การต่อเล็บคืออะไร ดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง

ต่อเล็บ

การต่อเล็บ คือ การเสริมความยาวหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงเล็บด้วยวัสดุต่างๆ เช่น อะคริลิก เจล หรือ PVC เพื่อให้เล็บดูสวยงามและมีรูปร่างตามต้องการ การต่อเล็บเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการมีเล็บยาวสวยงาม แต่มีปัญหาเล็บฉีกหักง่าย หรือต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง

ประเภทของการต่อเล็บ

การต่อเล็บอะคริลิก เป็นการใช้ผงอะคริลิกผสมกับน้ำยา แล้วปั้นขึ้นรูปบนเล็บจริง จากนั้นจึงตกแต่งและทาสี

  • ข้อดี แข็งแรง ทนทาน และสามารถปรับแต่งรูปทรงได้หลากหลาย
  • ข้อเสีย มีกลิ่นฉุน และอาจทำให้เล็บจริงบางลงได้

การต่อเล็บโพลีเจลเป็นการต่อเล็บที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผสมผสานข้อดีของการต่อเล็บอะคริลิกและเจลเข้าด้วยกัน ทำให้ได้เล็บที่แข็งแรง ทนทาน และดูเป็นธรรมชาติ

  • ข้อดีของการต่อเล็บโพลีเจล
  • ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
  • ความเป็นธรรมชาติ
  • ไม่มีกลิ่นฉุน
  • น้ำหนักเบา

การต่อเล็บเจล เป็นการใช้เจลทาลงบนเล็บ แล้วอบด้วยแสง UV เพื่อให้เจลแข็งตัว

  • ข้อดี ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ทำลายเล็บจริงมากนัก
  • ข้อเสีย ไม่แข็งแรงเท่าอะคริลิก และอาจมีราคาสูงกว่า

การต่อเล็บ PVC เป็นการติดเล็บปลอมสำเร็จรูปบนเล็บจริงด้วยกาว

  • ข้อดี ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ราคาไม่แพง
  • ข้อเสีย ไม่ทนทาน และดูไม่เป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการต่อเล็บ

  • ช่วยให้เล็บดูยาวสวยงามและมีรูปร่างตามต้องการ
  • ช่วยปกปิดเล็บที่มีปัญหา เช่น เล็บฉีกหัก หรือเล็บไม่สม่ำเสมอ
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ต้องการมีเล็บสวยงาม
  • สามารถตกแต่งเล็บได้หลากหลายรูปแบบ

ข้อเสียของการต่อเล็บ

  • อาจทำให้เล็บจริงบางลงและอ่อนแอลงได้
  • อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้สารเคมีที่ใช้ในการต่อเล็บ
  • อาจทำให้เกิดเชื้อราใต้เล็บได้ หากดูแลรักษาความสะอาดไม่ดี
  • ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการต่อเล็บและดูแลรักษา
  • ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษา และต้องไปเติมโคนเล็บอยู่สม่ำเสมอ

การดูแลเล็บหลังการต่อเล็บ

การต่อเล็บเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมความงามให้กับเล็บ แต่หลังจากต่อเล็บแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เล็บที่ต่อมานั้นคงทนและสวยงามไปนานๆ นี่คือเคล็ดลับในการดูแลเล็บหลังการต่อ

  1. หลีกเลี่ยงการใช้เล็บโดยตรง หลังต่อเล็บ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ปลายเล็บโดยตรง เช่น การแกะ เกา หรือเปิดสิ่งของ เพราะอาจทำให้เล็บที่ต่อมานั้นหัก หรือหลุดได้ง่าย ใช้ปลายนิ้วมือหรือเครื่องมือช่วยในการหยิบจับสิ่งของแทนการใช้เล็บ
  2. ดูแลรักษาความสะอาด รักษาความสะอาดของเล็บและมืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรค หลังสัมผัสสารเคมีหรือสิ่งสกปรก ควรล้างมือและทำความสะอาดเล็บทันที
  3. บำรุงเล็บและหนังรอบเล็บ ทาออยล์บำรุงเล็บและหนังรอบเล็บเป็นประจำ เพื่อให้เล็บและหนังรอบเล็บชุ่มชื้นและแข็งแรง เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บที่มีส่วนผสมของวิตามินอีหรือน้ำมันจากธรรมชาติ
  4. หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีรุนแรง เช่น น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาอะซิโตน เพราะอาจทำให้เล็บที่ต่อมานั้นเสื่อมสภาพ หากจำเป็นต้องสัมผัสสารเคมี ควรใส่ถุงมือป้องกัน
  5. เติมหรือเปลี่ยนเล็บตามกำหนด ควรไปเติมหรือเปลี่ยนเล็บตามกำหนดเวลาที่ช่างทำเล็บแนะนำ เพื่อรักษาความสวยงามและสุขภาพของเล็บ การปล่อยเล็บที่ต่อมาไว้นานเกินไป อาจทำให้เล็บจริงเสียหายได้
  6. พักเล็บบ้าง หลังจากการต่อเล็บ ควรให้เล็บได้พักบ้าง เพื่อให้เล็บจริงได้ฟื้นฟู การพักเล็บจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเล็บ เช่น เล็บอ่อนแอ หรือเล็บเป็นเชื้อรา
Scroll to Top