การมีผมยาวหนาสลวยเป็นความฝันของผู้หญิงหลายคน และ “การต่อผม” ก็เป็นทางลัดที่ช่วยเนรมิตให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนก็ยังมีความกังวล ไม่ว่าจะเป็น “ต่อผมเจ็บไหม?” หรือกลัวว่าผมจะเสียและดูแลยาก บทความนี้จะมาเป็นไกด์ไลน์ฉบับสมบูรณ์ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ตั้งแต่การเลือกวิธีการต่อผมที่เหมาะสม ไปจนถึง “วิธีดูแลผมต่อ” อย่างถูกวิธี เพื่อให้ผมของคุณสวยทนทาน อยู่กับคุณไปได้นานที่สุด และที่สำคัญคือ “ไม่เจ็บ” อย่างที่คิด!
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บหนังศีรษะหลังต่อผม
- การดึงรั้งของผมต่อ น้ำหนักของผมต่อและการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคืองและเจ็บได้
- กาวหรือสารเคมี กาวหรือสารเคมีที่ใช้ในการติดผมต่ออาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองหนังศีรษะได้
- การติดเชื้อ หากไม่ได้ดูแลความสะอาดของหนังศีรษะและผมต่ออย่างถูกวิธี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- หนังศีรษะบอบบาง ผู้ที่มีหนังศีรษะบอบบางหรือแพ้ง่าย อาจมีอาการระคายเคืองได้ง่ายกว่าคนอื่น
“ต่อผมแบบไหนดี”? เลือกให้ถูกประเภท ลดโอกาสเจ็บและผมเสีย
ความรู้สึกเจ็บหรือไม่เจ็บนั้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่างเป็นสำคัญ แต่ประเภทของการต่อผมก็มีผลต่อความรู้สึกสบายของหนังศีรษะเช่นกัน เรามาทำความรู้จักกับวิธีที่นิยมกันค่ะ
1. ต่อผมแบบเทป (Tape-in Extensions)
-
- วิธีการ เป็นการใช้แผ่นเทปกาวคุณภาพดีสำหรับเส้นผมโดยเฉพาะ มาประกบกับช่อผมจริงของเรา
- ข้อดี ทำได้รวดเร็ว, แบนราบไปกับศีรษะ, ไม่รู้สึกตึงหรือดึงรั้งหนังศีรษะมากนัก, น้ำหนักเบา, เหมาะสำหรับคนผมเส้นเล็กและผมบาง
- ข้อควรพิจารณา ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลที่ปราศจากออยล์หรือซิลิโคนบริเวณโคนผม เพราะอาจทำให้เทปลื่นหลุดง่าย, ต้องถอดและขยับขึ้นทุกๆ 6-8 สัปดาห์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ
2. ต่อผมแบบเคราติน/กาวร้อน (Keratin/Fusion/Bonded Extensions)
-
- วิธีการ ใช้ความร้อนหลอมช่อเคราตินที่ปลายผมต่อให้เชื่อมติดกับช่อผมจริงทีละช่อเล็กๆ
- ข้อดี รอยต่อมีขนาดเล็กและเนียนมาก, มีความเป็นธรรมชาติสูง, ติดทนนานมาก (3-5 เดือน)
- ข้อควรพิจารณา ใช้เวลาทำนาน, การใช้ความร้อนอาจทำร้ายผมได้หากช่างไม่ชำนาญ, การถอดต้องใช้ความระมัดระวังและน้ำยาเฉพาะ, อาจรู้สึกตึงหนังศีรษะเล็กน้อยในช่วงแรก
3. ต่อผมแบบไมโครริง/นาโนริง (Micro/Nano Ring Extensions)
-
- วิธีการ ไม่ใช้กาวหรือความร้อน แต่ใช้ห่วงโลหะขนาดเล็ก (ริง) ร้อยช่อผมจริงและผมต่อเข้าด้วยกัน แล้วใช้คีมหนีบให้แน่น
- ข้อดี ไม่ใช้สารเคมีหรือความร้อน, สามารถนำผมต่อกลับมาใช้ใหม่ได้
- ข้อควรพิจารณา อาจรู้สึกไม่สบายศีรษะจากการกดทับของห่วงโลหะได้ในบางคน, หากหนีบไม่ดีอาจลื่นหลุด, ไม่เหมาะกับคนผมเส้นเล็กและบางมากเพราะอาจเห็นรอยต่อ
4. ต่อผมแบบถัก (Sew-in/Weave)
-
- วิธีการ เป็นการถักผมเปียเล็กๆ ให้แนบไปกับหนังศีรษะก่อน แล้วจึงใช้เข็มและด้ายเย็บแผงผมต่อติดกับผมเปียนั้น
- ข้อดี เหมาะสำหรับคนผมหนาและแข็งแรง, ไม่ใช้กาวหรือความร้อนโดยตรงกับเส้นผม
- ข้อควรพิจารณา อาจรู้สึกตึงหนังศีรษะมาก, การดูแลความสะอาดบริเวณผมเปียที่ถักไว้อาจทำได้ยาก และต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญสูง
หากกังวลเรื่องความเจ็บปวดและการดึงรั้ง การต่อผมแบบเทป มักจะเป็นวิธีที่ให้ความรู้สึกสบายหนังศีรษะมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือฝีมือและความเชี่ยวชาญของช่าง
เลือกร้านและช่างต่อผมมืออาชีพ หัวใจสำคัญที่สุด!
