรณีที่เป็นเจ้าของแบรนด์ OEM ควรขอเอกสาร “Batch Coding Guideline” หรือแนวทางการตั้งรหัสอย่างเป็นทางการจาก โรงงานรับผลิตสกินแคร์ ที่ร่วมงานด้วย เพื่อยืนยันว่ารหัสที่พิมพ์บนฉลากตรงกับเอกสารคุณภาพ เช่น COA (Certificate of Analysis) และ BMR (Batch Manufacturing Record)

การอ่านรหัสล็อตอย่างถูกต้องช่วยให้ตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุได้ทันที รวมถึงแยกล็อตเก่ากับล็อตใหม่เมื่อต้องตรวจ QC หรือทำการ Recall สินค้า นอกจากนี้ยังช่วยผู้บริโภคทั่วไปตรวจสอบได้เองว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยังอยู่ในช่วงอายุการเก็บรักษาหรือไม่ ซึ่งสะท้อนความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของแบรนด์ในสายตาลูกค้า

เคล็ดลับสำหรับผู้ประกอบการ: ควรจัดทำฐานข้อมูลรหัสล็อตทุกเดือน และเชื่อมกับระบบ COA, QC และเอกสารคลังสินค้า เพื่อให้สามารถค้นหาย้อนหลังได้รวดเร็วหากเกิดเหตุร้องเรียนด้านคุณภาพ

ตำแหน่งที่มักพิมพ์ Batch Number บนบรรจุภัณฑ์

ตำแหน่งที่นิยมพิมพ์รหัส Batch Number บนบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

ในกระบวนการผลิตของ โรงงานผลิตครีม ที่ได้มาตรฐาน GMP หรือ ISO 22716 การระบุ Batch Number ต้องอยู่ในตำแหน่งที่ “อ่านได้ชัดเจน ไม่หลุดลอก และไม่สับสนกับรหัสอื่น” เพื่อให้ตรวจสอบย้อนหลังได้แม่นยำ ทั้งในขั้นตอน QC และการจำหน่ายจริง ตำแหน่งของรหัสล็อตจะถูกกำหนดตามชนิดบรรจุภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ใช้พิมพ์ เช่น การสกรีน การเลเซอร์ หรือการพิมพ์หมึกกันน้ำ โดยตำแหน่งที่นิยมใช้มากที่สุด ได้แก่:

  • ใต้กล่องบรรจุภัณฑ์ (Carton Bottom) – เหมาะกับสินค้าบรรจุกล่อง ช่วยให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้ง่ายโดยไม่กระทบต่อความสวยงามของฉลาก
  • บริเวณใกล้บาร์โค้ด – ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากด้านหลังหรือด้านล่าง ช่วยให้ตรวจสอบได้พร้อมข้อมูลล็อตการจัดส่ง
  • ก้นขวดหรือหลอด (Tube / Bottle Base) – โรงงานนิยมใช้การยิงเลเซอร์หรือสกรีนรหัสลงบนพื้นผิวโดยตรง เพื่อความทนทานต่อความชื้นและการขัดถู
  • ฝาผลิตภัณฑ์หรือบริเวณคอขวด – ใช้กับสินค้าขนาดเล็กหรือบรรจุภัณฑ์ทรงกระบอก เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบระหว่างการบรรจุ
  • ฉลากด้านข้างหรือสติ๊กเกอร์ QC – ใช้ในกรณีที่ต้องการรหัสแบบถอดเปลี่ยนได้ เหมาะกับล็อตทดลองหรือสินค้าส่งออกต่างประเทศ

การจัดวาง Batch Number อย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้ตรวจสอบย้อนกลับได้รวดเร็ว แต่ยังสะท้อนความเป็นมืออาชีพของโรงงานผลิตครีมสร้างแบรนด์ในด้านความปลอดภัยและการควบคุมคุณภาพที่โปร่งใสตามมาตรฐานสากล

