เคยสงสัยไหมว่าครีมที่เรากำลังใช้ หรือกำลังจะวางขาย มีการจดแจ้งถูกต้องจริงหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนฉลาก แต่คือสิ่งที่บอกความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของสินค้า เช็คเลขที่จดแจ้งครีม จึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจขึ้น และทำให้เจ้าของแบรนด์ลดความเสี่ยงทางกฎหมายและการตลาด
วิธีเช็คเลขจดแจ้ง อย. ด้วยตัวเองง่ายๆ
- เลขจดแจ้งครีมคืออะไร
- ช่องทางเช็คเลขที่จดแจ้งครีม
- เลขจดแจ้งครีม ต่างจากเลข อย. 13 หลักปกติอย่างไร?
- วิธีอ่านผลลัพธ์ให้มั่นใจ
- ปัญหาที่เจอบ่อย
- สำหรับเจ้าของแบรนด์ครีม ควรทำอย่างไร
- กรณีศึกษาที่เจอได้บ่อยในตลาดครีมและสกินแคร์ต่างๆ
- สรุป เมื่อไหร่ควรเช็คเลขจดแจ้งครีม เมื่อไหร่ควรดูเลข อย 13 หลัก
- คำถามที่พบบ่อย
เลขจดแจ้งครีมคืออะไร
เลขจดแจ้งคือรหัสที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อยืนยันว่าได้มีการยื่นข้อมูลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่อหน่วยงานแล้ว โดยเฉพาะครีม โลชั่น และเจลครีมที่ผู้บริโภคใช้กับผิวทุกวัน จุดนี้ต่างจากเลข อย 13 หลักที่ใช้กับบางหมวด เช่น อาหารหรือยา ซึ่งเป็นระบบอนุญาตที่เข้มข้นกว่า
ช่องทางเช็คเลขที่จดแจ้งครีม
ทุกวันนี้สามารถตรวจสอบได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บ แอป หรือ LINE
- เว็บไซต์ อย. : เข้าเมนูค้นหา เลือกหมวดเครื่องสำอาง กรอกเลขจดแจ้งหรือชื่อครีม แล้วเทียบข้อมูลกับฉลาก
- แอป Oryor Smart : ใช้มือถือพิมพ์เลขหรือสแกน QR Code สะดวกและรวดเร็ว
- LINE: @FDATHAI : เพิ่มเพื่อนแล้วเลือกเมนูตรวจสอบเลขผลิตภัณฑ์ กรอกเลขจดแจ้ง และเก็บผลลัพธ์ไว้เป็นหลักฐาน
เลขจดแจ้งครีม ต่างจากเลข อย. 13 หลักปกติอย่างไร?
หลายคนมักสับสนระหว่างเลขจดแจ้งครีมกับเลข อย 13 หลักที่ใช้ในหมวดอาหารและยา ความจริงแล้วทั้งสองแบบมีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างความปลอดภัย แต่ขั้นตอนและรายละเอียดต่างกัน หากต้องการดูภาพรวมของทุกหมวดผลิตภัณฑ์ ลองอ่านต่อที่ เช็คเลข อย 13 หลักง่ายๆ
วิธีอ่านผลลัพธ์ให้มั่นใจ
เวลาค้นเจอข้อมูล อย่าหยุดแค่เห็นว่ามีเลขตรง แต่ควรอ่านรายละเอียดให้ครบ:
- ชื่อผลิตภัณฑ์ต้องตรงกับฉลาก ไม่สะกดเพี้ยน
- ประเภทต้องเป็นครีม โลชั่น หรือเจลครีมจริงๆ
- ชื่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องตรงกับที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์
- สถานะต้องยังใช้ได้ ไม่ถูกเพิกถอนหรือหมดอายุ
ปัญหาที่เจอบ่อย
แม้จะมีเลขจดแจ้ง แต่ก็ยังมีเคสที่น่าระวัง เช่น
- เปลี่ยนสูตรครีมแต่ยังใช้เลขเดิมโดยไม่อัปเดต
- ฉลากโฆษณาเกินจริง เช่นอ้างรักษาโรค ทั้งที่เป็นเครื่องสำอาง
- ผลค้นหาระบุผู้ผลิตไม่ตรงกับที่อยู่บนฉลาก
สำหรับเจ้าของแบรนด์ครีม ควรทำอย่างไร
หากคุณกำลังเริ่มต้นทำแบรนด์ สิ่งสำคัญคือการวางระบบเอกสารตั้งแต่วันแรก ควรขอสำเนาหมายเลขจดแจ้งจากโรงงาน ตรวจสอบฉลาก และเก็บบันทึกอย่างเป็นระบบ รวมถึงติดตามสถานะของเลขจดแจ้งเป็นระยะ เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง หากยังไม่มั่นใจ สามารถดูคู่มือ วิธีขอ อย เครื่องสำอาง หรือปรึกษาโรงงานที่มีประสบการณ์ ผลิตครีม OEM ได้โดยตรง
กรณีศึกษาที่เจอได้บ่อยในตลาดครีมและสกินแคร์ต่างๆ
เช่น ครีมที่มีเลขจดแจ้งจริงแต่โฆษณาเกินจริง หรือเปลี่ยนสูตรโดยไม่อัปเดตเอกสาร กรณีเหล่านี้อยได้อธิบายไว้ในภาพรวมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทุกประเภท หากต้องการเห็นมิติที่กว้างกว่าครีม แนะนำให้อ่านที่ กรณีผลิตภัณฑ์มีเลข อย จริง แต่ไม่ได้มาตรฐานเสมอไป
สรุป เมื่อไหร่ควรเช็คเลขจดแจ้งครีม เมื่อไหร่ควรดูเลข อย 13 หลัก
- หากเป็นครีมบำรุงผิว โลชั่น หรือเจลครีม → ใช้เลขจดแจ้งเครื่องสำอาง
- หากเป็นอาหาร ยา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพหมวดอื่น → ใช้เลข อย 13 หลัก
ดังนั้นถ้าคุณอยากรู้การตรวจสอบแบบครบทุกหมวด สามารถไปต่อที่ คู่มือเช็คเลข อย 13 หลัก ซึ่งอธิบายภาพรวมอย่างละเอียด
คำถามที่พบบ่อย
1.เลขจดแจ้งครีมดูตรงไหนบนฉลาก
โดยมากจะอยู่ด้านหลังฉลาก ใกล้ส่วนผสมหรือข้อมูลผู้ผลิต
2.ถ้าเช็คแล้วไม่พบข้อมูลต้องทำอย่างไร
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือกหมวดเครื่องสำอาง กรอกเลขครบถ้วน หากยังไม่พบควรเก็บหลักฐานและติดต่อผู้ขายหรือหน่วยงาน อย
3.เลขจดแจ้งหมดอายุได้ไหม
หากสถานะในระบบขึ้นเพิกถอนหรือยุติ แสดงว่าไม่สามารถใช้หรือจำหน่ายได้จนกว่าจะมีการแก้ไข
4.รีฟอร์มูลาครีมต้องอัปเดตเลขจดแจ้งหรือไม่
ควรอัปเดตทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมสำคัญหรือข้อความบนฉลาก
5.เช็คผ่าน LINE @FDATHAI น่าเชื่อถือหรือเปล่า
เป็นช่องทางทางการ ใช้ตรวจสอบเบื้องต้นได้ และสามารถแจ้งเบาะแสหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วย