กระแสความหอมแนวชาและมัทฉะกำลังขยายตัวทั่วเอเชียอย่างชัดเจนในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการน้ำหอมแบบเบา สงบ สะอาด และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ความนิยมในแนวกลิ่น Minimal & Zen มาจากเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้บริโภคที่ต้องการความเรียบง่าย การปล่อยวาง และการมองหากลิ่นที่ช่วยเสริมสมาธิหรือสร้างบรรยากาศที่สงบระหว่างวัน แนวชาและมัทฉะจึงกลายเป็นกลุ่มกลิ่นที่ตอบโจทย์มากที่สุด เพราะมีความโปร่งเบาไม่ฉุน เข้ากับอากาศร้อนชื้น และยังสามารถนำไปผสมกับแนว Clean, Musk หรือ Citrus ได้อีกหลายแบบ ขณะเดียวกัน แบรนด์ที่ต้องการสร้างสินค้าน้ำหอมใหม่กับผู้ให้บริการในหมวด สร้างแบรนด์น้ำหอม เริ่มจับตาแนวนี้มากขึ้น เพราะเป็นกลิ่นที่เข้าถึงคนหมู่มาก ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และผู้ใช้สาย Unisex จนเกิดยอดค้นหาและรีวิวในโซเชียลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ภาพรวมความนิยมของกลิ่น Tea & Matcha ในปี 2025
- ลักษณะกลิ่นของชาและมัทฉะในงานน้ำหอม
- กลิ่นชาแบบไหนที่ผู้ใช้ไทยชอบมากที่สุด?
- ทำไม Matcha ถึงเป็นกลิ่นที่แบรนด์ใหม่เลือกใช้มากขึ้น?
- ตัวอย่างโทนที่นิยมผสมกับกลิ่น Matcha
- สอดคล้องกับเทรนด์ Minimal & Zen ของปี 2025
- พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกับกลิ่นแนวชา
- โอกาสสำหรับแบรนด์ที่ต้องการพัฒนากลิ่นชา & มัทฉะ
- การนำเทคนิค Layering กับกลิ่นชา
- สรุปแนวโน้มปี 2025
- คำถามพบบ่อย
ภาพรวมความนิยมของกลิ่น Tea & Matcha ในปี 2025

กลิ่นชาและมัทฉะเป็นหนึ่งในกลิ่นที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและ Gen Z ที่ต้องการความหอมแบบ “ไม่ตั้งใจแต่มีตัวตน” ซึ่งเป็นหัวใจของแนว Minimal & Zen
เหตุผลที่ได้รับความนิยม
- ให้ความรู้สึกสงบ ลดความตึงเครียดระหว่างวัน
- โปร่งเบา ไม่ฉุน เหมาะกับพื้นที่ทำงาน
- เข้ากับอากาศร้อนชื้นของไทยได้ดี
- เป็นกลิ่นที่ผสมกับโทนอื่นได้หลากหลาย
- เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ดูดี
ลักษณะกลิ่นของชาและมัทฉะในงานน้ำหอม
แม้จะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ชาและมัทฉะมีโทนกลิ่นที่แตกต่างอย่างชัดเจน ทำให้สามารถนำไปสร้างบุคลิกกลิ่นได้หลากหลายแบบ
Tea Accord
กลิ่นชาที่นิยมในงานน้ำหอมประกอบด้วยชาเขียว ชาขาว และชาดำ โดยแต่ละแบบให้โทนที่ต่างกัน เช่น สดชื่น สะอาด หรืออบอุ่นแบบ Earthy
Matcha Accord
มัทฉะให้กลิ่นที่มีความนุ่ม ละมุน และมีมิติแบบครีมบางๆ เพิ่มความลึกให้โครงสร้างกลิ่นแบบ Clean และ Fresh
กลิ่นชาแบบไหนที่ผู้ใช้ไทยชอบมากที่สุด?
ข้อมูลจากรีวิวแพลตฟอร์มออนไลน์และยอดค้นหาแสดงให้เห็นว่ากลิ่นชาเขียวและชาขาวคือกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทย
| ประเภทชา | บุคลิกกลิ่น | ความนิยม |
|---|---|---|
| ชาเขียว | สดชื่น โปร่งเบา คลีน | สูง |
| ชาขาว | หอมสะอาดแบบ Soft | สูงมาก |
| ชาดำ | อบอุ่น ลุ่มลึก | ปานกลางแต่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง |
| มัทฉะ | นุ่ม ละมุน มีความครีมบางๆ | สูงในกลุ่ม Minimal & Zen |
ทำไม Matcha ถึงเป็นกลิ่นที่แบรนด์ใหม่เลือกใช้มากขึ้น?
มัทฉะเป็นกลิ่นที่ให้ภาพลักษณ์สงบ สุขุม และพรีเมียมในเวลาเดียวกัน จึงถูกใช้มากในน้ำหอมแนว Clean และกลิ่นสำหรับวัยทำงาน
จุดเด่นที่ทำให้ต้องมีในปีนี้
- สร้างความแตกต่างให้กลิ่น Clean ได้ดี
- มีบุคลิกเฉพาะตัว ไม่เหมือนกลิ่นสมุนไพรหรือ Citrus ทั่วไป
- เข้ากับเทรนด์มินิมอลในไทย
- ผสมกับ Musk หรือ Soft Floral ได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างโทนที่นิยมผสมกับกลิ่น Matcha
นักปรุงกลิ่นนิยมใช้มัทฉะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโทนต่างๆ เพื่อสร้างความละมุนและความนวลของกลิ่น
โทนที่เข้ากันได้ดี
- Soft Musk
- White Tea
- Vanilla Milk
- Powdery Clean
- Earthy Green
สอดคล้องกับเทรนด์ Minimal & Zen ของปี 2025

