ปี 2025 นับเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมสกินแคร์ไทยกำลังถูกจับตามองอย่างมาก ทั้งจากเจ้าของแบรนด์ นักลงทุน และผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานครีม ในประเทศไทยไม่เพียงเป็นผู้ผลิตในประเทศ แต่ยังขยายบทบาทสู่การเป็นศูนย์กลางการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน จีน และตะวันออกกลาง การทำความเข้าใจสถิติและแนวโน้มล่าสุดจึงช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำขึ้น
มูลค่าตลาดครีมไทยในปี 2025
จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย คาดว่ามูลค่าตลาดครีมและสกินแคร์ในประเทศจะอยู่ที่กว่า 3.2 แสนล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยราว 8% ต่อปี สะท้อนถึงความต้องการที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน
สถิติอุตสาหกรรมครีมไทยกับการเติบโตของตลาดเครื่องสำอาง 2025
เมื่อมองภาพรวม สถิติการเติบโตของโรงงานครีมไทยในปี 2025 สอดคล้องกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยโดยรวม การวิเคราะห์ตลาดล่าสุดชี้ว่าแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคและเลือกทำงานกับโรงงานที่มีมาตรฐาน จะสามารถเข้าสู่กลุ่ม แบรนด์ทำเงินในตลาดเครื่องสำอางไทย 2025 ได้ง่ายขึ้น
โรงงานครีมไทยในเชิงโครงสร้าง
ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมี โรงงานครีมและเครื่องสำอางที่ได้รับมาตรฐาน GMP มากกว่า 1,500 แห่ง และจำนวนไม่น้อยยังได้รับการรับรอง ISO 22716 หรือมาตรฐานฮาลาล ซึ่งทำให้สามารถแข่งขันในตลาดมุสลิมได้
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ในปี 2025 ผลิตภัณฑ์ที่มียอดการผลิตสูงสุดในโรงงานรับผลิตครีมของไทยได้แก่:
- ครีมกันแดด SPF สูง – รองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ครีมลดสิวและผลิตภัณฑ์รักษาผิววัยรุ่น – ตอบโจทย์กลุ่ม Gen Z
- ครีมเวชสำอาง – เน้นการรักษาผิวเฉพาะทาง เช่น ฝ้า กระ ริ้วรอย
- ครีมบำรุงผิวไวท์เทนนิ่ง – ยังคงเป็นที่นิยมในตลาด CLMV และจีน
แนวโน้มการส่งออกครีมไทย
ตลาดส่งออกของโรงงานครีมของไทยยังคงขยายตัว โดยเฉพาะ:
- จีน – มีความต้องการสูงด้านครีมไวท์เทนนิ่งและกันแดด
- CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) – ตลาดใกล้เคียงที่เข้าถึงง่าย
- ตะวันออกกลาง – สนใจครีมฮาลาลและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
สถิติการเติบโตของเจ้าของแบรนด์ใหม่
สรุปในปี 2025 มีเจ้าของแบรนด์ใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมมากขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2024 ที่ผ่านมาโดยเลือกผลิตกับโรงงานครีมสกินแคร์ไทยเพราะต้นทุนที่ยืดหยุ่น (MOQ ต่ำ) และการสนับสนุนจากภาครัฐด้าน Start-up และ SME ซึ่งสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการคำนวณต้นทุนผลิตครีม และ MOQ อย่างแม่นยำ ได้เพิ่มเติม
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ปัจจัยที่ทำให้โรงงานครีมไทยแข็งแกร่งในอาเซียน
- โรงงานครีมไทย vs เกาหลีในมุมเปรียบเทียบ
- การเลือกโรงงานครีมเพื่อบุกตลาดต่างประเทศ
- รีวิวเจ้าของแบรนด์กับโรงงานครีมไทย
สรุป
สถิติอุตสาหกรรมโรงงานครีมไทยในปี 2025 ชี้ชัดว่า ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญของอาเซียน และกำลังขยายอิทธิพลสู่ตลาดโลก เจ้าของแบรนด์ที่เลือกทำงานกับโรงงานไทยจึงได้รับทั้งความได้เปรียบด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความเข้าใจผู้บริโภคท้องถิ่น เมื่อจับคู่กับการวิเคราะห์เทรนด์ตลาด จะช่วยให้การสร้างแบรนด์มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
ปัจจุบันไทยมีโรงงานครีมกี่แห่ง?
มีมากกว่า 1,500 แห่งที่ผ่านมาตรฐาน GMP และบางแห่งได้รับ ISO และฮาลาล
ผลิตภัณฑ์ใดที่ได้รับความนิยมในการผลิตมากที่สุด?
ครีมกันแดด ครีมลดสิว และครีมเวชสำอางเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาแรง
ตลาดส่งออกหลักของครีมไทยคือที่ไหน?
ตลาดหลักได้แก่ จีน CLMV และตะวันออกกลาง โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นฮาลาลและไวท์เทนนิ่ง
การเติบโตของเจ้าของแบรนด์ใหม่ในปี 2025 เป็นอย่างไร?
เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยอาศัยจุดแข็งของโรงงานครีมไทยที่มี MOQ ต่ำและต้นทุนยืดหยุ่น
ไทยมีความได้เปรียบอะไรเหนือคู่แข่งในอาเซียน?
ไทยมีสมุนไพรท้องถิ่น มาตรฐานการผลิตสูง และแรงงานที่มีทักษะ จึงถูกมองว่าเป็นฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