ความเชื่อมโยงกับมาตรฐาน GMP / ISO 22716

การระบุ Batch Number เป็นข้อกำหนดสำคัญของการจัดทำบันทึกการผลิต (Batch Manufacturing Record: BMR) และการเก็บบันทึก (Record Keeping) เพื่อให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ รวมถึงการสอบกลับวัตถุดิบ เครื่องจักร ผู้ปฏิบัติงาน และเงื่อนไขการผลิต

อ่านต่อหลักการ GHP/HACCP ที่สนับสนุนการควบคุมความเสี่ยงในโรงงานได้ที่ GHP & HACCP สำหรับโรงงานครีม

Batch Number กับเอกสารคุณภาพ COA และเอกสารการจำหน่าย CFS

COA (Certificate of Analysis) จะระบุรหัส Batch เพื่อยืนยันผลการทดสอบของผลิตภัณฑ์ล็อตนั้น เช่น ค่า pH ความหนืด การปนเปื้อนจุลินทรีย์ เป็นต้น ส่วน CFS (Certificate of Free Sale) ใช้ยืนยันการจำหน่ายในประเทศปลายทาง โดยข้อมูลล็อตช่วยให้ผู้ควบคุมกำกับตรวจสอบสินค้าได้

ศึกษาเพิ่มเติม: COA คืออะไร และ CFS คืออะไร

Batch Number กับการจดแจ้ง อย. และการตรวจสอบเลข 13 หลัก

เลขจดแจ้ง อย. 13 หลักเป็นข้อมูลระดับ “ผลิตภัณฑ์/สูตร” ไม่ใช่หมายเลขล็อต อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดการร้องเรียนหรือการเรียกคืน ข้อมูลเลข อย. จะถูกใช้ร่วมกับรหัส Batch เพื่อระบุ “ล็อต” ที่ได้รับผลกระทบอย่างแม่นยำ

ดูวิธีเช็คเลข อย. ได้ที่ เช็คเลข อย. 13 หลัก

Batch Record (BMR) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง

BMR คือชุดเอกสารที่บันทึกทุกขั้นตอนของการผลิตล็อตนั้นๆ ตั้งแต่รับวัตถุดิบ ชั่งตวง ผสม เติม ลงบรรจุ จนถึงปล่อยล็อต โดยต้องอ้างอิง Batch Number เดียวกันเพื่อความต่อเนื่อง

เอกสาร QC/QA ที่สัมพันธ์กัน ได้แก่ COA, ใบปล่อยล็อต (Release Note), รายงาน OOS/OOT, และบันทึกการสุ่มตัวอย่าง retains

ตัวอย่างกรณีใช้งานจริง: การเรียกคืน (Recall) และการจัดการเคลม

เมื่อพบปัญหาคุณภาพในสินค้าบางชิ้น การมี Batch Number ที่ชัดเจนทำให้จำกัดขอบเขตการเรียกคืนเฉพาะล็อตที่ได้รับผลกระทบ ลดความเสียหายต่อแบรนด์และผู้บริโภค พร้อมช่วยฝ่ายบริการลูกค้าตรวจสอบและตอบกลับได้เร็วขึ้น

แนวทางตั้งรหัส Batch ให้สอดคล้องงานคุณภาพ

  • กำหนดโครงสร้างรหัสที่มีความหมายและอ่านเข้าใจได้ เช่น ปี/เดือน/ไลน์/ลำดับ
  • คงรูปแบบให้สม่ำเสมอในทุกผลิตภัณฑ์และทุกแพลตฟอร์ม
  • ผูก Batch กับ BMR, COA, ใบสั่งผลิต และระบบคลังสินค้า (WMS/ERP) เพื่อการติดตามที่สมบูรณ์

ตัวอย่างแผนผังถอดรหัส (Mapping) ตามโครงรหัสสมมุติ

ด้านล่างเป็นตัวอย่างโครงสร้างการแปลงรหัสเพื่อใช้งานภายในองค์กร ทั้งนี้รูปแบบจริงควรกำหนดใน SOP ของโรงงาน

