เกาหลีใต้ถือเป็นผู้นำด้าน K-Beauty มายาวนาน ในขณะที่ประเทศไทยก็กำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการรับผลิตเครื่องสำอางในอาเซียน ทำให้เจ้าของแบรนด์จำนวนมากเกิดคำถามว่า หากจะเริ่มสร้างแบรนด์สกินแคร์ ควรเลือกผลิตกับโรงงานรับผลิตในไทยหรือเกาหลีจึงจะได้เปรียบ ทั้งสองประเทศมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน เนื้อหาด้านธุรกิจการผลิตสกินแคร์และเครื่องสำอางนี้จะพาไปเจาะลึกความเหมือนและความต่าง เพื่อช่วยตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
จุดแข็งของโรงงานครีมเกาหลี

ประเทศเกาหลีมีชื่อเสียงในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมความงาม K-Beauty Trend ทำให้โรงงานครีมเกาหลีมีจุดแข็งที่น่าสนใจ:
- เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมสูตรใหม่ เช่น Exosome, Snail Mucin, Probiotic Skincare
- มีภาพลักษณ์ผู้นำด้าน “เทรนด์ K-Beauty” ที่ช่วยให้แบรนด์ดึงดูดผู้บริโภคได้ง่าย
- มีการทดสอบ Clinical Proof อย่างเข้มงวดและชัดเจน
- ได้รับการยอมรับในตลาดสากล โดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐฯ
จุดแข็งของโรงงานครีมไทย

แม้จะไม่มีภาพลักษณ์ระดับโลกแบบเกาหลี แต่โรงงานผลิตครีม OEM ไทยกลับมีความได้เปรียบในมุมอื่น:
- มีสมุนไพรและสารสกัดท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น ขมิ้น ใบบัวบก มะขาม
- มาตรฐานการผลิต GMP, ISO และ Halal ครอบคลุม
- สามารถผลิตใน MOQ ที่ต่ำ เหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์เริ่มต้น
- ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าเกาหลี แต่ยังคงรักษาคุณภาพได้
- ความเข้าใจตลาดอาเซียนและพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น
ข้อควรพิจารณาในการเลือก

สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ควรถามตัวเองก่อนตัดสินใจคือ:
- ตลาดเป้าหมายอยู่ในประเทศ/ภูมิภาคไหน
- ต้องการภาพลักษณ์แบรนด์แบบ K-Beauty หรือ Thai Herbal
- งบประมาณการผลิตและขนาดล็อตที่สามารถลงทุนได้
- ความพร้อมของโรงงานด้านการทำเอกสารส่งออกและกฎหมาย
โอกาสของเจ้าของแบรนด์สกินแคร์ในไทย

แม้ เค-บิวตี้ จะยังเป็นที่นิยม แต่โรงงานครีมไทยกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นจากการผสมผสานระหว่างมาตรฐานการผลิตและการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เจ้าของแบรนด์ไทยที่ผลิตในประเทศยังได้เปรียบด้านต้นทุน โลจิสติกส์ และการสนับสนุนจากภาครัฐ ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างจุดขายด้าน “Thai Herbal Skincare” เพื่อแข่งขันกับ K-Beauty ได้อย่างน่าสนใจ
สรุป
การเลือกโรงงานผลิตครีมไทย หรือ เกาหลีขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแบรนด์ หากต้องการเจาะตลาดพรีเมียมระดับโลกและใช้นวัตกรรมล้ำสมัย เกาหลีอาจเป็นคำตอบ แต่ถ้าเป้าหมายคือการสร้างแบรนด์ที่จับต้องได้ในอาเซียนและมีความแตกต่างด้วยสมุนไพรไทย การเลือกโรงงานครีมไทยก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ข้อได้เปรียบของโรงงานครีมไทยในอาเซียน
- Thai Botanical & Local Story Skincare
- สถิติอุตสาหกรรมโรงงานครีมไทยล่าสุด
- โรงงานผลิตครีมกันแดด SPF สูงสำหรับเอเชีย
- โรงงานครีมที่เหมาะกับการส่งออก EU/จีน
คำถามที่พบบ่อย
ทำไม K-Beauty ถึงยังได้รับความนิยม?
เพราะเกาหลีมีภาพลักษณ์นวัตกรรมและกระแสที่แข็งแรง ทำให้แบรนด์ดึงดูดผู้บริโภคได้ง่าย
โรงงานครีมไทยสามารถแข่งกับเกาหลีได้หรือไม่?
สามารถแข่งได้ในด้านต้นทุน ความยืดหยุ่น และการใช้สมุนไพรท้องถิ่นเป็นจุดขาย
ต้นทุนการผลิตในไทยต่างจากเกาหลีมากไหม?
โดยเฉลี่ยแล้วไทยมีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจ
หากต้องการส่งออกไปยุโรปควรเลือกที่ไหน?
ทั้งไทยและเกาหลีสามารถผลิตเพื่อส่งออกได้ แต่เกาหลีมีชื่อเสียงด้าน Clinical Proof ส่วนไทยได้เปรียบด้านต้นทุนและเอกสารอาเซียน
เจ้าของแบรนด์ใหม่ควรเลือกโรงงานไทยหรือเกาหลี?
ขึ้นอยู่กับตลาดเป้าหมาย ถ้าเน้นท้องถิ่นและเริ่มต้นเล็ก แนะนำไทย แต่ถ้าต้องการภาพลักษณ์ระดับโลก เกาหลีน่าสนใจกว่า
Wise Plus Grow เข้าใจทุกความต้องการของเจ้าของแบรนด์
Wise Plus Grow คือ โรงงานผลิตครีม โรงงานเครื่องสำอาง และโรงงานสกินแคร์ ที่ได้รับมาตรฐานสากล ASEAN GMP และ ISO 22716 ให้บริการรับผลิตแบบ OEM ODM OBM ที่ครบวงจร ตั้งแต่พัฒนาสูตร ผลิต ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการตลาด ทีม R&D ของเราพร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในตลาดจริง
- มาตรฐานการผลิตระดับสากล ASEAN GMP & ISO 22716
- ทีม R&D วิจัยและพัฒนาสูตรเฉพาะแบรนด์
- บริการครบวงจร OEM ODM OBM จบในที่เดียว
- มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วอาเซียน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
สำนักงานใหญ่: บริษัท ไวส์พลัสโกร จำกัด (Wise Plus Grow Co., Ltd.)
ที่อยู่: เลขที่ 323 หมู่ 19 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี 34000
โทรศัพท์: 063-554-2465
LINE: @wiseplusgrow
Email: wiseplusgrow324@gmail.com
เวลาทำการ: 09:00 น. – 17:00 น.
วันทำการ: จันทร์ – อาทิตย์
สอบถามออนไลน์: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง



