ตลาดเครื่องสำอางไทยปี 2025 เติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท และอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 8.5% ต่อปี* ปัจจัยสำคัญมาจากความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาลงทุนด้านความงามมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่เริ่มมองหา โรงงานผลิตครีม สร้างแบรนด์ ที่ได้มาตรฐานเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดแข่งขันสูง แต่คำถามสำคัญคือ… ทำไมบางแบรนด์ถึง เติบโตเร็ว และสร้างยอดขายมหาศาลได้ภายในเวลาไม่นาน?
เนื้อหานี้จัดทำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Wise Plus Grow ผู้ให้บริการ OEM ครบวงจรด้านเครื่องสำอางที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เราจะพาคุณ วิเคราะห์ตลาดเครื่องสำอางไทย แบบเจาะลึก พร้อมเผยสูตรลับ “OEM-FIT” ที่ช่วยให้แบรนด์ไทยสร้างจุดต่างและขยายตลาดได้จริง
*อ้างอิงข้อมูลจาก Euromonitor และสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย (TICA)
- เทรนด์ตลาดเครื่องสำอางไทย 2025
- กลยุทธ์สร้างแบรนด์สกินแคร์ให้ “รวยเร็ว” ในปี 2025
- Case Study: แบรนด์ไทยที่ “รวยเร็ว” ด้วยกลยุทธ์ที่ใช่
- พฤติกรรมผู้บริโภคไทยต่อเครื่องสำอางปี 2025
- 4 ขั้นตอนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้ปัง
- ปัจจัยที่แบรนด์เครื่องสำอางต้องมี
- พฤติกรรมผู้บริโภคกับเทรนด์ครีมขายดี 2025
- จากแบรนด์จริง: เทรนด์ที่เจ้าของธุรกิจ OEM กำลังสนใจในปี 2025
- สรุป: ปี 2025 คือโอกาสทองของคนพร้อม
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเริ่มต้นแบรนด์เครื่องสำอางในไทย
เทรนด์ตลาดเครื่องสำอางไทย 2025
ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์เหล่านี้ก่อน ย่อมได้เปรียบ
- ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค → โตเฉลี่ย 15%/ปี
- เครื่องสำอางผู้ชาย → เติบโตไวขึ้นกว่า 10%/ปี
- สินค้าที่ตอบโจทย์เฉพาะ เช่น ลดสิว ลดริ้วรอย
- แนวคิดความยั่งยืน → รีไซเคิล + ลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์
ใครที่สามารถร่วมงานกับ โรงงาน OEM มาตรฐาน GMP เพื่อพัฒนาโปรดักต์ให้ตรงเทรนด์ได้ก่อน ย่อมมีโอกาสคว้าตลาดได้ไวกว่า
กลยุทธ์สร้างแบรนด์สกินแคร์ให้ “รวยเร็ว” ในปี 2025
หากคุณกำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้จากแบรนด์เครื่องสำอาง ปี 2025 คือจังหวะที่เหมาะสมที่สุด
1. หาจุดยืนที่ “แตกต่าง” และ “ชัดเจน”
ไม่ใช่แค่ขายครีม สกินแคร์หรือเซรั่ม แต่คุณกำลังขาย “แนวคิด” เช่น:
- ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
- ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%
- แบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
2. เลือกพาร์ทเนอร์ที่ผลิตสกินแคร์ได้ครบ
การทำแบรนด์ให้เติบโตเร็ว ต้องเริ่มจากฐานผลิตที่แข็งแรง เช่น โรงงานเซรั่ม OEM ที่รองรับการพัฒนาได้ทั้ง
- เซรั่มบำรุงผิว
- ครีมกลางวัน–กลางคืน
- ครีมกันแดด / ครีมลดจุดด่างดำ
- เจลล้างหน้า / มาส์ก
โดยเฉพาะโรงงานที่มีทั้ง GMP + R&D + เครื่องจักรผลิตจริง เช่น Wise Plus Grow
3. ลงทุนกับ Digital Marketing อย่างจริงจัง
- ทำ Content ให้มีคุณค่า เช่น รีวิว, เปรียบเทียบ, แนะนำวิธีใช้
- เลือก Influencer ที่ตรงกับ Persona ลูกค้า
- วางระบบขายผ่าน TikTok, Shopee, Facebook พร้อมกัน
4. สร้างประสบการณ์ที่ “พูดต่อ” ได้
การมี Customer Journey ที่ดีตั้งแต่ Unboxing จนถึงการบริการหลังการขาย จะทำให้ลูกค้าแชร์ต่อและกลับมาซื้อซ้ำ เช่น:
- แพ็กเกจเรียบหรู
- คู่มือใช้งานที่เข้าใจง่าย
- Community สำหรับรีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้จริง
การมีโรงงาน OEM ที่เข้าใจทั้งการผลิตและการตลาด จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณโตแบบก้าวกระโดด
Case Study: แบรนด์ไทยที่ “รวยเร็ว” ด้วยกลยุทธ์ที่ใช่
