แพ้ครีม หน้าแสบ คัน แดง ลอก? รู้สาเหตุ พร้อมวิธีดูแลผิวแพ้ง่ายให้ปลอดภัย

เคยไหม… ใช้ครีมตัวใหม่แค่ไม่กี่วันแล้วรู้สึกหน้าแสบ คัน แดง หรือลอก ทั้งที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรในชีวิตเลย? หลายคนอาจคิดว่า “แค่ไม่ถูกกับครีม” แต่จริง ๆ แล้วอาการแบบนี้อาจเป็นสัญญาณของ “การแพ้ครีม” โดยเฉพาะในคนที่มีเกราะผิวอ่อนแอหรือผิวแพ้ง่ายโดยไม่รู้ตัว สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยคือ แอลกอฮอล์ระเหยไว เช่น Ethanol หรือ Alcohol Denat. ซึ่งมักแฝงอยู่ในครีมเพื่อช่วยให้เนื้อสัมผัสดูบางเบา ซึมเร็ว แต่กลับทำให้ผิวแห้งตึง ระคายเคือง และเปิดทางให้การอักเสบตามมาโดยไม่รู้ตัว เนื้อหานี้จะพาคุณรู้ทันอาการแพ้จากสารระคายเคืองในครีม พร้อมวิธีอ่านฉลาก เลือกสูตรอ่อนโยนให้เหมาะกับผิวของคุณ และหากคุณคือคนหนึ่งที่อยากพัฒนาสูตรครีมที่ปลอดภัยจริงสำหรับแบรนด์ของตัวเอง ก็มีคำแนะนำในการทำงานร่วมกับ โรงงานผลิตครีม ที่เข้าใจโครงสร้างผิวแพ้ง่ายและช่วยพัฒนาสูตรอย่างมืออาชีพให้คุณได้เริ่มต้นอย่างมั่นใจเช่นกัน

อาการแพ้ครีมเป็นยังไง? รู้ให้ชัดก่อนผิวพังโดยไม่รู้ตัว

หลายคนเข้าใจผิดว่าอาการแพ้ครีมคือ “สิวขึ้น” ธรรมดา แต่ความจริงแล้ว “อาการแพ้ครีม” มักเกิดขึ้นฉับพลันและส่งผลต่อผิวได้รุนแรงกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อมีสารระคายเคืองอย่างแอลกอฮอล์หรือกรดเข้มข้นแฝงอยู่ในสูตร หากคุณมีอาการเหล่านี้หลังเริ่มใช้ครีมใหม่ในไม่กี่วัน อาจเข้าข่ายอาการแพ้:

• ผิวแดง ร้อนผ่าว: โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง หรือรอบปาก
• คันยุบยิบ หรือแสบผิว: แสบทันทีหลังทา หรือรู้สึกระคายแม้ไม่ได้โดนอะไร
• ลอกเป็นขุย ผิวตึง: สัมผัสแล้วสาก ไม่เนียน และรู้สึกตึงตลอดเวลา
• สิว ผด ผื่นขึ้นแบบฉับพลัน: โดยเฉพาะแบบไม่มีหัว หรือเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ
• แสบหน้าหลังล้าง/โดนแดด: รู้สึกหน้าร้อนผ่าวแม้เจอแดดอ่อน หรือใช้น้ำธรรมดาล้างหน้า

หากคุณหยุดใช้ครีมแล้วอาการค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน นั่นอาจเป็นสัญญาณชัดเจนว่า “คุณกำลังแพ้สารบางอย่างในครีม” ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารผลัดเซลล์ผิวที่แรงเกินไปกับผิวคุณ

แอลกอฮอล์ในครีมทุกตัวแย่ไหม? รู้ให้ลึกก่อนตัดสินใจเลี่ยงผิด!

หลายคนเข้าใจว่า “แอลกอฮอล์” ในครีมคือสิ่งที่ต้องเลี่ยงทั้งหมด แต่ความจริงแล้ว แอลกอฮอล์มีหลายประเภท — บางชนิดระคายเคืองผิวได้ง่าย โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย แต่บางชนิดกลับช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้เนื้อครีมเนียนนุ่มขึ้นอีกด้วย ลองมาทำความเข้าใจแบบไม่ต้องกลัวผิดพลาด:

• แอลกอฮอล์ที่ควรเลี่ยง: 
  SD Alcohol, Ethanol, Alcohol Denat., Isopropyl Alcohol→ เป็นแอลกอฮอล์แบบ “ระเหยไว” ที่พบในครีมซึมเร็ว สเปรย์หน้า หรือโทนเนอร์ ช่วยให้รู้สึกบางเบา แต่สามารถดึงน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวแห้ง แสบ ลอกง่าย
• แอลกอฮอล์ที่ไม่ต้องกลัว:
  Cetearyl Alcohol, Cetyl Alcohol, Stearyl Alcohol→ เรียกว่า “Fatty Alcohol” มีคุณสมบัติคล้ายมอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ครีมเนื้อเนียน ใช้ได้แม้ในผิวแพ้ง่าย และพบได้ในครีมบำรุงทั่วไป

ดังนั้น เวลาอ่านฉลากครีม อย่าตกใจทุกครั้งที่เห็นคำว่า “Alcohol” แต่ให้สังเกตต่อท้ายว่าเป็นชนิดไหน — ถ้าเจอ Alcohol Denat. อยู่ลำดับต้น ๆ ของส่วนผสม และคุณมีผิวบอบบาง ควรเลี่ยง แต่ถ้าเป็น Cetearyl Alcohol ในอันดับกลาง–ท้าย มักไม่เป็นอันตรายครับ

เลือกครีมยังไงให้ปลอดภัยกับผิวแพ้ง่าย? ไม่แพ้ซ้ำ ไม่หน้าพังซ้ำ

สำหรับคนผิวแพ้ง่าย การเลือกครีมไม่ใช่แค่ “ดูรีวิว” หรือ “ตามแบรนด์ดัง” เท่านั้น แต่ต้องดูให้ลึกถึงส่วนผสมและการทดสอบกับผิวจริง ๆ ลองทำตาม 4 ข้อนี้ แล้วคุณจะมั่นใจได้มากขึ้นว่าครีมที่เลือกจะไม่ทำร้ายผิวซ้ำอีก:

1. อ่าน INCI (ส่วนผสม) อย่างมีหลัก:
   เลี่ยงชื่ออย่าง Alcohol, Ethanol, Alcohol Denat. ใน 5 ชื่อแรก เพราะแปลว่ามีปริมาณสูง และอาจเป็นตัวทำให้ผิวแห้ง แสบ ตึงได้ง่าย
2. มองหาคำกำกับที่ช่วยกรองเบื้องต้น:
   เช่น Alcohol-Free, Fragrance-Free, For Sensitive Skin, Hypoallergenic — เหล่านี้ช่วยบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการคิดเพื่อผิวแพ้ง่ายมาระดับหนึ่ง
3. มองหาส่วนผสมที่ “ปลอบประโลม” ไม่ใช่แค่ “ไม่มีสารระคายเคือง”:
   เช่น Allantoin, Panthenol, Centella Asiatica, Ceramide หรือ Beta-Glucan — เหล่านี้ช่วยฟื้นฟูผิว ลดอาการอักเสบ และเสริมเกราะผิวให้แข็งแรง
4. ทำ Patch Test ก่อนใช้จริงเสมอ:
   ทาครีมที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง แล้วสังเกตว่าเกิดอาการระคายเคืองหรือไม่ ถ้าไม่มีอาการจึงค่อยใช้บนใบหน้า

หากคุณคือเจ้าของแบรนด์หรือกำลังพัฒนาสูตรครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเริ่มจากการออกแบบสูตรที่หลีกเลี่ยงสารก่อการระคายเคืองอย่างแท้จริง พร้อมเสริมสารช่วยฟื้นเกราะผิวตั้งแต่ต้นสูตร รับผลิตเครื่องสำอาง กับทีมที่เข้าใจผิวจริง ช่วยให้สูตรของคุณปลอดภัยและโดดเด่นในตลาดได้อย่างยั่งยืน

ครีมทั่วไป vs ครีมปลอดแอลกอฮอล์: เลือกแบบไหนผิวปลอดภัยกว่า?

ครีมที่วางขายทั่วไปอาจไม่ได้ระบุชัดเจนว่ามี “แอลกอฮอล์ระเหยไว” หรือไม่ บางสูตรให้สัมผัสเบา ซึมไว แต่ซ่อนความเสี่ยงไว้โดยที่คุณไม่รู้ตัว ในทางกลับกัน ครีมสูตรปลอดแอลกอฮอล์ถูกออกแบบมาเพื่อผิวที่ต้องการความอ่อนโยนจริงจัง ลองดูความต่างแบบชัด ๆ ในตารางนี้:

ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย หรือเคยแสบหน้าเพราะครีมมาก่อน สูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์ระเหยไวจะช่วยลดความเสี่ยง แถมยังฟื้นฟูเกราะผิวให้แข็งแรงในระยะยาวได้ดีกว่า และถ้าคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ที่อยากพัฒนาสูตรครีมที่ “ทั้งปลอดภัยและเห็นผล” → อย่าลืมเริ่มจากการเลือกใช้ สูตรปลอดแอลกอฮอล์ ร่วมกับทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญ ดูแนวทาง รับผลิตเครื่องสำอาง ที่ออกแบบเพื่อผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะได้ที่นี่

หลายคนเข้าใจผิด! ครีมมีแอลกอฮอล์ ควรใช้หรือ ต้องเลี่ยงเสมอ?

