ในปี 2025 ตลาด เครื่องสำอางสำหรับเด็ก เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มพ่อแม่ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวลูกตั้งแต่เล็ก และจากแบรนด์ที่ต้องการขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดกลุ่มเด็กโดยเฉพาะ ความปลอดภัย ความอ่อนโยน และความน่าเชื่อถือกลายเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชนิดสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นโลชั่น แป้ง สบู่ หรือครีมกันแดดสูตรเด็ก
พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่กับการเลือกเครื่องสำอางเด็ก
ข้อมูลจากแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ TikTok พบว่า ผู้ปกครองรุ่นใหม่มักค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “สูตรอ่อนโยน” หรือ “สำหรับผิวบอบบาง” มากขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังให้ความสนใจกับแบรนด์ที่มีข้อมูลการทดสอบทางผิวหนัง (Dermatologically Tested) หรือมีการรับรองจากสถาบันแพทย์ผิวหนัง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าใช้ได้กับลูกน้อยอย่างแท้จริง
สารสกัดธรรมชาติและสูตรที่ปลอดภัยมาแรง
ปี 2025 เป็นช่วงที่ตลาด เครื่องสำอางสำหรับเด็ก ให้ความสำคัญกับส่วนผสมจากธรรมชาติและความปลอดภัยเป็นพิเศษ แบรนด์จำนวนมากเริ่มปรับสูตรไปใช้วัตถุดิบที่มีการรับรองและผ่านการทดสอบความอ่อนโยน เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อผิวเด็กที่บอบบาง
- ข้าวโอ๊ต (Oat Extract) — ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง และเสริมเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ
- คาโมมายล์ (Chamomile Extract) — มีคุณสมบัติต้านการอักเสบตามธรรมชาติ เหมาะกับผิวที่ไวต่อการแพ้
- ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) — เติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวจากความแห้งกร้าน และลดอาการแสบแดง
- คาเลนดูล่า (Calendula Extract) — ช่วยเร่งการสมานแผลตามธรรมชาติของผิวเด็ก พร้อมให้ความรู้สึกสบายผิว
สารสกัดเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนจากวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเครื่องสำอางเด็ก หากต้องการดูรายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของสารสกัดแต่ละชนิด สามารถศึกษาได้ที่ รวมสารสกัดสกินแคร์ยอดนิยม ซึ่งครอบคลุมข้อมูลทั้งด้านการบำรุงผิว ความปลอดภัย และแหล่งที่มาอย่างครบถ้วน
แนวโน้มในปี 2025 แสดงให้เห็นชัดว่าตลาดกำลังเปลี่ยนจาก “สินค้าทั่วไป” ไปสู่ “สินค้าปลอดภัยที่มีงานวิจัยรองรับ” แบรนด์ที่เข้าใจและเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจะได้เปรียบในระยะยาว ทั้งในแง่ความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ทางการตลาด
ตลาดเครื่องสำอางเด็กในไทยและเอเชีย
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียนสำหรับกลุ่ม Baby & Kids Skincare โดยเฉพาะในหมวดโลชั่น ครีมกันแดด และแป้งเด็ก ขณะที่ในประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นก็เริ่มมีแบรนด์เฉพาะกลุ่มเด็กออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดนี้กำลังกลายเป็นโอกาสใหม่ของผู้ประกอบการไทย
โรงงาน OEM กับบทบาทสำคัญในตลาดเครื่องสำอางเด็ก
การเลือก โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่เชี่ยวชาญด้านสูตรเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการพัฒนาเครื่องสำอางสำหรับเด็กต้องอาศัยทีม R&D ที่เข้าใจความแตกต่างของผิวเด็กและกฎระเบียบทาง อย. การใช้วัตถุดิบที่ผ่านการรับรอง รวมถึงการผลิตในห้อง Cleanroom ตามมาตรฐาน GMP และ ISO เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อย่างมาก
สรุปแนวโน้มปี 2025
ตลาดเครื่องสำอางเด็กในปีนี้ไม่เพียงแต่ขยายตัวในเชิงปริมาณ แต่ยังพัฒนาเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดนี้ควรมุ่งเน้นความปลอดภัย โปร่งใส และการสื่อสารอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างความไว้วางใจระยะยาวกับผู้ปกครอง และนี่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ในธุรกิจ OEM ที่ไม่ควรมองข้าม
หากคุณต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ปลอดภัยและเหมาะกับผิวเด็ก ลองอ่านต่อในบทความ “วัตถุดิบและสารสกัดปลอดภัยในเครื่องสำอางเด็ก” เพื่อเรียนรู้ว่าควรเลือกส่วนผสมแบบใดสำหรับพัฒนาสูตรที่อ่อนโยนอย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อย
ตลาดเครื่องสำอางสำหรับเด็กในปี 2025 โตขึ้นแค่ไหน?
คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6–8% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวเด็ก
ทำไมผู้ปกครองยุคใหม่ถึงสนใจเครื่องสำอางเด็กมากขึ้น?
เพราะต้องการปกป้องผิวลูกจากสารเคมีรุนแรงและสิ่งแวดล้อม เช่น แสงแดดและมลภาวะ
เครื่องสำอางเด็กควรมีส่วนผสมแบบไหน?
ควรเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น oat, chamomile, calendula ที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัย
การผลิตเครื่องสำอางเด็กต้องใช้มาตรฐานอะไร?
ต้องผลิตภายใต้ GMP, ISO และมีการตรวจสอบจาก อย. เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะกับผิวเด็ก
เจ้าของแบรนด์ใหม่ควรเริ่มจากตรงไหน?
เริ่มจากการศึกษาตลาดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดและปลอดภัย