9 สูตรครีมขมิ้นยอดนิยม พร้อมเทรนด์ใหม่ที่เจ้าของแบรนด์ต้องรู้ [อัปเดต 2025]

ครีมขมิ้นเทรนด์สกินแคร์สมุนไพรปี 2025

ในปี 2025 เทรนด์สกินแคร์สมุนไพรกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “ขมิ้น” ที่ถูกยกให้เป็นส่วนผสมตัวท็อปในการผลิตครีมดูแลผิว ความนิยมนี้เกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ปลอดภัย และมีผลลัพธ์จริง ขมิ้นมีคุณสมบัติเด่นในการลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส เหมาะสำหรับกลุ่มที่มีปัญหาสิวและผิวหมองคล้ำ บทความนี้ได้รวม 9 สูตรครีมขมิ้นยอดนิยม พร้อมเทรนด์ล่าสุดและแนวทางพัฒนา OEM ให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น หากคุณต้องการเริ่มผลิตครีมสมุนไพรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน คลิกที่ โรงงานรับผลิตครีมมาตรฐาน GMP เพื่อเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของคุณทันที

หัวข้อในบทความนี้

ทำไมครีมขมิ้นถึงมาแรงในปี 2025?

จากข้อมูลของ Google Trends ปี 2025 การค้นหาคำว่า “ครีมขมิ้น” และ “Turmeric Skincare” เติบโตขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์จริง ขมิ้นมีสารสำคัญชื่อ Curcumin ที่ช่วยต้านการอักเสบ ลดรอยแดง และป้องกันการติดเชื้อบนผิว นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียนตามธรรมชาติ

เทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในตลาดโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป ซึ่งผู้บริโภคสนใจผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีความเป็นออร์แกนิกสูง เจ้าของแบรนด์ที่ต้องการเจาะตลาดควรพิจารณาครีมขมิ้น เพราะสามารถปรับสูตรให้เหมาะสมกับหลากหลายความต้องการ ตั้งแต่ลดสิว ผิวขาวใส ไปจนถึงสูตรพรีเมียม หากต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์และได้มาตรฐาน ควรทำงานกับ โรงงานรับผลิตครีมที่มีความเชี่ยวชาญ

9 สูตรครีมขมิ้นยอดนิยมสำหรับ OEM ปีนี้

ครีมขมิ้นลดสิวอักเสบผสมทีทรีออยล์และ BHA

1. ครีมขมิ้นลดสิวอักเสบ

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบและผิวมัน จุดเด่นคือการผสมสารสกัดขมิ้นเข้ากับ Tea Tree Oil และ Salicylic Acid (BHA) เพื่อช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้สิวอักเสบยุบเร็วขึ้น อีกทั้งยังป้องกันการเกิดสิวซ้ำ จุดขายสำคัญของสูตรนี้คือการตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการทางเลือกธรรมชาติแต่มีผลลัพธ์จริง ตัวอย่างจากตลาดอินเดียและไทยพบว่า ครีมลดสิวสูตรขมิ้นได้รับรีวิวสูงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee และ TikTok ทำให้ OEM สูตรนี้เป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง สำหรับเจ้าของแบรนด์ ควรควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วง 5.5-6.5 เพื่อป้องกันการระคายเคือง และเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับการสื่อสารคอนเซปต์ธรรมชาติ

  • จุดเด่น: ลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อสิว
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้นชัน, Tea Tree Oil, Salicylic Acid
  • เหมาะสำหรับ: ผิวมันและเป็นสิวง่าย

ครีมขมิ้นผิวขาวใสผสมวิตามินซีและไนอะซินาไมด์

2. ครีมขมิ้นผิวขาวใส (Whitening)

สูตรนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส ด้วยการผสมสารสกัดขมิ้นกับ Niacinamide และ Vitamin C เพื่อช่วยลดจุดด่างดำและปรับสีผิวให้สว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สูตรนี้ได้รับความนิยมสูงในเอเชียและยุโรป เพราะผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และมีผลลัพธ์ชัดเจน เทรนด์ล่าสุดบน TikTok พบว่ามีคอนเทนต์รีวิวครีมขมิ้นผสมวิตามิน C มียอดวิวมากกว่า 1 ล้านครั้ง ทำให้ OEM สูตรนี้เป็นที่ต้องการในตลาดออนไลน์ เจ้าของแบรนด์สามารถสร้างความแตกต่างโดยการเน้นคอนเซปต์ “Natural Glow” พร้อมการรับรอง Dermatologically Tested เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