คำว่า “Alcohol” บนฉลากครีม ทำให้หลายคนตกใจและรีบวางคืนชั้นทันที แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่แอลกอฮอล์ทุกชนิดที่ทำร้ายผิว — บางตัวเป็นตัวร้าย (เช่น Alcohol Denat. ที่ระเหยไว ทำให้ผิวแห้ง แสบ) แต่บางตัวกลับทำหน้าที่เป็น ตัวเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ครีมเนื้อเนียน นุ่มลื่น และอ่อนโยน

• ความเข้าใจผิด: ครีมมี Alcohol = ไม่ปลอดภัยเสมอไป
• ความจริง: แอลกอฮอล์มีหลายประเภท — ต้องดูว่าเป็นชนิด “ทำให้แห้ง” หรือ “ทำให้ชุ่มชื้น”
• ทางเลือก: อย่าดูแค่คำว่า Alcohol แต่ดูว่า “ใช้ร่วมกับส่วนผสมอะไร?” เช่น ถ้าเจอ Cetearyl Alcohol + Ceramide + Glycerin = ปลอดภัยแน่นอน

ดังนั้น การเลือกครีมไม่ใช่แค่ “ไม่มีแอลกอฮอล์” เท่านั้น แต่ต้องดู “ภาพรวมของสูตร” ว่าช่วยเสริมเกราะผิว หรือทำลายผิวหรือไม่ หากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นผู้พัฒนาสูตรครีมเอง การเข้าใจเรื่องนี้คือก้าวแรกสู่การเลือกส่วนผสมที่ตอบโจทย์จริง

ผิวแพ้แล้ว ทำยังไงให้ฟื้นเร็ว? ฟื้นเกราะผิวอย่างอ่อนโยนใน 5 ขั้นตอน

เมื่อผิวมีอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแสบ คัน แดง หรือลอก สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “หยุดใช้ครีม” แต่คือการฟื้นฟูเกราะผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ลองทำตาม 5 ขั้นตอนนี้อย่างต่อเนื่อง คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงใน 3–7 วัน:

1. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที
   ไม่ต้องรอดูอาการ หยุดทุกอย่างที่เพิ่งเริ่มใช้ รวมถึงโฟมล้างหน้า เซรั่ม หรือครีมที่อาจเป็นตัวกระตุ้น
2. ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือคลีนเซอร์อ่อนโยน (pH-balanced)
   ห้ามใช้น้ำร้อนหรือถูแรง เพราะจะทำให้เกราะผิวที่อักเสบอยู่แล้วยิ่งบางลง ควรล้างด้วยมือลูบเบา ๆ เท่านั้น
3. ประคบเย็นช่วยลดอาการแสบและอักเสบ
   ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น (หรือเจลเย็นแบบแช่เย็น) วางเบา ๆ บนผิวที่แสบครั้งละ 5–10 นาที วันละ 2–3 ครั้ง
4. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรปลอดภัยจริง
   เลือกแบบไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือกรดผลไม้ ใช้สารปลอบประโลมอย่าง Ceramide, Panthenol, Allantoin หรือ Cica เป็นตัวหลัก
5. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเพิ่มเติม
   เช่น แดด ฝุ่น เครื่องสำอาง หรือครีมกันแดดที่ไม่อ่อนโยน หากจำเป็นต้องออกแดด ใช้หมวกหรือหน้ากากปิดแทนการทา

เคล็ดลับเพิ่มเติม: หากผิวเริ่มดีขึ้น ควรค่อย ๆ กลับมาใช้ผลิตภัณฑ์เดิมทีละตัว (ทีละ 1 อย่าง) และหากคุณกำลังวางสูตรครีมหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย → ควรเริ่มจากการเลือกสารที่เสริมเกราะผิว แทนที่จะพยายาม “ลบอาการแพ้” เท่านั้น หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์หรือกำลังพัฒนาสูตรดูแลผิวแพ้ง่ายอย่างจริงจัง สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน รับผลิตเครื่องสำอาง เพื่อออกแบบสูตรที่ปลอดภัย เห็นผล และตอบโจทย์ปัญหาผิวจริงได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก

