สารสกัดซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) พลังธรรมชาติจากผลไม้สีทองเพื่อผิวและสุขภาพ

ซีบัคธอร์นสารสกัดสกินแคร์บำรุงผิวกระจ่างใส

ซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) คือผลไม้สีส้มทองจากต้นไม้ในวงศ์ Elaeagnaceae ที่ขึ้นในพื้นที่ภูเขาสูงและอากาศหนาวจัด เช่น ทิเบต มองโกเลีย และยุโรปตะวันออก ผลของมันถูกยกให้เป็น “ทองคำแห่งธรรมชาติ” เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันจำเป็นหลากหลายชนิด ทั้งในรูปแบบ น้ำมันสกัด และ ผงสกัด ซึ่งใช้ได้ทั้งในอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์สกินแคร์ระดับพรีเมียม

หัวข้อในบทความนี้

ข้อมูลพื้นฐานของสารสกัดซีบัคธอร์น

ข้อมูลพื้นฐานของสารสกัดซีบัคธอร์นและคุณสมบัติสำคัญต่อผิว

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Hippophae rhamnoides L.
  • ชื่อ INCI: Hippophae Rhamnoides Extract / Oil
  • ส่วนที่ใช้: ผล, เมล็ด, ใบ
  • วิธีสกัด: Cold-Pressed Oil หรือ Supercritical CO₂ Extraction เพื่อรักษาสารสำคัญ
  • ลักษณะ: น้ำมันสีทองเข้ม กลิ่นเฉพาะตัว
  • ได้รับการรับรอง: ECOCERT, COSMOS, Organic Certification

คุณค่าทางสารอาหารและสารออกฤทธิ์สำคัญในซีบัคธอร์น

สารอาหารและสารออกฤทธิ์สำคัญในซีบัคธอร์นที่มีประโยชน์ต่อผิว

ผลและเมล็ดของซีบัคธอร์นมีสารอาหารมากกว่า 190 ชนิด จัดเป็นหนึ่งใน สารสกัดสกินแคร์ ที่อุดมไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (Bioactive Compounds) ซึ่งช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก โดยมีสารสำคัญหลักที่โดดเด่นดังนี้

กลุ่มสารสำคัญ ตัวอย่างสาร ประโยชน์หลัก
วิตามิน Vitamin A, C, E, K, B1, B2, B6, Folate ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและระบบภูมิคุ้มกัน
กรดไขมัน Omega-3, 6, 7, 9 เสริมเกราะผิว ลดการอักเสบ บำรุงหัวใจและผิวแห้ง
สารไฟโตนิวเทรียนท์ Flavonoids, Carotenoids, Polyphenols ช่วยชะลอวัย ลดความเสื่อมของเซลล์ผิว
แร่ธาตุ Iron, Calcium, Magnesium, Zinc บำรุงระบบเลือดและสุขภาพผิวโดยรวม

ประโยชน์ของซีบัคธอร์นต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของซีบัคธอร์นต่อสุขภาพและการบำรุงร่างกาย

ซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) เป็นหนึ่งในพืชที่มีสารอาหารครบทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามิน และไฟโตนิวเทรียนท์มากกว่า 190 ชนิด ซึ่งทำงานร่วมกันในระดับเซลล์ ช่วยปกป้องหลอดเลือด ลดการอักเสบ และชะลอกระบวนการเสื่อมของร่างกาย งานวิจัยกว่า 60 ชิ้นระบุว่า สารสกัดจากผลและเมล็ดของซีบัคธอร์นมีฤทธิ์ทางชีวภาพหลายด้าน ทั้งต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

1. บำรุงหัวใจและลดคอเลสเตอรอล

ซีบัคธอร์นช่วยบำรุงหัวใจและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 7 และ 9 ในซีบัคธอร์น โดยเฉพาะ Palmitoleic acid (Omega-7) มีบทบาทในการเพิ่มความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดและลดระดับไขมันเลว (LDL) ในกระแสเลือด ขณะเดียวกันก็เพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ที่ช่วยขนคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากหลอดเลือด งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในฟินแลนด์ (Tiina M. et al., 2020) พบว่าการรับประทานน้ำมันซีบัคธอร์นวันละ 5 มิลลิลิตรต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ช่วยลดค่า Triglyceride ลงเฉลี่ย 12% โดยไม่กระทบต่อความดันโลหิต นอกจากนี้ วิตามิน E และฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในผลซีบัคธอร์นยังช่วยยับยั้งการออกซิไดซ์ของไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น