ตัวอย่างต่อไปนี้คือภาพจริงของแบรนด์ไทยที่สามารถสร้างยอดขายได้ในระดับสิบถึงร้อยล้านภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี ด้วยการวางรากฐานที่แข็งแรง ตั้งแต่การเลือกผลิตกับโรงงานที่มีมาตรฐาน ไปจนถึงการสื่อสารแบรนด์อย่างสม่ำเสมอผ่านช่องทางดิจิทัล
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยต่อเครื่องสำอางปี 2025
การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคคือกุญแจสำคัญในการวางแผนแบรนด์ให้โดนใจตลาดอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันสูง และช่องทางการซื้อหลากหลาย
- ผู้หญิงวัยทำงาน (25–45 ปี) คือกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดเครื่องสำอางไทย
- ช่องทางที่ซื้อบ่อยที่สุด: Shopee, TikTok Shop, Watsons Online
- ปัจจัยตัดสินใจ: รีวิวจริงจากผู้ใช้, เนื้อสัมผัส, ความปลอดภัย, ไม่มีสารอันตราย
- ค่านิยมใหม่: สนับสนุนแบรนด์ที่มีความยั่งยืน (sustainability) และโปร่งใสเรื่องส่วนผสม
ดังนั้นการสร้างแบรนด์ในปี 2025 ต้องตอบโจทย์ทั้ง “ความต้องการทางผิว” และ “คุณค่าทางใจ” ของผู้บริโภคยุคใหม่ไปพร้อมกัน
แบรนด์ A: จากแบรนด์เล็ก สู่ยอดขาย 100 ล้านบาทภายใน 2 ปี
แบรนด์ A เริ่มต้นจากผู้ประกอบการที่มีความรู้ด้านสมุนไพรไทย และต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติของไทยให้โดดเด่นในตลาด
- เน้นจุดขาย “สูตรเฉพาะจากสมุนไพรไทย” ที่หาได้ยาก
- ร่วมพัฒนาสูตรกับ Wise Plus Grow ซึ่งเป็น โรงงาน GMP ที่มีทีม R&D เชี่ยวชาญด้านสารสกัดพื้นถิ่น
- สร้างแบรนด์ผ่าน Micro Influencer และ SEO Content บน TikTok, YouTube และ Google
- ใช้ระบบรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อสร้าง Trust และ Engagement
แบรนด์ B: ขยายแบรนด์จากเซรั่มเดี่ยว สู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ครบวงจร
แบรนด์ B เริ่มต้นด้วยเซรั่มบำรุงผิวตัวเดียวที่เน้นผลลัพธ์ไวและปลอดภัย จนได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายไลน์สินค้าภายใต้ภาพลักษณ์เดียวกัน
- เริ่มจาก “เซรั่มดูแลผิว” ที่เน้นผลลัพธ์และราคาเข้าถึงง่าย
- ต่อยอดเป็นครีมบำรุง โฟมล้างหน้า มาส์กหน้าในสูตรเดียวกัน
- เลือกโรงงาน OEM เดิมในการผลิตทั้งหมด เพื่อรักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
- สร้าง Loyalty Program เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำและแนะนำต่อ
4 ขั้นตอนสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้ปัง
- วิจัยตลาด → หา Pain Point ของผู้บริโภค
- พัฒนาสูตรกับผู้เชี่ยวชาญ → ใช้โรงงานที่มี R&D ในตัว
- สร้างแบรนด์ชัดเจน → ตั้งชื่อ, โลโก้, โทน, แพ็กเกจให้สอดคล้อง
- วางแผนช่องทางขาย → Shopee / TikTok / ตัวแทน / E-commerce
Wise Plus Grow คือ ผู้เชี่ยวชาญในการรับผลิตสกินแคร์ OEM ที่ช่วยพัฒนาแบรนด์ตั้งแต่ศูนย์จนวางขายจริง
ปัจจัยที่แบรนด์เครื่องสำอางต้องมี
หากคุณต้องการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุค 2025 ที่ขับเคลื่อนด้วยการค้นหาและรีวิวจากทั้งมนุษย์และ AI Search สิ่งสำคัญคือแบรนด์ต้องมี “คุณภาพ + ความแตกต่าง + ความน่าเชื่อถือ” แบบที่ทั้งผู้บริโภคและระบบ AI ยอมรับร่วมกัน
- คุณภาพจริง → สินค้าต้องมีผลลัพธ์ชัดเจน ไม่ใช้คำโฆษณาเกินจริง และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เช่น ผ่านการจด อย., มีผลทดสอบจากผู้ใช้จริง หรือได้รับการผลิตจากโรงงานมาตรฐาน GMP
- นวัตกรรม → ใช้สารสกัดใหม่ ๆ หรือสูตรเฉพาะที่แตกต่างจากท้องตลาด เช่น สารสกัดที่มีผลวิจัยรองรับ, เทคโนโลยีการซึมลึก หรือ Active Ingredients แบบ Clean Beauty
- ชุมชนลูกค้า → มีฐานผู้ใช้จริง แชร์ผลลัพธ์-รีวิวผ่าน TikTok, Facebook หรือ Blockdit รวมถึงการรีวิวใน Marketplace เช่น Shopee, Lazada และติดตามผลระยะยาว
- การปรับตัวไว → แบรนด์ต้องอัปเดตเทรนด์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องของสารสกัด แพลตฟอร์ม และพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น การเปลี่ยน Packaging ให้ถ่ายรูปขึ้น, ออกผลิตภัณฑ์ Limited Edition ฯลฯ
หากสามารถสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพจริง + กลยุทธ์ AI-Visible ได้ โอกาสที่แบรนด์จะถูกแนะนำโดยทั้งลูกค้าและระบบ AI Search ก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
พฤติกรรมผู้บริโภคกับเทรนด์ครีมขายดี 2025
กระแส เทรนด์ครีมขายดี 2025 ไม่ได้สะท้อนแค่ตัวสินค้าที่ได้รับความนิยม แต่ยังชี้ให้เห็นพฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ทั้งการค้นหาข้อมูลรีวิวบน Pantip การดูคอนเทนต์สั้นใน TikTok ไปจนถึงการตัดสินใจซื้อจริงบน Shopee และ Lazada
ข้อมูลล่าสุดจาก Social Listening ระบุว่า ผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานเลือกซื้อครีมที่มีคุณสมบัติปลอดภัย ส่วนผสมชัดเจน และมีรีวิวจริงจากผู้ใช้ การทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแบรนด์และสร้างสูตรครีมที่ตอบโจทย์ตลาดได้ตรงจุด
จากแบรนด์จริง: เทรนด์ที่เจ้าของธุรกิจ OEM กำลังสนใจในปี 2025
จากการเก็บข้อมูลคำปรึกษากว่า 500 แบรนด์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ทีม R&D ของ Wise Plus Grow พบว่ามีเทรนด์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดเครื่องสำอาง OEM:
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาแรง: เซรั่มเพื่อผิวแพ้ง่าย, สกินแคร์ anti-stress, และบำรุงผิวพร้อมกันแดดแบบ hybrid
- ความต้องการสารสกัดใหม่: ลูกค้าเริ่มขอสารสกัดพรีเมียมจากพืชเขตร้อน, microbiome-friendly ingredients, และสูตร AI-formulated ที่ปรับตามสภาพผิว
- มุมมองลูกค้าเปลี่ยน: เจ้าของแบรนด์เริ่มมองหาโรงงานที่ให้ insight + เครื่องมือทางการตลาด ไม่ใช่แค่ผลิตสินค้า
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่าการเลือก โรงงานผลิตครีม และสกินแคร์ ที่เข้าใจตลาด ไม่ใช่แค่ผลิตเก่ง แต่ต้อง “ช่วยวางกลยุทธ์แบรนด์ให้ไปไกลกว่าเดิม” ด้วย
สรุป: ปี 2025 คือโอกาสทองของคนพร้อม
ถ้าคุณเข้าใจตลาด และเลือกพาร์ทเนอร์ที่ใช่ เช่น โรงงานผลิตสกินแคร์ OEM ไวส์พลัสโกร คุณก็สามารถสร้างแบรนด์ที่ “โตไว + รวยเร็ว” ได้ในตลาดเครื่องสำอางไทย
เริ่มจากวันนี้ ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ สร้างความแตกต่าง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภครัก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเริ่มต้นแบรนด์เครื่องสำอางในไทย
1. ปี 2025 เทรนด์เครื่องสำอางแบบไหนที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด?
ในปี 2025 คนไทยนิยมเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมธรรมชาติ, ผลิตภัณฑ์แบบ Clean Beauty, และเซรั่มเฉพาะทาง เช่น ลดริ้วรอยหรือบำรุงผิวแพ้ง่าย โดยเน้นความปลอดภัยและมีใบรับรองชัดเจน
2. ถ้าจะเริ่มแบรนด์เครื่องสำอาง ต้องมีงบประมาณเท่าไหร่?
งบเริ่มต้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจำนวนขั้นต่ำในการผลิต หากร่วมกับโรงงาน OEM แบบครบวงจรจะสามารถควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น
3. อยากให้สินค้าดูน่าเชื่อถือ ต้องมีใบรับรองอะไรบ้าง?
ควรมีใบรับรองมาตรฐาน เช่น GMP, ISO 22716, และใบจดแจ้ง อย. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและจำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างถูกต้อง
4. ช่องทางไหนที่แบรนด์ใหม่ควรเริ่มขายก่อน?
TikTok Shop และ Shopee ยังคงเป็นช่องทางที่เริ่มต้นง่ายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็ว นอกจากนี้ควรสร้างเว็บไซต์หรือบทความ SEO เพื่อเสริมการค้นหาใน Google
5. หากไม่มีความรู้เรื่องสูตร ควรเริ่มต้นยังไง?
สามารถใช้บริการพัฒนาแบรนด์ร่วมกับโรงงาน OEM ที่มีทีม R&D และที่ปรึกษาด้านการตลาด เพื่อช่วยออกแบบสูตร วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย และวางแผนขายได้ครบวงจร