  • จุดเด่น: ผิวสว่างใส ลดหมองคล้ำ
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Niacinamide, Vitamin C
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการโทนผิวสว่าง

ครีมขมิ้นลดรอยสิวและจุดด่างดำผสมใบบัวบกและวิตามินอี

3. ครีมขมิ้นลดรอยสิวและจุดด่างดำ

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กังวลรอยดำจากสิว โดยผสมสารสกัดขมิ้นกับ Centella Asiatica และ Vitamin E เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวและลดรอยจุดด่างดำให้จางลง ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงในตลาด After-Acne Care เพราะช่วยแก้ปัญหาหลังสิวหาย เจ้าของแบรนด์ควรเน้นเนื้อครีมซึมง่าย ไม่เหนอะหนะ และสร้างจุดขายด้วยคำว่า “ช่วยลดรอยสิวอย่างเห็นผล” พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ดูทันสมัยเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน

  • จุดเด่น: ลดรอยดำ ฟื้นฟูผิว
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Centella Asiatica, Vitamin E
  • เหมาะสำหรับ: ผิวที่มีรอยสิวและจุดด่างดำ

ครีมขมิ้นผสมสมุนไพรไทยสูตรพรีเมียมเพื่อบำรุงผิว

4. ครีมขมิ้นผสมสมุนไพรไทยสูตรพรีเมียม

สูตรนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างด้วยความเป็นไทย โดยผสมขมิ้นเข้ากับสมุนไพรพื้นบ้าน เช่น ขิง มะขาม และว่านหางจระเข้ เพื่อเพิ่มคุณค่าการบำรุงและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ สูตรนี้สามารถทำตลาดในกลุ่มสปาและกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์แนวออร์แกนิกได้เป็นอย่างดี จุดเด่นคือสามารถสร้างคอนเทนต์ Storytelling ได้ง่าย และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ เจ้าของแบรนด์ควรเน้นการทำบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ พร้อมทำการตลาดบนโซเชียล เช่น Instagram และ TikTok เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มที่รักสุขภาพและความงาม

  • จุดเด่น: คอนเซปต์ไทยแท้ ผสมสมุนไพรหลายชนิด
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, ว่านหางจระเข้, มะขาม
  • เหมาะสำหรับ: ตลาดสปาและผู้รักสมุนไพร

ครีมขมิ้นเติมความชุ่มชื้นผสมคอลลาเจนและไฮยาลูรอนิค

5. ครีมขมิ้นผสมคอลลาเจนสำหรับผิวแห้ง

สูตรนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวแห้งและต้องการฟื้นฟูความชุ่มชื้น โดยผสมสารสกัดขมิ้นกับ Collagen และ Hyaluronic Acid เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลผิวให้ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียน สูตรนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานและผู้ที่อาศัยในสภาพอากาศแห้ง จุดเด่นคือการสื่อสารว่าเป็นครีมสมุนไพรที่ผสมเทคโนโลยีความงามสมัยใหม่ เจ้าของแบรนด์สามารถใช้จุดขาย “เพิ่มความชุ่มชื้นล้ำลึก” พร้อมการันตีผลลัพธ์ผ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

  • จุดเด่น: เติมน้ำให้ผิว เพิ่มความยืดหยุ่น
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Collagen, Hyaluronic Acid
  • เหมาะสำหรับ: ผิวแห้งและผิวขาดน้ำ

ครีมขมิ้นผสมวิตามินอีเพื่อผิวเนียนนุ่มและชุ่มชื้น

6. ครีมขมิ้นผสมวิตามินอีเพื่อผิวเรียบเนียน

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและลดปัญหาผิวแห้งกร้าน โดยใช้สารสกัดขมิ้นร่วมกับ Vitamin E และน้ำมันจากธรรมชาติ เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับการทำตลาดในกลุ่มผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อผิวเนียนละเอียด จุดเด่นของสูตรนี้คือการผสานคุณค่าจากสมุนไพรและสารบำรุงเพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย เจ้าของแบรนด์สามารถใช้จุดขายว่าเป็นครีมเนื้อบางเบา เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน และสร้างคอนเทนต์รีวิวเน้น Before-After เพื่อกระตุ้นการซื้อ

  • จุดเด่น: ปรับผิวเรียบเนียน ลดความแห้งกร้าน
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Vitamin E, น้ำมันธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ต้องการบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม

ครีมขมิ้นลดริ้วรอยผสมเปปไทด์และเรตินอล

7. ครีมขมิ้นลดริ้วรอยสำหรับวัย 30+

สูตรนี้ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัย 30 ปีขึ้นไป โดยผสมสารสกัดขมิ้นกับ Peptide และ Retinol เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว สูตรนี้เหมาะสำหรับทำตลาดในกลุ่ม Anti-Aging Skincare จุดเด่นคือเป็นครีมที่รวมสมุนไพรเข้ากับนวัตกรรมสารสกัดเพื่อการฟื้นฟูผิวขั้นล้ำ เจ้าของแบรนด์ควรเน้นคำโปรย เช่น “ลดเลือนริ้วรอยใน 4 สัปดาห์” พร้อมภาพรีวิวที่แสดงผลลัพธ์อย่างชัดเจนเพื่อดึงดูดความสนใจ

  • จุดเด่น: ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่น
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Peptide, Retinol
  • เหมาะสำหรับ: กลุ่มวัย 30 ปีขึ้นไป

ครีมขมิ้นสูตรกลางคืนผสมไนอะซินาไมด์และเซราไมด์

8. ครีมขมิ้นสูตรกลางคืน (Night Cream)

สูตรกลางคืนนี้เน้นการซ่อมแซมผิวในช่วงที่เราหลับ โดยผสมขมิ้นเข้ากับสารสกัดเข้มข้น เช่น Niacinamide และ Ceramide เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวเสีย ลดความหมองคล้ำ และเสริมความชุ่มชื้น จุดเด่นคือเนื้อครีมเข้มข้นที่ซึมเข้าสู่ผิวในช่วงกลางคืน ทำให้ตื่นมาพร้อมผิวที่สดใส เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการการดูแลผิวแบบล้ำลึก เจ้าของแบรนด์สามารถทำตลาดโดยเน้นคอนเซปต์ “Wake Up with Radiant Skin” และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดูพรีเมียมเพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์

  • จุดเด่น: ฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ เพิ่มความชุ่มชื้น
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, Niacinamide, Ceramide
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวกลางคืน

ครีมขมิ้นผสมสารกันแดดและอโลเวราเพื่อปกป้องผิว

9. ครีมขมิ้นผสมสารกันแดด (Day Protection)

สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการครีมบำรุงที่ช่วยป้องกันแสงแดดในชีวิตประจำวัน โดยใช้สารสกัดขมิ้นร่วมกับ UV Filter และสารบำรุงผิว เช่น Aloe Vera เพื่อป้องกันผิวไหม้แดดและลดการเกิดจุดด่างดำ เหมาะสำหรับทำตลาดในกลุ่มคนทำงานกลางแจ้ง หรือผู้ที่ต้องการการปกป้องผิวอย่างอ่อนโยน จุดเด่นของสูตรนี้คือการรวมคุณสมบัติของครีมบำรุงและกันแดดในหนึ่งเดียว เจ้าของแบรนด์สามารถทำคอนเทนต์รีวิวโดยเน้น “สูตร All-in-One” เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค

  • จุดเด่น: ปกป้องผิวจากแสงแดด + บำรุงในขั้นตอนเดียว
  • ส่วนผสมหลัก: ขมิ้น, UV Filter, Aloe Vera
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการครีม All-in-One สำหรับกลางวัน

ตารางสรุป 9 สูตรครีมขมิ้นยอดนิยม

สูตร จุดเด่น ส่วนผสมหลัก กลุ่มเป้าหมาย
ลดสิวอักเสบ ลดการอักเสบ ยับยั้งเชื้อสิว ขมิ้น, Tea Tree Oil, BHA ผิวมัน เป็นสิวง่าย
ผิวขาวใส ผิวกระจ่างใส ลดหมองคล้ำ ขมิ้น, Niacinamide, Vitamin C ผู้ต้องการโทนผิวสว่าง
ลดรอยสิว ฟื้นฟูผิว ลดจุดด่างดำ ขมิ้น, Centella, Vitamin E ผิวมีรอยสิว
สมุนไพรพรีเมียม คอนเซปต์ไทยแท้ เน้น Storytelling ขมิ้น, ว่านหางจระเข้, มะขาม กลุ่มสปา ผู้รักสมุนไพร
ผิวแห้งเติมคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นผิว ขมิ้น, Collagen, Hyaluronic ผิวแห้ง ขาดน้ำ
ผสมวิตามินอี ปรับผิวเรียบเนียน ลดความแห้งกร้าน ขมิ้น, Vitamin E, น้ำมันธรรมชาติ ทุกสภาพผิว
ลดริ้วรอย กระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย ขมิ้น, Peptide, Retinol วัย 30+
สูตรกลางคืน ฟื้นฟูผิวขณะหลับ ขมิ้น, Niacinamide, Ceramide ผู้ต้องการ Night Care
ผสมกันแดด ปกป้องผิวจากแสงแดด + บำรุง ขมิ้น, UV Filter, Aloe Vera กลุ่มกลางแจ้ง