ช่างต่อผมที่มีประสบการณ์และความชำนาญจะสามารถประเมินสภาพเส้นผมของคุณ, แนะนำวิธีที่เหมาะสม, และทำการต่อผมได้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดและการทำร้ายเส้นผมจริงของคุณได้อย่างมหาศาล ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ ใช้ผมต่อคุณภาพดี และดูรีวิวจากลูกค้าจริงประกอบการตัดสินใจ
“วิธีดูแลผมต่อ” ให้สวยทน ไม่พันกัน
นี่คือขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้ผมต่อของคุณสวยงามและอยู่ได้นาน:
การสระผม (“สระผมต่อ”)
-
- ก่อนสระ ใช้แปรงสำหรับผมต่อค่อยๆ สางผมที่พันกันออกก่อน
- แชมพู เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ปราศจากซัลเฟต (Sulfate-Free) เพื่อไม่ให้รอยต่อแห้งหรือเสื่อมสภาพเร็ว
- วิธีการสระ เงยหน้าสระผมเสมอ อย่าก้มหัวสระ เพราะจะทำให้ผมพันกันได้ง่าย ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆ ที่หนังศีรษะ หลีกเลี่ยงการขยี้หรือเกาบริเวณรอยต่ออย่างรุนแรง
- ครีมนวดผม ชโลมครีมนวดตั้งแต่กลางผมถึงปลายผม ห้ามให้ครีมนวดโดนบริเวณรอยต่อ (กาว, เทป, เคราติน) เพราะจะทำให้รอยต่อลื่นหลุดง่าย
การหวีผม (“หวีผมต่อ”)
-
- เลือกหวีที่เหมาะสม: ใช้แปรงสำหรับผมต่อโดยเฉพาะ (Looper Brush) หรือหวีซี่ห่าง
- วิธีการหวี: ใช้มือหนึ่งรวบผมบริเวณโคนผมหรือรอยต่อไว้ แล้วใช้มืออีกข้างค่อยๆ หวีจากปลายผมขึ้นมา วิธีนี้จะช่วยลดแรงดึงที่รอยต่อและหนังศีรษะ
การนอน (Sleeping)
-
- ห้ามนอนขณะผมเปียกเด็ดขาด! เพราะจะทำให้ผมพันกันอย่างรุนแรงและอาจเกิดเชื้อราได้
- ก่อนนอน ควรรวบผมเป็นหางม้าหลวมๆ หรือถักเปียหลวมๆ เพื่อป้องกันการพันกัน
- การนอนบนปลอกหมอนผ้าไหมหรือผ้าซาตินจะช่วยลดการเสียดสีได้ดี
การใช้ความร้อนและผลิตภัณฑ์ (Heat & Products)
-
- ป้องกันความร้อน ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อนทุกครั้งก่อนใช้อุปกรณ์ทำผม
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีออยล์ อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคนเข้มข้นบริเวณรอยต่อโดยตรง
การดูแลตามระยะ ไปพบช่างเพื่อปรับหรือถอดตามนัด
ผมต่อทุกประเภทมีอายุการใช้งาน ควรกลับไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการขยับรอยต่อขึ้น (สำหรับแบบเทป, ไมโครริง) หรือถอดออกตามกำหนดเวลา (โดยทั่วไปคือ 2-3 เดือน) อย่าพยายามถอดผมต่อเอง เพราะอาจทำให้ผมจริงของคุณหลุดร่วงและเสียหายอย่างหนัก
เคล็ดลับในการดูแลผมต่อ
- เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะสม เลือกใช้แชมพู ครีมนวด และทรีทเมนต์ที่อ่อนโยนต่อเส้นผม ไม่ทำร้ายหนังศีรษะ และมีส่วนผสมบำรุงผม เช่น เคอราติน โปรตีน หรือน้ำมันธรรมชาติ
- สระผมเบาๆ หลีกเลี่ยงการสระผมแรงๆ หรือขยี้ผมแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผมต่อหลุดได้ง่าย ควรสระผมวันเว้นวัน ตามความเหมาะสมของหนังศีรษะ
- หลีกเลี่ยงน้ำร้อน น้ำร้อนจะทำให้ผมแห้งเสียและทำให้กาวที่ใช้ติดผมต่ออ่อนตัวลง ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระผม
- ไม่ใช้ความร้อนสูง การใช้เครื่องมือทำผมที่ให้ความร้อนสูง เช่น ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม หรือเครื่องม้วนผม จะทำให้ผมเสียและกาวหลุดได้ง่าย ควรใช้ความร้อนในระดับต่ำ หรือหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนถ้าทำได้
- หวีผมเบาๆ ใช้หวีซี่ห่างและหวีผมเบาๆ โดยเริ่มจากปลายผมค่อยๆ เหวี่ยงขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้ผมต่อหลุด
- หลีกเลี่ยงการนอนทับผม การนอนทับผมอาจทำให้ผมต่อหลุดได้ง่าย ควรใช้หมอนผ้าไหม หรือหมอนที่ทำจากวัสดุที่นุ่ม
- หมั่นตัดแต่งปลายผม การตัดแต่งปลายผมเป็นประจำจะช่วยให้ผมต่อดูสุขภาพดีและป้องกันไม่ให้ผมแตกปลาย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์จะทำให้ผมแห้งและกาวหลุดได้ง่าย
การต่อผมให้สวยทนและไม่เจ็บนั้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน หากคุณเริ่มต้นด้วยการเลือกวิธีต่อผมและช่างที่เหมาะสม และที่สำคัญคือการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำข้างต้น การลงทุนเวลาในการดูแลผมต่ออย่างใส่ใจ จะช่วยให้คุณมีความสุขกับผมยาวสวยได้นานและคุ้มค่าที่สุด