2. ควบคุมน้ำตาลในเลือดและเมตาบอลิซึม

ซีบัคธอร์นช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและเสริมการทำงานของเมตาบอลิซึม

สาร Isorhamnetin ซึ่งเป็น Flavonol เฉพาะตัวของซีบัคธอร์น มีผลในการกระตุ้นเอนไซม์ AMPK (AMP-activated protein kinase) ซึ่งควบคุมการเผาผลาญกลูโคสและไขมันในระดับเซลล์ งานวิจัยในวารสาร Food & Function (2021) ระบุว่าผู้ป่วยกลุ่มภาวะ pre-diabetes ที่ได้รับสารสกัดซีบัคธอร์น 500 มก./วัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีค่าความไวต่ออินซูลินดีขึ้นถึง 18% และระดับน้ำตาลหลังอาหารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือมีปัญหาไขมันพอกตับจากการเผาผลาญผิดปกติ

3. ต้านการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน

ซีบัคธอร์นมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ผลและใบซีบัคธอร์นมี Quercetin และ Kaempferol ซึ่งเป็นสาร Polyphenols ที่ช่วยลดการสร้างสารไซโตไคน์ (Cytokines) ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น TNF-α และ IL-6 พร้อมเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดขาวชนิด Macrophage ที่มีหน้าที่กำจัดเซลล์เสียและสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ในเชิงภูมิคุ้มกัน น้ำมันซีบัคธอร์นยังมีวิตามิน C และ E ในอัตราส่วนที่สมดุล ทำให้ร่างกายสร้าง Glutathione ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในเซลล์ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเต็มประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของซีบัคธอร์นในสกินแคร์

ประโยชน์ของซีบัคธอร์นในสกินแคร์เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิว

ซีบัคธอร์นถูกใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางธรรมชาติมายาวนาน โดยเฉพาะในยุโรปและเกาหลี เพราะมีทั้งกรดไขมัน วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง จึงเป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์กลุ่ม anti-aging, brightening และ skin barrier repair ปัจจุบัน โรงงานผลิตครีม ชั้นนำของไทยจำนวนมาก รวมถึงผู้พัฒนาสูตร OEM/ODM ต่างเลือกใช้สารสกัดซีบัคธอร์นในสูตรบำรุงผิวระดับพรีเมียม เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่เห็นชัดและผ่านการยืนยันทางวิทยาศาสตร์

1. ฟื้นฟูผิวแห้งและลดการระคายเคือง

ซีบัคธอร์นช่วยฟื้นฟูผิวแห้งและลดการระคายเคือง

กรดไขมันโอเมก้า 7 และโอเมก้า 9 จากน้ำมันผลซีบัคธอร์นมีโครงสร้างคล้ายกับไขมันตามธรรมชาติในชั้นผิว (Stratum Corneum) เมื่อใช้ในสูตรครีมหรือเซรั่มจะช่วยคืนสมดุลความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำจากผิว (TEWL) ทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำมันซีบัคธอร์นสามารถลดอาการอักเสบจากการโดนแสงแดดและรอยแดงจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 48 ชั่วโมงหลังใช้ (อ้างอิง: European Journal of Dermatology, 2020)

2. ปรับผิวกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ

ซีบัคธอร์นช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสและลดเลือนรอยดำ

วิตามิน C และ Flavonoids ในผลซีบัคธอร์นมีบทบาทในการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่ควบคุมการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิตามิน C ยังช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ จึงมักถูกใช้ในสูตรไวท์เทนนิ่งและสูตรลดรอยสิว

3. ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัยผิว

ซีบัคธอร์นมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยชะลอวัยผิว

เบต้าแคโรทีนและวิตามิน E ในน้ำมันซีบัคธอร์นช่วยลดความเสียหายของเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสง UV และมลภาวะ เมื่อนำมาใช้ในครีมบำรุงจะช่วยลดการเกิดริ้วรอยร่องลึก และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า Omega-7 กระตุ้นการซ่อมแซมคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวชั้นใน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 15–20% ภายใน 6 สัปดาห์

4. เสริมการผลัดเซลล์ผิวและฟื้นฟูชั้นผิว

ซีบัคธอร์นช่วยผลัดเซลล์ผิวและฟื้นฟูโครงสร้างชั้นผิว

สารต้านอนุมูลอิสระในซีบัคธอร์น เช่น Superoxide Dismutase (SOD) และ Polyphenols ช่วยลดการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในชั้นหนังกำพร้า จึงเหมาะกับการใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลังทำเลเซอร์หรือผลัดเซลล์เคมี (Chemical Peeling)

ซีบัคธอร์นสามารถรับประทานได้ไหม?