สรุปจุดเด่นของครีมขมิ้นในปี 2025

ครีมขมิ้นยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับตลาดสกินแคร์ปี 2025 ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลดสิว ลดการอักเสบ หรือการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส เทรนด์นี้ทำให้ครีมขมิ้นถูกนำไปพัฒนาในหลายสูตรเพื่อเพิ่มความหลากหลาย ทั้งในด้านฟังก์ชันและการตลาด

    • ขมิ้นเป็นส่วนผสมยอดนิยมในปี 2025 สำหรับสกินแคร์ OEM
    • สูตรที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ลดสิวอักเสบ, Whitening , และลดรอยสิว
    • การเลือก โรงงาน OEM ที่มีมาตรฐาน GMP ช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านคุณภาพ
  •  

สรุปเทรนด์ครีมขมิ้น + เคล็ดลับเลือกสูตร OEM สำหรับแบรนด์ใหม่

จากเทรนด์ล่าสุด ครีมขมิ้นไม่ใช่เพียงสมุนไพรธรรมดา แต่เป็นจุดขายสำคัญในตลาดสกินแคร์ระดับพรีเมียม การเลือกสูตรที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น สูตรลดสิวสำหรับวัยรุ่น หรือสูตรผิวกระจ่างใสสำหรับกลุ่มวัยทำงาน หากคุณต้องการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ OEM สิ่งที่ต้องพิจารณาคือมาตรฐานการผลิต ความปลอดภัย และความเชี่ยวชาญของโรงงาน การทำงานกับทีม R&D มืออาชีพจะช่วยให้สูตรของคุณแตกต่างและตรงใจผู้บริโภคเริ่มต้นวันนี้กับ โรงงานรับผลิตครีมที่ผ่านมาตรฐาน GMP และเชี่ยวชาญด้าน OEM เพื่อสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพและแข่งขันได้จริงในตลาดสกินแคร์ปี 2025

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมขมิ้นและการผลิต OEM

1. ครีมขมิ้นช่วยแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง?

ครีมขมิ้นช่วยลดการอักเสบของผิว ลดสิว ป้องกันการเกิดสิวซ้ำ และช่วยฟื้นฟูผิวที่มีรอยดำหรือหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสกินแคร์แนวสมุนไพรที่ปลอดภัยและเห็นผลจริง

2. OEM ครีมขมิ้นใช้เวลาผลิตกี่วัน?

โดยทั่วไปการผลิต OEM ครีมขมิ้นใช้เวลาประมาณ 30–45 วัน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสูตร การขึ้นทะเบียน อย. และกระบวนการทดสอบคุณภาพ หากเป็นสูตรเฉพาะที่ต้องพัฒนาใหม่อาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย

3. สามารถเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ ลงในครีมขมิ้นได้หรือไม่?

ได้ เจ้าของแบรนด์สามารถปรับสูตรครีมขมิ้นโดยเพิ่มสารบำรุงอื่น ๆ เช่น คอลลาเจน วิตามินซี หรือเปปไทด์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้น เช่น สูตรลดริ้วรอยหรือสูตรบำรุงกลางคืน

4. ครีมขมิ้นเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายหรือไม่?

ครีมขมิ้นเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายเมื่อผลิตด้วยสูตรที่ปราศจากสารระคายเคืองและผ่านการทดสอบ Patch Test แนะนำให้เลือกโรงงานที่มีมาตรฐานการผลิตและทีม R&D ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำสูตรสำหรับผิวบอบบาง

5. เริ่มต้นทำแบรนด์ครีมขมิ้นต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่?

งบประมาณขึ้นอยู่กับปริมาณการสั่งผลิตและความซับซ้อนของสูตร โดยทั่วไปการสั่งผลิตขั้นต่ำกับโรงงาน OEM จะอยู่ในหลักหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งรวมค่าพัฒนาสูตร ค่าแพ็กเกจ และค่าขึ้นทะเบียน อย. เพื่อให้พร้อมจำหน่าย

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า