การเพิ่มขึ้นของกลิ่นชาและมัทฉะสอดคล้องกับกระแสความเรียบง่ายที่เติบโตในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงเครื่องสำอาง ผู้ใช้ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซับซ้อน ใช้ง่าย และให้ Mood ที่ดีต่อใจ ซึ่งเชื่อมโยงกับเทรนด์กลิ่นอื่นๆ เช่น Skin Scent แนวกลิ่นเหมือนผิวสะอาด หรือ Warm Vanilla & Milk Accord
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกับกลิ่นแนวชา
ผู้ใช้ไทยมองหากลิ่นที่ “ใช้งานได้จริง” มากกว่ากลิ่นที่ฟุ้งแรงจนกลบรัศมีคนรอบตัว ทำให้กลิ่นชาและมัทฉะตอบโจทย์อย่างมากทั้งในที่ทำงาน โรงเรียน และพื้นที่สาธารณะ
เหตุผลสำคัญ
- หอมสุภาพ ไม่รบกวนผู้อื่น
- ให้ภาพลักษณ์ดูอบอุ่นและมีสติ
- กลิ่นติดผิวนุ่มๆ แบบ Zen
- เหมาะกับทั้งชายและหญิง
โอกาสสำหรับแบรนด์ที่ต้องการพัฒนากลิ่นชา & มัทฉะ
แบรนด์ไทยมีโอกาสเติบโตสูงมากในกลุ่มนี้ เนื่องจากตลาดยังเปิดกว้างและคู่แข่งไม่หนาแน่นเท่ากลิ่นแนว Musk หรือ Citrus
แนวทางสร้างโครงสร้างกลิ่นที่น่าสนใจ
- ใช้ White Tea เป็น Top note เพื่อความโปร่งสดชื่น
- ใช้ Matcha เป็น Heart note ให้ความนุ่มและมั่นใจ
- ปิดฐานด้วย Soft Musk เพื่อความติดผิวนานขึ้น
การนำเทคนิค Layering กับกลิ่นชา

ผู้ใช้จำนวนมากนิยมฉีดน้ำหอมแบบเลเยอร์เพื่อให้ได้กลิ่นเฉพาะตัว แนวชาเหมาะกับการผสมกับกลิ่นอื่น เช่น Layering Perfume
สูตรการเลเยอร์ยอดนิยม
- White Tea + Soft Floral → สดชื่นและอ่อนหวาน
- Matcha + Vanilla → อบอุ่นละมุน
- Green Tea + Musk → สะอาด โปร่ง สบาย
สรุปแนวโน้มปี 2025
กลิ่น Tea & Matcha เป็นหนึ่งในกลิ่นที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย เพราะให้ความเรียบง่าย สะอาด นิ่มนวล และมีความทันสมัยแบบไม่พยายามจนเกินไป แบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างควรจับกระแสนี้ตั้งแต่ต้นปี เพราะกลิ่นแนวชาเริ่มกลายเป็นกลิ่นประจำตัวของผู้ใช้ไทยจำนวนมากแล้ว พร้อมโอกาสขยายตลาดไปสู่ผู้ใช้สาย Minimal, Zen และ Clean Beauty ที่มาแรงทั่วภูมิภาค
คำถามพบบ่อย
กลิ่นชาเขียวกับมัทฉะต่างกันอย่างไร?
ชาเขียวหอมสดชื่นโปร่งเบา ส่วนมัทฉะให้ความนุ่มละมุนและมีความครีมบางๆ เพิ่มความลึกของกลิ่น
กลิ่นแนว Minimal & Zen เหมาะกับใคร?
เหมาะกับคนที่ต้องการความหอมแบบสุภาพ ไม่ฉุน และเข้ากับทุกสถานการณ์
กลิ่นมัทฉะติดทนนานไหม?
ติดทนนานปานกลาง ขึ้นอยู่กับสูตรและระดับน้ำหอมที่ใช้
กลิ่นชาเหมาะกับการเลเยอร์หรือไม่?
เหมาะมาก เพราะผสมได้ทั้ง Floral, Musk และ Vanilla ทำให้เกิดมิติใหม่ของกลิ่น
แนวกลิ่นชาได้รับความนิยมในกลุ่มเพศใด?
เป็นกลิ่น Unisex ใช้ได้ทั้งชายและหญิงเพราะมีความสะอาดเรียบง่าย
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