แผนฟื้นฟูผิว 7 วัน สำหรับคนที่เพิ่งแพ้ครีม (ทำตามนี้ ผิวจะกลับมาดีขึ้นจริง)

ผิวที่แพ้ครีมหรือระคายเคืองจากสารบางชนิด มักจะใช้เวลา 3–7 วันในการฟื้นตัว หากได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี แผนฟื้นฟูนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรงแบบไม่เร่ง ไม่เสี่ยงอักเสบซ้ำ — ทำตามวันต่อวันอย่างมีวินัย คุณจะรู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้นจริง

• วันที่ 1–2: หยุดใช้ทุกอย่างทันที แม้แต่โฟมล้างหน้าหรือเซรั่มที่เคยใช้เป็นประจำ ใช้แค่น้ำเปล่าลูบเบา ๆ ล้างหน้า เช้า–เย็น และประคบเย็นเพื่อลดการอักเสบ ไม่แนะนำให้ทายาเองหากไม่แน่ใจ เพราะอาจระคายเคืองเพิ่ม
• วันที่ 3: หากผิวเริ่มแดงน้อยลง คันลดลง สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ หรือมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น สูตรที่มี Panthenol หรือ Allantoin เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว
• วันที่ 4–5: เริ่มเพิ่ม “ตัวเสริมเกราะผิว” อย่าง Ceramide / Squalane / Beta-Glucan โดยเลือกเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดครีม ไม่ใช่เจล ควรทาวันละ 2 ครั้ง และไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป
• วันที่ 6–7: หากผิวเริ่มกลับมานุ่มและไม่มีรอยแดงเพิ่ม สามารถใช้ กันแดดสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ได้ โดยเลือกแบบ Physical Sunscreen ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม และไม่มีสี (Fragrance-free / Alcohol-free / Non-comedogenic)

หมายเหตุ: หากในวันที่ 4 ยังมีอาการแดงหรือแสบมาก แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบเรื้อรัง

เช็กลิสต์ก่อนซื้อครีมครั้งต่อไป (จำไว้ก่อนหยิบเข้าตะกร้า)

ถ้าคุณเคยมีอาการหน้าแสบ คัน แดง หรือผื่นขึ้นแบบไม่รู้สาเหตุ ลองย้อนกลับไปดูว่าคุณเคย “เช็กฉลาก” ก่อนซื้อครีมหรือไม่? ต่อไปนี้คือรายการที่คุณควรดูให้ครบก่อนจ่ายเงินทุกครั้ง:

• Alcohol-Free, Fragrance-Free, Paraben-Free:
  3 สิ่งนี้คือ “ตัวกระตุ้นการแพ้” ที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่มีผิวบอบบาง แม้จะใช้งานมาแล้วหลายยี่ห้อก็ตาม
• มีสารปลอบประโลมผิว:
  มองหาส่วนผสมอย่าง Cica (Centella Asiatica), Allantoin, Panthenol, หรือ Beta-Glucan — เพราะไม่ได้แค่ “ไม่ทำร้ายผิว” แต่ยังช่วยฟื้นฟูเกราะผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงได้จริง
• มีการระบุว่า Dermatologist-Tested / Hypoallergenic:
  คำเหล่านี้แปลว่าเคยผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการกับกลุ่มคนจริง ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเลือกใช้ แม้จะไม่ได้หมายความว่า 100% ไม่มีอาการแพ้ แต่ก็ลดความเสี่ยงลงได้มาก

Tip เสริม: อย่าลืมพลิกฉลากไปดูส่วนผสม 5–7 ตัวแรก เพราะนั่นคือตัวที่มีปริมาณเยอะที่สุด และส่งผลต่อผิวโดยตรง

หากคุณต้องการสร้างแบรนด์ครีมที่ปลอดภัยกับผิวแพ้ง่ายจริง แนะนำให้เริ่มจากการออกแบบ “เช็กลิสต์ส่วนผสมที่ไม่ใส่ตั้งแต่ต้นสูตร” ร่วมกับทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญ เช่น Wise Plus Grow รับผลิตเครื่องสำอาง อุบลฯ ที่ใส่ใจทุกจุดเล็ก ๆ เพื่อสร้างสูตรที่ตอบโจทย์คนแพ้ง่ายอย่างแท้จริง

อยากพัฒนาสูตรครีมของตัวเองให้ปลอดภัย เห็นผล และแตกต่าง?