องค์ประกอบ ความหมาย ตัวอย่าง
YY ปี ค.ศ. สองหลักท้าย 25 = 2025
MM/WK เดือน (01–12) หรือสัปดาห์ (01–53) 09 = กันยายน หรือ 09 = สัปดาห์ที่ 9
Line ไลน์/เครื่องจักร A, B, C
Seq ลำดับล็อตภายในช่วงเวลา 01, 02, 03
Suf ตัวระบุพิเศษ (เช่น สูตร/กะ) B2, N, D

สรุป Batch Number คือรหัสความเชื่อมั่นของแบรนด์

Batch Number ไม่ได้เป็นเพียงรหัสบนฉลาก แต่คือระบบควบคุมคุณภาพทั้งห่วงโซ่ที่เชื่อมการผลิต เอกสาร และบริการหลังการขายเข้าด้วยกัน แบรนด์ที่จัดการรหัสดีจะลดความเสี่ยง เพิ่มความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นระยะยาวให้ผู้บริโภค

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Batch Number บอกวันผลิตหรือวันหมดอายุหรือไม่?

รหัส Batch Number ส่วนใหญ่บอก “วันผลิต” โดยแฝงอยู่ในตัวเลขปีและเดือน เช่น 2509A01 หมายถึงผลิตเดือนกันยายน ปี 2025 แต่วันหมดอายุจะถูกกำหนดแยกตามอายุการเก็บรักษาของสูตร ซึ่งระบุในเอกสาร COA หรือบนฉลากผลิตภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์สามารถยืนยันได้จากเอกสาร BMR ของโรงงานผลิตครีม

ถ้าไม่มี Batch Number บนบรรจุภัณฑ์ ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่?

ตามข้อกำหนดของ GMP และ ISO 22716 การระบุ Batch Number ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบตรวจสอบย้อนกลับ แม้กฎหมาย อย. ไทยจะไม่ได้ระบุชัดเจนทุกกรณี แต่การขาดรหัสล็อตจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบคุณภาพในกรณีร้องเรียน จึงแนะนำให้เลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่แสดงรหัสชัดเจนบนฉลากหรือกล่อง

Batch Number ใช้ร่วมกับเลขจดแจ้ง อย. ได้อย่างไร?

เลขจดแจ้ง อย. เป็นรหัสระดับ “สูตรผลิตภัณฑ์” ส่วน Batch Number ระบุ “ล็อตการผลิต” ที่อยู่ภายใต้สูตรนั้น เมื่อนำทั้งสองข้อมูลมาใช้ร่วมกัน ฝ่าย QA และหน่วยงาน อย. สามารถตรวจสอบสินค้าทุกล็อตได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ทำไมโรงงานสกินแคร์จึงต้องเก็บบันทึก Batch Number ไว้ในระบบ

เพราะรหัสล็อตเป็นหัวใจของเอกสารคุณภาพ เช่น COA, BMR, ใบปล่อยล็อต และใบรับรองต่าง ๆ การจัดเก็บอย่างเป็นระบบช่วยให้โรงงานสกินแคร์ตรวจสอบย้อนกลับได้ภายในไม่กี่นาทีเมื่อมีการเคลมหรือร้องเรียนจากตลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบังคับของการตรวจประเมิน GMP/ISO

จะตรวจสอบความถูกต้องของ Batch Number ได้จากที่ไหน?

เจ้าของแบรนด์สามารถตรวจสอบได้จากเอกสาร COA หรือใบปล่อยล็อตของโรงงานผลิตครีม ส่วนผู้บริโภคทั่วไปสามารถดูรหัสใต้กล่อง ก้นขวด หรือฉลาก QC เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลวันผลิต/หมดอายุที่แสดงบนฉลาก หากรหัสไม่ชัดเจนหรือถูกลบเลือน ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของแบรนด์ทันที

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า