น้ำมันซีบัคธอร์นจากผลและเมล็ดสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย และถือเป็นอาหารเสริมระดับพรีเมียมในยุโรปและเอเชีย ปัจจุบันนิยมผลิตในรูปแบบแคปซูลหรือน้ำมันรับประทาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากภายในและบำรุงหัวใจ

คุณประโยชน์เมื่อรับประทาน

  • บำรุงผิวจากภายใน: ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวได้ถึง 48% หลังรับประทานต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ (Clinical Study, Phytotherapy Research, 2021)
  • ลดอาการตาแห้ง: Omega-7 ในซีบัคธอร์นช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำตาและลดการระคายเคืองของตา
  • ฟื้นฟูเยื่อบุภายใน: มีผลดีต่อระบบทางเดินอาหารและเยื่อบุช่องปาก ลดแผลร้อนในและกรดไหลย้อน

ปริมาณที่แนะนำและข้อควรระวัง

  • ปริมาณที่ปลอดภัยคือวันละ 500–1000 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับรูปแบบผลิตภัณฑ์
  • ควรรับประทานหลังอาหารเพื่อเพิ่มการดูดซึมของกรดไขมัน
  • ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
  • เก็บในที่เย็นและพ้นแสง เพื่อป้องกันการเสื่อมของกรดไขมันไม่อิ่มตัว

สรุป: ซีบัคธอร์นคือส่วนผสมธรรมชาติที่ครบทั้งสุขภาพและผิวสวย

ซีบัคธอร์นไม่เพียงเป็น “สารสกัดแห่งความงาม” ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และอ่อนเยาว์ แต่ยังเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ที่มีงานวิจัยรองรับด้านสุขภาพมากมาย เหมาะสำหรับนำมาใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์สกินแคร์เชิงวิทยาศาสตร์ หรืออาหารเสริมที่เน้นความเป็นธรรมชาติและปลอดภัย

หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ที่สนใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากซีบัคธอร์น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สารสกัดสกินแคร์คุณภาพ และบริการ รับผลิตสกินแคร์ OEM เพื่อเริ่มต้นสร้างสูตรเฉพาะของคุณได้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับซีบัคธอร์น

ซีบัคธอร์นมีวิตามินอะไรบ้าง?

มีวิตามิน A, C, E สูงมาก รวมถึงวิตามินกลุ่ม B และ K ที่ช่วยบำรุงผิวและระบบภูมิคุ้มกัน

ซีบัคธอร์นช่วยให้ผิวขาวขึ้นไหม?

ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นจากการยับยั้งเมลานินด้วยวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ

ซีบัคธอร์นกินได้ทุกวันไหม?

สามารถรับประทานได้ทุกวันในปริมาณที่แนะนำ (ไม่เกิน 1,000 มก./วัน)

เหมาะกับผิวประเภทไหน?

เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย และผิวที่ต้องการฟื้นฟู

ซีบัคธอร์นต่างจากน้ำมันทั่วไปอย่างไร?

มีกรดไขมันโอเมก้า 7 ซึ่งพบได้ยากในน้ำมันอื่น ทำให้ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีกว่า

ข้อมูลอ้างอิง

  1. พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์. (2566). Phenolic Compounds / สารประกอบฟีนอล. Food Network Solution. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤษภาคม 2023.
  2. Petre, A. (2022). The Top 11 Health Benefits of Sea Buckthorn Oil. Healthline. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤษภาคม 2023.
  3. Neustadt, J. (2023). Sea Buckthorn for Heart & Liver Health. Taste for Life. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤษภาคม 2023.
  4. Ren, Z., Gong, H., Zhao, A., Zhang, J., Yang, C., Wang, P., & Zhang, Y. (2021). Effect of Sea Buckthorn on Plasma Glucose in Individuals with Impaired Glucose Regulation: A Two-Stage Randomized Crossover Intervention Study. PubMed. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤษภาคม 2023.
  5. Vashistha, V., Barhwal, K., Kumar, A., Hota, S. K., Chaurasia, O. P., & Kumar, B. (2016). Effect of Seabuckthorn Seed Oil in Reducing Cardiovascular Risk Factors: A Longitudinal Controlled Trial on Hypertensive Subjects. PubMed. เข้าถึงเมื่อ 25 พฤษภาคม 2023.

เกี่ยวกับผู้เขียน

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน

    คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, หน้าเว็บที่ได้รับความนิยม และพฤติกรรมการท่องเว็บ ซึ่งช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า