ถ้าคุณกำลังวางแผนสร้างแบรนด์ครีมที่ใส่ใจผิวแพ้ง่ายจริง อย่าเริ่มจากสูตรที่ใครก็ใช้ได้ แต่ควรเริ่มจาก สูตรที่ออกแบบมาเพื่อ “ปัญหาผิวที่คุณอยากแก้” ไม่ใช่แค่การลอกสูตรในตลาด แต่คือการวางแนวคิดใหม่ที่ปลอดภัยตั้งแต่โครงสร้างสูตร การทำงานร่วมกับทีมวิจัยที่เข้าใจ “โครงสร้างผิวและส่วนผสม” จะช่วยให้คุณลดรอบแก้สูตร ลดความเสี่ยงการแพ้จากสารแฝง และสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือมากกว่าครีมทั่วไปในตลาด

สรุป — แพ้ครีมไม่ใช่จุดจบของผิวสวยแค่ต้องเข้าใจ และเลือกให้ถูก

ผิวที่ระคายเคือง แสบ คัน หรือเป็นผื่นหลังใช้ครีม ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่ความผิดของคุณเสมอไป แต่คือสัญญาณที่บอกว่า “ผิวกำลังขอความเข้าใจ” — ไม่ใช่แค่เปลี่ยนครีมใหม่ แต่ต้องเปลี่ยนวิธีเลือกดูแลให้เหมาะกับผิวเราจริง ๆ การเข้าใจว่าแอลกอฮอล์ในครีมมีหลายชนิด บางตัวควรเลี่ยง บางตัวไม่ต้องกลัว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย รวมถึงการฟื้นเกราะผิวอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณกลับมามีผิวที่แข็งแรง ดูสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน หากคุณคือผู้ใช้ที่เคยเจอปัญหาแพ้ครีม หรือเจ้าของแบรนด์ที่ไม่อยากให้ลูกค้าของคุณต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก บทความนี้คือจุดเริ่มต้น และคุณสามารถต่อยอดสู่การสร้างสูตรที่ปลอดภัย เห็นผล และแตกต่างได้ทันที

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการแพ้ครีมที่มีแอลกอฮอล์

แพ้ครีมดูยังไงว่าใช่?

ถ้าเริ่มมีอาการแสบ คัน แดง ลอก หรือผื่นขึ้นบริเวณที่ทาครีม ภายใน 1–3 วันหลังใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ และอาการดีขึ้นหลังหยุดใช้ มีแนวโน้มสูงว่าเป็น “การแพ้ครีม” มากกว่าสาเหตุอื่น โดยเฉพาะถ้าเกิดในจุดเดิมซ้ำ ๆ เช่น แก้ม ข้างจมูก หรือคาง

แอลกอฮอล์ในครีมทุกชนิดทำให้แพ้หรือเปล่า?

ไม่ใช่ทุกชนิด แอลกอฮอล์ที่ทำให้ผิวระคายเคืองมักเป็นประเภทระเหยไว เช่น Ethanol หรือ Alcohol Denat. ซึ่งช่วยให้ครีมซึมเร็วแต่ทำให้ผิวแห้งตึง ส่วนแอลกอฮอล์กลุ่ม Fatty Alcohol อย่าง Cetearyl Alcohol หรือ Cetyl Alcohol กลับช่วยให้ความชุ่มชื้น และใช้ได้แม้ในสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย

ถ้าแพ้ครีม ต้องหยุดใช้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไปควรหยุดใช้ทันทีที่สงสัยว่าแพ้ และพักผิวอย่างน้อย 5–7 วันจนกว่าอาการจะแดงน้อยลง ไม่ลอก ไม่แสบอีกต่อไป ช่วงนี้ควรเน้นปลอบประโลมผิว และไม่ทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินอย่างถูกต้อง

Cetearyl Alcohol ปลอดภัยจริงไหม?

Cetearyl Alcohol คือ Fatty Alcohol ที่มีคุณสมบัติให้เนื้อครีมเนียนนุ่มและช่วยล็อกความชุ่มชื้น ไม่ระเหย ไม่ทำให้ผิวแห้งเหมือนแอลกอฮอล์แบบอื่น ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย และมักถูกใช้ในสูตรที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผิวบอบบาง

อยากทำครีมสูตรอ่อนโยน ปลอดแอลกอฮอล์ ต้องเริ่มยังไง?

เริ่มจากกำหนดว่าอยากเลี่ยงสารอะไร เช่น Alcohol Denat., น้ำหอม, พาราเบน หรือกรดผลไม้แรง ๆ แล้วเลือกใช้สารที่ช่วยเสริมเกราะผิว เช่น Ceramide, Panthenol, Allantoin จากนั้นทำงานร่วมกับทีมวิจัยที่เข้าใจผิวจริง เพื่อพัฒนา สูตรปลอดภัยกับผิวแพ้ง่าย ได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก